กรณีเพจ
หัวร้อน แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โดยเล่าว่าหนุ่มสักลายเต็มใบหน้าก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงสาวจนเบ้าตาแตก หวังฉุดมาข่มขืน แต่ฝ่ายหญิงสามารถหนีรอดออกมาได้ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ออกหมายจับนายประสาน แย้มชื่น หรือ มด ผู้ต้องหาแล้ว (อ่าน :
สาวเผยนาทีหนีตายหนุ่มหน้าลายดักฉุด ชก เตะหวังขืนใจ จี้ ตร.ล่า พ้นสัปดาห์ยังลอยนวล)
ขณะเดียวกันในวันนี้ช่วงบ่าย น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย พร้อมกับเพื่อนสนิท ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เสฐียรพงษ์ สำรองทรัพย์ รอง(สว.) สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อขอหลักฐานใบแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมกับเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้ไปพบกับแพทย์ที่โรงพยาบาลมา แพทย์บอกว่า บาดแผลที่ดวงตาไม่ได้บอด แต่มีเลือดคั่ง และต้องใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์ รอยบวมบนใบหน้าจึงจะยุบ ส่วนที่จมูกต้องให้หมอตรวจอีกครั้งเพราะมีลักษณะคล้ายกับว่ากระดูกจมูกร้าว ส่วนร่องรอยบาดแผลอื่นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งตนก็ยังรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณใบหน้า
สำหรับเบาะแสของคนร้าย ตอนนี้มีกระแสว่าอยู่ที่เมืองกาญจนบุรีและชลบุรี ทำให้ตนรู้สึกไม่มั่นใจ ที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ส่วนตัวรู้สึกผวา กลัวคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก รวมถึงเวลาตนเจอคนที่มีรอยสัก ลักษณะคล้ายคนร้าย หรืออยู่ที่มืดเพียงลำพังก็จะรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ตอนนี้ตนต้องย้ายที่อยู่ไปพักกับแม่ในจังหวัดอื่นแทน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า ตนก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ฤทธิ์จรูญ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ความมั่นใจกับตนว่า ออกหมายจับคนร้ายแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา คาดว่าจะตามจับได้ภายในเร็ว ๆ นี้ ทำให้ตนรู้สึกสบายใจมากขึ้น และอยากให้ตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว หากได้ตัวคนร้ายมา ตนก็จะดำเนินการในส่วนเรียกร้องค่าเสียหายร่วมด้วย
น.ส.เจี๊ยบ กล่าวทิ้งท้ายว่า กับตัวผู้เสียหาย ตนคงไม่มีอะไรอยากจะพูดถึง เพราะตนหวาดกลัว แต่อยากเตือนผู้หญิงด้วยกันว่า อย่าขับรถไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา ตนก็ไม่กล้าไปไหนคนเดียวอีก
น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) ผู้ให้ความช่วยเหลือ น.ส.เจี๊ยบ ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนนักดนตรี อยู่ที่ร้านอาหารตามสั่งบริเวณร้านขายอะไหล่รถยนต์ ก็สังเกตเห็นน้องเจี๊ยบขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านไปเพียงลำพัง จากนั้นประมาณไม่เกิน 15 นาที น้องเจี๊ยบก็วิ่งร้องไห้มาขอความช่วยเหลือ สภาพร่างกายค่อนข้างบาดเจ็บสาหัส ดวงตาบอบช้ำ ผมกระเซิง แทบจดจำใบหน้าเค้าโครงเดิมไม่ได้ ขณะนั้นน้องเจี๊ยบมีสติดี ไม่ได้เมาสุรา พร้อมบอกว่าคนที่ทำร้ายมีรูปพรรณสักลายบนใบหน้า และเป็นคนที่กระโดดขึ้นไปบนเวทีตอนอยู่ในผับ ทำให้ตนจดจำได้ว่าชายคนนี้เป็นคนเดียวกับคนที่อยู่ในผับก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว
