ธุรกิจการตลาด

'MIT' ครองที่ 1 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 'จุฬาฯ' คว้าอันดับที่ 211

1 ก.ค. 66
'MIT' ครองที่ 1 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 'จุฬาฯ' คว้าอันดับที่ 211

‘สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์’ หรือ MIT ครองแชมป์เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกเป็นปีที่ 12 ต่อกันในการจัดอันดับ QS World University Rankings ปี 2024 ส่วน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคว้าอันดับที่ 211 ของโลก เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 224 จากการจัดอันดับปี 2023

การจัดอันดับ QS World University Rankings ในปีนี้ เป็นการจัดอันดับคุณภาพของมหาวิทยาลัยทั่วโลกครั้งที่ 20 แล้วโดย Quacquarelli Symonds (QS) หน่วยงานวิเคราะห์ข้อมูลด้านการศึกษา โดยเป็นการเก็บข้อมูลชี้วัดคุณภาพในด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัยทั่วโลกกว่า 1,500 แห่ง จาก 104 ประเทศทั่วโลก

ในปีที่ผ่านมา QS จัดอันดับมหาวิทยาลัยเหล่านี้ผ่าน 5 ตัวชี้วัดด้วยกันคือ 

  1. ชื่อเสียงด้านวิชาการในหมู่นักวิชาการด้วยกัน ซึ่งวัดผ่านการถามความเห็นจากนักวิชาการทั่วโลกในกว่า 140 ประเทศ 
  2. อัตราส่วนผู้สอนต่อผู้เรียน เพื่อดูว่ามหาวิทยาลัยมีผู้สอนเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนหรือไม่ รวมไปถึงคุณภาพการสอน ขนาดคลาสเรียน การพัฒนาหลักสูตร คุณภาพแล็บทดลอง และการจัดงานสัมนาต่างๆ เพื่อดูว่าผู้เรียนได้รับการเรียนการสอนที่มีคุณภาพหรือไม่
  3. อัตราส่วนงานที่ได้รับอ้างอิงต่อผู้สอน เพื่อดูว่าบุคลากรของมหาวิทยาลัยใดสามารถผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ คือมีนักวิชาการคนอื่นนำไปอ้างอิงต่อ มากที่สุดต่อจำนวนผู้สอน 1 หนึ่งคน
  4. ชื่อเสียงของบัณฑิตในหมู่บริษัทผู้จ้างงาน ซึ่งวัดผ่านการถามความเห็นจากบริษัทหรือผู้ว่าจ้างทั่วโลกให้ประเมินบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ว่ามีความสามารถเป็นอย่างไร
  5. จำนวนผู้เรียนและผู้สอนต่างชาติ เพื่อดูว่ามหาวิทยาลัยดังกล่าวมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของทั้งบุคลากรและผู้เรียน หรือมีคุณภาพมากพอที่จะดึงดูดให้ผู้สอนและผู้เรียนต่างชาติยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาสอนหรือเรียนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ QS ได้เพิ่มอีก 3 ตั่วชี้วัดเข้าไปคือ 1) การส่งเสริมความยั่งยืนในมหาวิทยาลัย 2) อัตราการได้งานและผลงานของศิษย์เก่า 3) เครือข่ายการวิจัยระดับโลก

จากการประเมินดังกล่าว มหาวิทยาลัยที่ได้รับการประเมินสูงที่สุด 10 อันดับก็คือ

  1. สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ใน สหรัฐอเมริกา
  2. มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) ใน สหราชอาณาจักร
  3. มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford University) ใน สหราชอาณาจักร
  4. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ใน สหรัฐอเมริกา
  5. มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ใน สหรัฐอเมริกา
  6. อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) ใน สหราชอาณาจักร
  7. สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส ซูริก (ETH Zurich) ใน สวิตเซอร์แลนด์
  8. มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) ใน สิงคโปร์
  9. มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (UCL) ใน สหราชอาณาจักร
  10. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley) ใน สหรัฐอเมริกา

university

โดยจะเห็นได้ว่าใน 10 อันดับแรกมีเพียงมหาวิทยาลัยเดียวจากเอเชียคือ NUS ที่ติดเข้าไป ในส่วนของประเทศไทย 5 อันดับแรก คือ 

  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้อันดับ 211 ของโลก
  2. มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้อันดับ 382 ของโลก
  3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้อันดับ 571 ของโลก
  4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้อันดับที่ 600 ของโลก
  5. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้อันดับอยู่ในระหว่างที่ 751-760 ของโลก



ที่มา: QS



advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT