ธุรกิจการตลาด

เปิด 10 อันดับแบรนด์เอเชียที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก โดย 'Interbrand'

8 พ.ย. 65
เปิด 10 อันดับแบรนด์เอเชียที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก โดย 'Interbrand'

Interbrand บริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ชื่อดังของโลก เปิดเผยอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกประจำปี 2022 โดยใน 100 อันดับแรก มีแบรนด์จากเอเชียติดเข้าไป 12 แบรนด์ด้วยกัน นำโดย Samsung ที่อยู่อันดับที่ 5 และ Toyota ที่อยู่อันดับที่ 6 

Top Best Global Brands เป็นการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ทั่วโลกที่ Interbrand จะตีพิมพ์ในช่วงปลายปีคือ ตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี โดย Interbrand จะประเมินมูลค่าของแต่ละแบรนด์ผ่าน 3 ตัวชี้วัดด้วยกันคือ

  1. ผลประกอบการ
  2. อิทธิพลของแบรนด์ที่มีต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
  3. ความแข่งแกร่งของแบรนด์ ซึ่งจะประเมินผ่านหลายตัวชี้วัดย่อย ทั้งปัจจัยภายใน เช่น ความเป็นผู้นำ ทิศทางของแบรนด์ที่ต้องมีความชัดเจน รวมไปถึงความสามารถในการปรับตัว และ ปัจจัยภายนอก เช่น ความโดดเด่นของแบรนด์และสินค้าในตลาด และภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภค

 

10 อันดับแรก ถือเป็นตัวแทนบริษัทที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลายด้าน 

ในปี 2022 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับแรกยังคงเป็น 5 บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของโลกคือ Apple, Microsoft, Amazon, Google และ Samsung โดยทั้ง 5 แบรนด์นี้มีอายุเฉลี่ยเพียง 39.6 ปี จากอายุเฉลี่ยของทั้ง 100 แบรนด์ที่สูงถึง 110 ปี บ่งบอกว่าในโลกธุรกิจปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง ทำให้บริษัทต้องพัฒนาสินค้าและบริการของตัวให้ทันโลกอยู่เสมอ

ในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 36 แบรนด์เท่านั้นที่ยังเกาะที่นั่งใน 100 อันดับไว้ได้อย่างเหนียวแน่นและมีแบรนด์ดังมากมายเช่น Nokia, Yahoo! และ MTV ที่ต้องตกออกจากลิสต์ไป

จากการวิเคราะห์ของ Interbrand แบรนด์ทั้งหมดที่อยู่ใน 10 อันดับแรกในปีนี้ล้วนเป็นบริษัทที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลายด้าน จนมีความสำคัญในการใช้ชีวิตของลูกค้า เช่น Apple ที่ทั้งผลิตและจำหน่ายแกดเจ็ตอิเล็กทรอนิกส์หลายรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการหลายด้านของลูกค้า อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่น บริการด้านการชำระเงิน และบริการสตรีมมิ่งวีดีโอ และเพลง

 

แบรนด์เอเชีย ติด 12 อันดับ Xiaomi มาแรง ติดใน 100 อันดับปีแรก

ในหมู่แบรนด์ดังจากอเมริกาและยุโรป มีแบรนด์จากเอเชียติดเข้า 100 อันดับแรก 12 แบรนด์ด้วยกันคือ Samsung, Toyota, Honda, Hyundai, Sony, Nissan, Nintendo, Xiaomi, Huawei, Kia, Panasonic และ Canon โดยส่วนมากเป็นแบรนด์ในหมวดหมู่ ‘ยานยนต์’ และเป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น

892881

แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ Xiaomi แบรนด์เทคโนโลยีจากจีนที่ติด 100 อันดับแบรนด์ที่มูลค่าสูงที่สุดในโลกเป็นปีแรก แต่มาแรงจนแซงหน้าแบรนด์ร่วมชาติในอุตสาหกรรมใกล้เคียงอย่าง Huawei ไปถึง 2 อันดับ

