‘อาลีบาบา’ (Alibaba) บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของจีนกำลังจะมีการปรับโครงสร้างบริษัทครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการแตกธุรกิจออกเป็น 6 บริษัทย่อย เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน เตรียมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหลังถูกนโยบายควบคุมสอดส่องธุรกิจเอกชนของรัฐบาลจีนทำธุรกิจซบเซาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ในการปรับโครงสร้างครั้งแรกใน 24 ปีที่ตั้งบริษัทมานี้ Alibaba จะกลายสภาพเป็นบริษัทโฮลดิ้ง หรือบริษัทแม่ของอีก 6 บริษัทที่จะแยกไปมี CEO และทีมบริหารเป็นของตัวเอง รวมไปถึงมีแผนที่จะนำหุ้นเข้า IPO เพื่อระดมทุนเป็นของตัวเองต่อไปในอนาคต ยกเว้น Taobao Tmall Commerce Group ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศที่ Alibaba จะยังเป็นเจ้าของ 100%
Daniel Zhang ซีอีโอของ Alibaba กล่าวว่า การปรับโครงสรา้งครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับบริษัท และทำให้การติดต่อสื่อสารและตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นไปเพื่อนเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น และเพิ่มขีดการแข่งขันของบริษัทในตลาด โดยเขาจะยังคงทำหน้าที่เป็นประธานและซีอีโอของ Alibaba Group ต่อไปหลังปรับโครงสร้างแล้ว
การปรับโครงสร้างในครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Alibaba บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในจีนถูกรัฐบาลจีนออกกฎควบคุมและจับตามองอย่างหนัก จนทำให้ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัทอย่าง แจ็ค หม่า (Jack Ma) ต้องหนีออกไปอยู่นอกประเทศ และเพิ่มกลับเข้าจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ Alibaba จะออกมาประกาศปรับโครงสร้างนี้ 1 วัน
จากแถลงการณ์ของ Alibaba ทั้ง 6 บริษัทจะดำเนินธุรกิจหลักในกลุ่มต่างๆ 6 กลุ่มของ Alibaba ดังนี้
- Cloud Intelligence Group กลุ่มธุรกิจคลาวด์ และปัญญษประดิษฐ์ ที่จะมี Daniel Zhang ซีอีโอของ Alibaba เป็นซีอีโอ
- Taobao Tmall Commerce Group กลุ่มธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศ อย่างเว็บไซต์เถาเป่า (Taibao) และ Tmall ซึ่งจะมี Trudy Dai ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba Group เป็นซีอีโอ
- Local Services Group กลุ่มธุรกิจการเดินทาง และการส่งอาหาร ที่จะมี Yu Yongfu อดีตซีอีโอของธุรกิจ Local Life ของ Alibaba เป็นซีอีโอ
- Cainiao Smart Logistics กลุ่มธุรกิจลอจิสติกส์ ที่มี Wan Lin เป็นซีอีโอ
- Global Digital Commerce Group กลุ่มธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในต่างประเทศอย่าง Lazada และ AliExpress ซึ่งจะมี Jiang Fan เป็นซีอีโอ
- Digital Media and Entertainment Group กลุ่มธุรกิจด้านความบันเทิง เช่น แพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของจีนอย่าง Youku และ Alibaba Pictures ซึ่งจะมี Fan Luyuan เป็นซีอีโอ
โดยจากรายงานผลประกอบการของ Alibaba ใน 9 เดือนหรือ 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2022 (1 เม.ย. 2022 - 31 ธ.ค. 2022 ธุรกิจที่ทำรายได้ให้ Alibaba มากที่สุดก็คือ
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีน ทำรายได้ 446,658 ล้านหยวน คิดเป็น 67.5% ของรายได้ทั้งหมด (-1% จากปีก่อนหน้า)
- ธุรกิจคลาวด์ ทำรายได้ 58,621 ล้านหยวน คิดเป็น 8.9% ของรายได้ทั้งหมด (+5% จากปีก่อนหน้า)
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ ทำรายได้ 50,663 ล้านหยวน คิดเป็น 7.7% ของรายได้ทั้งหมด (+8% จากปีก่อนหน้า)
- ธุรกิจลอจิสติกส์ ทำรายได้ 42,062 ล้านหยวน คิดเป็น 6.4% ของรายได้ทั้งหมด (+22% จากปีก่อนหน้า)
- ธุรกิจการเดินทางและส่งอาหาร ทำรายได้ 37,563 ล้านหยวน คิดเป็น 5.7% ของรายได้ทั้งหมด (+11% จากปีก่อนหน้า)
- ธุรกิจด้านความบันเทิง ทำรายได้ 23,209 ล้านหยวน คิดเป็น 3.5% ของรายได้ทั้งหมด (-4% จากปีก่อนหน้า)
มูลค่าบริษัทของ Alibaba หายไปมากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากช่วงพีคในเดือนตุลาคมปี 2020 หลังจากรัฐบาลจีนเข้ามาสอดส่องการทำงานของ Alibaba จนแผน IPO ของ Ant Group ที่ดูแลธุรกิจเทคโนโลยีการเงินของ Alibaba ต้องล้มเลิกไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 นอกจากนี้ในปี 2021 Alibaba ยังถูกปรับในข้อหาทำธุรกิจกินรวบตลาดเป็นมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยนักวิเคราะห์มองว่า การแตกบริษัทออกเป็น 6 บริษัทเล็กในครั้งนี้จะช่วยลบภาพลักษณ์ธุรกิจใหญ่กินรวบที่เป็นที่จับตามองของรัฐบาลจีน และช่วยทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นในช่วงที่รัฐบาลจีนเริ่มคลายการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19