น.ส.เฟิร์น เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นชายที่ทำร้ายน้องเจี๊ยบ ได้เข้ามาภายในร้าน ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ตอนนั้นลักษณะของชายคนดังกล่าวมีท่าทีน่ากลัว สักลายเต็มร่างกาย และดูคล้ายกับอยู่ในอาการมึนเมา โดยกระโดดขึ้นไปบนเวทีของร้าน คล้ายกับจะขึ้นไปขอเพลง แต่ทางร้านไม่อนุญาตให้ลูกค้าขึ้นบนเวทีอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่การ์ดของร้านจึงควบคุมตัวลงมาจากเวที แล้วเชิญออกจากร้านไป ทั้งนี้ ตนไม่เคยเห็นชายคนนี้เป็นลูกค้าของร้านแต่อย่างใด
จากนั้น ตนเห็นชายคนนี้อีกครั้งที่ร้านขายอาหารตามสั่ง ตอนที่ตนกำลังนั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนนักดนตรี โดยชายคนนี้มาหาเรื่องลูกค้าในร้านข้าวโต๊ะหนึ่ง แล้วพูดจาทำนองว่า “เดี๋ยวกูจะเอาพวกมาตีมึง 3 คน” แล้วชายคนนี้ก็หายออกจากร้านไป ก่อนที่จะเห็นว่าน้องเจี๊ยบวิ่งมาขอความช่วยเหลือที่ร้านข้าว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจแล้วช่วยพานำตัวน้องเจี๊ยบส่งโรงพยาบาล
น.ส.เฟิร์น ยอมรับว่า ขณะนั้นน้องเจี๊ยบ ผู้บาดเจ็บ ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวคนร้ายเป็นอย่างมาก น้องเจี๊ยบเล่าให้ฟังเพียงว่า คนร้ายมาถีบรถจักรยานยนต์ของตัวเอง แล้วก็ต่อยที่ท้องกับดวงตา พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือไป อีกทั้งยังพยายามที่จะล่วงละเมิดทางเพศด้วยการดึงบราเสื้อชั้นในน้องออก แต่โชคดีที่น้องดิ้นหลุดออกมาได้ โดยช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นจุดที่อยู่หน้าโรงเรียน มีแสงไฟส่องสว่างค่อนข้างมาก แต่เนื่องจากเหตุเกิดในตอนกลางคืน ทำให้ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ตนขอให้ตำรวจตามจับตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ฤทธิ์จรูญ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับคนร้ายและทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมาย คาดว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาได้ภายใน 3 วัน
ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาที่ ต.ยางม่วง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ที่พักอาศัยของนายประสาน แย้มชื่น หรือ มด ผู้ต้องหา บ้านพักหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว
นายแม็ก (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องของนายมด ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลว่า นายมดไม่ได้พักอาศัยแถวนี้ แต่ใช้ทะเบียนบ้านอยู่ที่นี่ ยอมรับว่าเมื่อเดือนก่อนหลังจากนายมดพ้นโทษออกจากคุกมา ก็มาขอพักอาศัยที่บ้านตน เพราะเป็นญาติกัน แต่ปัจจุบันทราบว่านายมดทำงานกับน้องสาว เป็นพนักงานทำความสะอาดเครื่องจักรในโรงงานน้ำตาล จ.ชลบุรี
ส่วนเรื่องคดีเก่าของนายมดนั้น นายมดเคยตกเป็นผู้ต้องหา ตั้งแต่เป็นเยาวชน ในข้อหาลักทรัพย์ และบุกรุกบ้านของคนอื่น โดยล่าสุดติดคุกไปกว่า 8 ปี โดยนายมดจะเข้าออกคุกเป็นประจำ ส่วนพ่อแม่นายมดก็เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้นายมดไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง โดยตอนที่นายมดพ้นโทษออกมา ตนก็ช่วยพาไปทำบัตรประชาชน และรับรองเป็นญาติให้ จนเขามีงานทำ
นายแม็ก เล่าต่อว่า เรื่องนิสัยใจคอ ตนคิดว่านายมดก็เป็นคนนิสัยดี แต่มีนิสัยลักเล็กขโมย ส่วนเรื่องรอยสักบนใบหน้า นายมดบอกตนว่า ไปสักมาจากในคุก เพราะไม่มีอะไรทำ ส่งผลให้มีคนตั้งฉายาว่า “มด หน้าลาย” แต่ตนมองว่าจริง ๆ แล้วนายมดก็ไม่ใช่นักเลง แต่มีพรรคพวกมากกว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่านายมดไม่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรา หรือ ฆ่าผู้อื่นแต่อย่างใด