จากวิเคราะห์ของ Interbrand พบว่า  Xiaomi เป็นแบรนด์ที่มีจุดเด่นในด้านสินค้าที่มีคุณภาพดี แต่ราคาย่อมเยา อีกทั้งยังมีวิธีทำการตลาดสร้างสรรค์ ที่เน้นให้ลูกค้าเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ สอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์คือ “innovation for all” หมายถึงการสร้างนวัตกรรมคุณภาพที่ทุกคนในทุกประเทศ ทุกเพศ ทุกชนชั้น สามารถเข้าถึงได้

000_8yt6pm_1

Xiaomi สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ทางแบรนด์เรียกว่า ‘Xiaomi Fans’ ผ่านชุมชนออนไลน์ชื่อ Xiaomi Community ที่ให้ลูกค้าสามารถมาพูดคุย แชร์ทริกในการใช้สินค้าของ Xiaomi รวมไปถึงสร้างกิจกรรม หรือการประกวดให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อชิงรางวัล

ปัจจุบัน Xiaomi เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 3 ของโลก ตามหลังเพียง Apple และ Samsung โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 Xiaomi มีส่วนแบ่งการตลาด 13% มากกว่า Huawei ที่ตามมาที่ 10%

 

Microsoft, Tesla, Chanel ขึ้นแท่นแบรนด์โตเร็วที่สุดในโลก

ในปีนี้ แบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดใน 100 อันดับคือ Microsoft, Tesla และ Chanel ที่มูลค่าแบรนด์เติบโต 32% จากปีที่แล้วทั้งหมด 

จากการวิเคราะห์ของ Interbrand ปัจจัยหลักที่ทำให้ Microsoft มีการเติบโตที่รวดเร็วในปีนี้คือ ‘Integrity’ ในองค์กร ที่หมายถึง ความซื่อสัตย์ต่อองค์กร และลูกค้า ในการมุ่งมั่นทำในสิ่งที่เคยสัญญากับผู้บริโภคไว้ ทำให้แบรนด์ Microsoft มีความน่าเชื่อถือสูงในสายตาลูกค้า 

อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเยี่ยมภายใต้การนำของ CEO คนปัจจุบัน ‘สัตยา นาเดลลา’ ที่สร้างผลงานในการสร้างทิศทางใหม่ให้กับบริษัท โดยเบนเข็มจากระบบปฏิบัติการ Windows มาเป็น Cloud และบริการซอฟต์แวร์แบบ Subscription ที่ Microsoft เป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ทำให้ Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทที่มี ‘ทิศทาง’ การพัฒนาสินค้าและบริการชัดเจนที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก ซึ่ง ‘ความชัดเจนในทิศทางธุรกิจ’ นี้เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่ Interbrand ใช้ประเมินมูลค่าของแบรนด์

000_1dz2sz

ในส่วนของ Tesla จากการวิเคราะห์ของ Interbrand แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้านี้มีจุดเด่นในฐานะผู้นำตลาด เพราะ Tesla เป็นบริษัทแรกที่เล็งเห็นการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และกระโดดเข้ามาลงทุนและทำการตลาดให้ตัวเองเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะเป็นแบรนด์แรก 

อีกทั้งยังมีวิธีการทำภาพลักษณ์ให้แบรนด์มีความโดดเด่นออกมาจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเจ้าอื่น ทำให้การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น่ามีส่วนร่วม ซึ่งช่วยอย่างมากในการเร่งให้โลกเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาด 

นอกจากนี้ ตัวแบรนด์ยังมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับวิกฤติสูง โดยถึงแม้ในปีที่ผ่านมาโลกจะประสบปัญหาขาดแคลนชิป Tesla ก็ยังรายได้ได้ถึง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดขายรถยนต์เพิ่มถึง 87% จากปีก่อนหน้า


ที่มา: Interbrand, CNET, Counterpoint Research

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT