ธุรกิจการตลาด

Tesla เลย์ออฟเพิ่มอีก 200! ปิดออฟฟิศ-เลิกจ้างฝ่าย Autopilot

29 มิ.ย. 65
Tesla เลย์ออฟเพิ่มอีก 200! ปิดออฟฟิศ-เลิกจ้างฝ่าย Autopilot

 

บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 1 ของโลก "เทสลา" เพิ่งจะถูกอดีตพนักงานฟ้องไปหมาดๆ โทษฐาน "เลย์ออฟครั้งใหญ่แบบฟ้าผ่า" แต่ดูเหมือนว่ากระแสการเลิกจ้างจะยังไม่จบลง


ล่าสุด Tesla เพิ่งประกาศเลิกจ้างเพิ่มอีก 200 คน พร้อมการปิดสำนักงานแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ที่เป็นงานด้าน Autopilot โดยเฉพาะ


CNBC และ Bloomberg รายงานว่า เทสลา ได้ประกาศปิดสำนักงานใน San Mateo รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมเลิกจ้างพนักงาน 200 คน จากทั้งหมดราว 350 คน โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งอีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเทสลาเคยบอกไว้ว่า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลง ทำให้จำเป็นต้องลดพนักงานลงประมาณ 10% จากพนักงานประมาณ 1 แสนคนทั่วโลก


การเลย์ออฟรอบนี้ยังน่าสนใจด้วยตรงที่ว่า เป็นงานในกลุ่ม Data Labeling และ Autopilot ของเทสลา ที่เป็นระบบช่วยขับอัตโนมัติ ทำให้รถไม่ชนสิ่งกีดขวาง และไม่มีปัญหาเวลาเจอสัญญาณไฟจราจร พนักงานส่วนใหญ่ถือเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ และเป็นพนักงานจ้างรายชั่วโมง ซึ่งเทสลาเคยระบุถึงคนที่ทำงานในสายนี้ว่า เป็นส่วนที่มีความสำคัญมากในระบบ AI ซึ่งช่วยเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ


4_41

ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ เคยออกมาแก้ต่างว่า ไม่ได้เลย์ออฟถึง 10% เพราะเมื่อหักกลบจากที่จ้างใหม่เข้ามาด้วย ก็จะเป็นการเลย์ออฟเพียง 3.5% เท่านั้น และบริษัทจะเน้นการจ้างานพนักงานแบบรายชั่วโมงเข้ามาเติมเต็มมากขึ้นแทน


ทั้งนี้ เทสลากำลังถูกอดีตพนักงาน 2 ราย ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐเท็กซัส ข้อหาเกี่ยวกับการตัดสินใจเลย์ออฟพนักงานแบบฟ้าผ่าโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยอดีตพนักงานทั้ง 2 คนอ้างว่า พวกเขาและอดีตพนักงานรวมอีกกว่า 500 ชีวิต ถูกสั่งปลดแบบฟ้าผ่า จากโรงงานเทสลาในรัฐเนวาดา ในเดือนมิถุนายน ปีนี้


ทั้งคู่อ้างว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายการจ้างงาน Worker Adjustment and Retraining Notification Act ที่ระบุว่านายจ้างจะต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ในกรณีที่จะเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากกว่า 50 คน หรือจะปิดโรงงาน

advertisement

SPOTLIGHT