ใจสลาย! ชันสูตร "พอร์ช" ช้ำในดับ พี่เลี้ยงอ้างตกเตียงฟาดตู้ พฐ.ไขปริศนาจากผ้าห่ม (คลิป)

จากกรณี นายกิตติธัต เล็กเขต อายุ 24 ปี ผู้เป็นพ่อ และนางสาวปิยะธิดา ดิลกกุลภัทร อายุ 21 ปี ผู้เป็นแม่ อาชีพรับจ้างทั่วไปได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายจิตอาสาเนื่องจาก น้องพอร์ช อายุ 1 ขวบ 8 เดือน ที่นำไปฝากให้คนรู้จักเลี้ยง แล้วเสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 64

โดยพ่อแม่เด็กยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อยากจะนำศพไปผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุ ล่าสุดผล ตรวจออกมาอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าน้องพอร์ชเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายนั้น

วันที่ 28 ส.ค. 64 น.ส.นุ่น พี่เลี้ยงเด็ก ยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกายน้องพอร์ช วันเกิดเหตุหลังพบว่าน้องพอร์ชนอนแน่นิ่งไป ก็นำตัวเด็กไปหาหมอที่คลินิก และส่งต่อไปโรงพยาบาล จนสุดท้ายหมอแจ้งว่าเด็กเสียชีวิต ตนยังบอกให้พ่อแม่ของน้องพอร์ชส่งศพชันสูตรให้สิ้นข้อสงสัย แต่ทั้งคู่ไม่ยอมส่งและบอกว่าไม่ติดใจ แต่วันถัดมากลับเอาเรื่องดังกล่าวไปออกสื่อฯ พร้อมโจมตีตน

โดยยืนยันว่าร่องรอยต่าง ๆ ที่แม่น้องพอร์ชเปิดกับสื่อ เป็นรอยเก่าทั้งสิ้น เพราะน้องพอร์ชชอบเดินแล้วล้ม บางครั้งก็เล่นแล้วล้มลงไป อย่างรอยช้ำที่หลัง ก็เป็นรอยเก่าที่น้องพอร์ชกระโดดบนเตียงแล้วหงายหลังชนขอบตู้ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนไม่ได้ทำร้ายน้องพอร์ชแน่นอน

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเคยตีเด็ก 1 ครั้ง และได้แจ้งกับแม่น้องพอร์ช ซึ่งแม่ก็รับรู้ และไม่ได้ว่าอะไร ส่วนรอยกัดก็เกิดจากลูกชายของตนวัย 2 ขวบกัดน้องพอร์ช เด็กเล่นกันปกติ เพราะบางครั้งน้องพอร์ชก็ผลักลูกตนล้ม แต่ไม่มีอะไรรุนแรง ตอนนี้ตนไม่ทราบเรื่องผลที่ออกมา เพราะยังไม่มีใครแจ้ง แต่เชื่อว่าหากเป็นรอยที่หลังก็น่าจะเป็นร่องรอยเก่า

น.ส.นุ่น ยังนำทีมข่าวเข้าไปในห้องนอน ซึ่งเป็นจุดที่น้องพอร์ชเสียชีวิต มีเตียงนอนสูงประมาณ 40 เซนติเมตรอยู่กลางห้อง ด้านข้างและปลายเตียงมีตู้วางชิดกัน สาธิตเหตุการณ์ที่น้องพอร์ชตกเตียง ด้วยการขึ้นไปกระโดดบนเตียง พร้อมบอกว่าน้องพอร์ชหงายหลังไปกระแทกที่จับตู้ด้านล่างจนฟกช้ำ

เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ห้องของ น.ส.นุ่น เพื่อเก็บหลักฐาน ตรวจจุดเกิดเหตุ โดยได้เก็บปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มที่น้องพอร์ชใช้ในวันเสียชีวิตไปตรวจสอบ

นายกิตติธัต เล็กเขต อายุ 24 ปี พ่อเด็กผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นออกมาว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เนื่องจากมีรอยช้ำและเลือดออกภายใน ที่บริเวณหลัง ซึ่งเป็นรอยใหม่ พบว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งตอนที่ลูกชายเสียชีวิต ตนไม่เห็นรอยดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะเป็นอาการช้ำใน โดยในตอนแรกที่ตนยังไม่แจ้งความเพราะไม่ติดใจ คิดว่าไหลตาย แต่ภายหลังคุยกับญาติจึงนำศพลูกส่งชันสูตร

นายกิตติธัต ยืนยัน ว่าลูกชายเป็นเด็กแข็งแรง ร่าเริง ไม่เคยป่วย ส่วนกรณีที่ฝั่งพี่เลี้ยงบอกว่าลูกชายของตนชอบทำร้ายตัวเองนั้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้ หากเด็กเจ็บก็ต้องหยุด ส่วนตัวเชื่อว่าพี่เลี้ยงทำร้ายลูกชาย เพราะทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลหลายชั่วโมง จึงน่าจะเสียตั้งแต่ที่บ้านพี่เลี้ยง ทั้งนี้ คิดว่าพี่เลี้ยงย่อมรู้ดีแก่ใจว่าทำอะไร หากไม่ได้ทำร้ายลูกชายตนจะมีแผลได้อย่างไร ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ ทีมข่าวลองกัดแขนตัวเอง พบว่าต้องกัดอย่างแรงมาก จึงเกิดรอยแดงเป็นรูปฟันที่บริเวณแขน ข้อสังเกตว่าน้องพอร์ชน่าจะถูกกัดอย่างแรงจึงเกิดรอยแดงที่มือ และบริเวณหลัง