ข่าวเศรษฐกิจ

ตรุษจีนปี 65 เงินสะพัดต่ำสุด! ในรอบ 11 ปี เหตุจากของแพง

27 ม.ค. 65
ตรุษจีนปี  65 เงินสะพัดต่ำสุด! ในรอบ 11 ปี เหตุจากของแพง
ไฮไลท์ Highlight
ส่งผลให้เม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้อยู่ที่เพียง 39,627 ล้านบาท ติดลบ 11.82% มูลค่าการใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับจากปี 2555 โดยลดลงมากถึง 5,300 ล้านบาทจากปี 2564 ซึ่งมูลค่าเงินที่สะพัดที่ลดลงนี้ กระทบต่อจีดีพี 0.05%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดตรุษจีนปี 2565นี้ มีเงินสะพัด 39,627.79 ล้านบาท อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี โดยมีปัจจัยกดดันสำคัญจากปัญหาราคาสินค้าแพง

 

27 ม.ค.65 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565  พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 44.7 % ระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายในปีนี้ลดลงจากปีก่อน เพราะสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง ทำให้รายได้หดหาย รวมถึงราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะเนื้อสุกร และไก่ จึงจำเป็นต้องมีการลดค่าใช้จ่าย

 

ส่งผลให้เม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้อยู่ที่เพียง 39,627 ล้านบาท ติดลบ 11.82% มูลค่าการใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับจากปี 2555 โดยลดลงมากถึง 5,300 ล้านบาทจากปี 2564 ซึ่งมูลค่าเงินที่สะพัดที่ลดลงนี้ กระทบต่อจีดีพี 0.05%

 

แต่ในช่วงเดียวกันรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่ง ก็พอจะช่วยทดแทนไปได้ แต่การลดวงเงินคนละครึ่งเหลือคนละ 1,200 บาท จากเดิม 1,500 บาท ทำให้เม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหายไป 1.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้การกระตุ้นเศรษฐกิจหายไป 0.15-0.2% สอดคล้องกับพรที่ประชาชนขอในในตรุษจีนปีนี้ คือขอให้ตนเองและครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคโควิด-19 ขอให้หมดหนี้สิน และขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น

 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ให้คลี่คลายได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความเชื่อมั่น ก็เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ได้แก่ การออกมาตรการ Test and Go, การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร, การเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อเติมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการส่วนปัญหาราคาสินค้าแพงนั้น มีสาเหตุมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมันและค่าขนส่ง ซึ่งหากรัฐบาลมีมาตรการที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ก็จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้

 

812415

 

 

ผลสำรวจยังพบว่าผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 2 หมื่นบาท จะได้รับผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และมีปัญหาหนี้เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถทนทานต่อภาระหนี้ หากยังไม่มีรายได้เพิ่มได้อีกราว 18 เดือน แต่การเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงในขณะนี้ จะเป็นแรงกดดันเชิงลบต่อระบบเศรษฐกิจ และอาจทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเลิกจ้างได้

 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3.5% อัตราเงินเฟ้อแยู่ที่ 2% และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ควรมีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 3

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT