เมียหอบลูกหนีโควิดทำผัวระแวงบุกยิงคาบ้าน สุดเหี้ยมวกรถยิงหัว น้องไล่ปล้ำปืนร่วง (คลิป)

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 64 เวลา 23.30 น. ร.ต.อ.พัฒนพร พันธุ์ฟัก รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี, พ.ต.ท.สุเทพ บุญบุตร รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ้านหมอ, พ.ต.อ.ชาณภาค สุวรรณชื่น ผกก.สภ.บ้านหมอ ได้รับแจ้งจากมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยรถแกลบ หมู่ 4 ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมอ ไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง 1 เมตร พบกองเลือดจำนวนมากไหลนองพื้นหน้าบ้าน และในห้องนอน ต่อมาทราบชื่อผู้บาดเจ็บ น.ส.ณิดาวรีย์ แสงสุริยวงษ์ อายุ 41 ปี ลูกจ้างของ ป.ป.ช. ประจำสระบุรี ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่หน้าผาก 2 นัด และหน้าอกจำนวน 3 นัด เสียชีวิตระหว่างที่ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาล

บริเวณปากซอยห่างจากบ้านหลังที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ริมถนนจำนวน 1 กระบอก ใกล้กันยังพบรอยหยดเลือด ตำรวจเก็บอาวุธปืนที่พบไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด วันที่ 21 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านเกิดเหตุ โค้งยายป่อง ภายในซอยรถแกลบ หมู่ 4 ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี บริเวณหน้าบ้านพบคราบรอยเลือดหน้าประตูบ้าน เลือดหยดเป็นทางยาวลงมาถึงบริเวณที่จอดรถ ยาวกว่า 5 เมตร

น.ส.พลอยแก้ว อายุ 21 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลา 23.00 น. ตนเองได้ยินเสียงดังประมาณ 2-3 นัด และได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย ผู้ก่อเหตุก็ขับรถออกไปผ่านหน้าบ้านออกไป แล้วกลับเข้ามาอีก ได้ยินเสียงปืนดังสนั่น รู้สึกตกใจมากไม่กล้าออกไปจากบ้าน จนมาทราบภายหลังว่า น.ส.ณิดาวรีย์ เสียชีวิต

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะ น.ส.ณิดาวรีย์ เป็นคนนิสัยดี ร่าเริง ทักทายตนเองเสมอทุกครั้ง เวลาขับรถผ่านหน้าบ้าน ส่วนทั้งสองคนสามีภรรยานั้นมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง จากที่ตนเองได้ยินสามีมักจะหาว่าภรรยามีชายอื่น โดยเป็นเรื่องที่สามีหึงหวงภรรยา อีกทั้ง น.ส.ณิดาวรีย์ กลับมาพักอาศัยบ้านหลังนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยสามีก็จะแวะเวียนเข้ามาหาเรื่องทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง

ที่วัดสุนทรเทพมุนี ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นวัดที่จัดงานสวดอภิธรรมของ น.ส.ณิดาวรีย์ แสงสุริยวงษ์ อายุ 41 ปี ผู้เสียชีวิต โดยจะมีการจัดงานสวดอภิธรรมศพ 2 วัน และฌาปนกิจในวันที่ 23 ส.ค.64 บรรยากาศภายในวัดมีเพียงญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมายังงานสวดอภิธรรมศพ เต็มไปด้วยความโศรกเศร้า

นางปรานณี แสงสุริยวงษ์ อายุ 60 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า บ้านของตนพักอาศัยอยู่กันเพียงแค่ตนเอง ลูกสาว หลานวัย 1 ขวบ และหลานชาย ลูกติดสามีลูกสาว อายุ 15 ปี ในวันที่เกิดเหตุววานนี้ ช่วงกลางวัน 13.00 น. นายบุญเรือง จันทร์เจริญ หรือ เอ็ม อายุ 44 ปี ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามาที่บ้าน ทะเลาะกับลูกสาว พูดว่าลูกสาวของตนเองไปนอนกับคนอื่น แอบมีคนอื่น "เดี๋ยวกูจะฆ่ามันทั้งโคตรเลย" ลูกสาวได้บอกว่าไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นความจริงก็ไปฟ้องเอาสิ ไปตามหาตัวคนที่พูดกล่าวหามา

ซึ่งตนเองรู้จักลูกสาวตนเองดี ไม่มีทางทำเช่นนั้นได้ เพราะลูกสาวก็มีลูกสาวกับนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ เพิ่งจะอายุได้เพียงแค่ 1 ขวบ และออกไปจากบ้าน จนกระทั่งตอนเย็นตนเองบอกลูกสาวว่าให้ลองโทรหานายเอ็ม เพราะคาดว่าเขาอาจจะคิดถึงลูก เมื่อโทรหานายเอ็มไม่รับโทรศัพท์

ทั้งนี้ ครอบครัวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เนื่องจากทางด้านนายเอ็ม เคยพูดขู่จะฆ่าคนทั้งครอบครัวพูดหลายครั้งพูดมาประจำตลอดหลายเดือน จึงรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ต่อมาเวลาประมาณ 22.30 น. ได้ยินเสียงรถนายเอ็มเข้ามาที่บ้าน และได้ยินเสียงเท้าเดินเข้ามายังบ้าน เนื่องจากเป็นบ้านไม้ และนายเอ็มกระชากเปิดประตูอย่างแรง พูดทะเลาะกับลูกสาวด่าทอ ชักปืนขึ้นยิงที่หน้าอก 3 นัด ลูกสาวก็ล้มลงเลือดอาบ ตนจึงได้โทรหากู้ภัยและตำรวจ แต่ไม่มีใครเข้ามา ในระหว่างนั้นตนเองและหลานชาย อายุ 15 ปี ได้พยายามพยุงลูกสาวตนออกจากบ้านช่วงบริเวณบันได เพื่อที่จะพาไปโรงพยาบาล

ส่วนนายเอ็มขับรถออกไปจากบ้าน ผ่านไปกว่า 5 นาที ได้กลับเข้าอีกครั้ง หยิบปืนยิงเข้าที่หัวของลูกสาวตนหลายนัด ตนเองรีบวิ่งหนี กลัวจะโดนลูกหลง และทางด้านผู้ก่อเหตุก็ขับรถออกไปอีก ตนเองได้พาลูกสาวไปยังโรงพยาบาลบ้านหมอ แต่ลูกสาวน่าจะเสียชีวิตระหว่างทาง จนเมื่อถึงโรงพยาบาลก็ทราบจากทางแพทย์พยาบาล ระบุว่าเสียชีวิตจากอาการทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ส่วนเรื่องที่นายเอ็มให้การรับสารภาพหลังโดนจับว่าลูกสาวตนเองกู้เงินไป 420,000 บาท แล้วแอบปลอมลายเซ็นนั้น ขอชี้แจงว่าทางด้านสามีภรรยาทั้ง 2 คนนั้นรู้กันเพียง 2 คน เนื่องจากเขาตกลงกันจะสร้างบ้านด้วยกัน จึงไปกู้เงินมาสร้างบ้าน และทำเป็นโรงรถขนาดใหญ่ ซื้อข้าวของมาจำนวนมาก ช่วยเหลือกันจ่ายหนี้สิน ขณะนี้ครอบครัวผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อเขามาพูดคุย ตอนนี้กังวลมาก เนื่องจากตนเองเสียลูกสาวไปทั้งคน แต่ไม่มีการเยียวยา ส่วนลูกสาว 1 ขวบ ที่แม่เด็กเสียชีวิตและพ่อเด็กติดคุกนั้น ตนเองจะเป็นผู้เลี้ยงดูต่อไป

นายณัฏฐชัย แสงสุริยวงษ์ อายุ 39 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า เวลาประมาณ 22.30 น. ตนเองอยู่ที่อู่รถ ซึ่งทางด้านนายเอ็ม ขับรถมาตะโกนโวหกเหวกโวยวายหน้าอู่รถตนเอง เมื่อลงมาจากชั้น 2 ทางด้านนายเอ็มก็ได้ขับรถกลับเข้าไปในบ้านพี่สาว ต่อมาก็ขับรถออกมา ตนเองจึงได้รีบขี่รถตามเพื่อที่จะไปสกัดรถของนายเอ็ม จนเมื่อชนแล้วรถล้มนั้น จึงได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากตนเองคิดว่าผู้ก่อเหตุต้องเดินทางเข้าไปทำร้ายร่างกายพี่สาวตนเอง จนเมื่อระหว่างที่ชกต่อยกันนั้น ทำให้ปืนที่ใช้ก่อเหตุล่วงอยู่ข้างถนน ต่อมาโทรศัพท์ตนเองดังขึ้นมา น้องสาวโทรมาหาว่า "พี่สาวถูกยิง" ขณะเดียวกันที่หลุดจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันนั้น ทางด้านผู้ก่อเหตุตั้งหลักได้จึงขี่รถหลบหนีไป

ซึ่งนายเอ็มเคยขู่จะฆ่าครอบครัวของตนเอง บอกว่าจะฆ่ายกครัว จะฆ่ายกโคตร พูดเป็นประจำตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุนั้นมีพฤติกรรมนิสัยที่หึงหวงพี่สาวตนเอง ชอบคิดและอ้างว่าพี่สาวของตนเองนอกใจมีคนอื่น ซึ่งความจริงแล้วนั้นพี่สาวเพิ่งกลับมาอยู่บ้าน กับแม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 เนื่องจากกลัวว่าจะติดโควิด-19 จากบ้านของนายเอ็มที่คนภายในบ้านทั้งหมดติดเชื้อโควิด-19

ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด อยากให้ติดคุกตลอดชีวิต หรือหากถ้าสามารถประหารชีวิตได้ยิ่งดี อยากให้ได้รับกรรมที่ก่อเอาไว้ ส่วนทางด้านครอบครัวของผู้ก่อเหตุนั้นยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามา

ทั้งนี้ ตอนกลางวันเดินทางไปยัง สภ.บ้านหมอ ก็ได้พบครอบครัวผู้ก่อเหตุ ตนเองได้พูดว่า "สะใจแล้วหรือยัง จะเอายังไงต่อ" ทางด้านครอบครัวผู้ก่อเหตุตะโกนพยายามจะทำร้ายร่างกายตน บอกว่า "เดี๋ยวจะฟ้อง เดี๋ยวได้มีเรื่องกัน" และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญให้ตนเองกลับไป เพื่อป้องกันการเกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น