เปิดคำสารภาพ! “สมชาย” เผยสายเบลต์รัดคอแม่ค้าหมกป่าดับ แก๊งรับรถส่งเขมรยันไม่รู้ของโจร (คลิป)

จากกรณี นางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี หายออกจากบ้านในพื้นที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 เวลา 7.30 น. โดยขับรถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมเงินสดราว 1 แสนบาทเพื่อไปซื้อสินคามาขายที่ร้านชำ หายตัวไป ครอบครัวไปแจ้งความที่ สภ.ย่อยพระลับ ก่อนมาเจอกลายเป็นศพถูกทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทาง ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น

ผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ 1.นายทศพร แทนประเสริฐ, 2.นายศุกล หนุนสุขศุภโชค, 3.นายพนม อุ่นผาง, 4.นายวรวิทย์ ชูแก้ว, 5.นายศราวุธ คิ้วสูงเนิน และ 6.นายประสิทธิ์ จาลา หรือ สมชาย หลังจากพยายามกินยาฆ่าตัวตายภายในรีสอร์ต เพราะเครียดเรื่องคดี ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

วันที่ 16 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ซึ่งชุดสืบสวนมีการคุมตัวผู้ต้องหา 4 รายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดที่ 1 หน้าร้านทำกระจก

โดยคุมตัวนายพนม ลงมาเพียงคนเดียว สีหน้าปกติ ใส่หน้ากากอนามัย เจ้าหน้าที่ให้ชี้จุดที่หน้าร้านทำกระจกจุดที่มีการจอดรถ ซึ่งนายพนมระบุว่า นายสมชายจอดรถที่บริเวณใต้หลังคาก่อน แล้วค่อยเลื่อนมาจอดที่หน้าอาคารข้างเคีย ใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็เป็นอันเสร็จ มีช่วงหนึ่งนายพนมยกมือขึ้นไหว้

จากนั้น เดินทางต่อไป 8 กิโลเมตร ถึงจุดบริเวณที่นำรถมาจดฝากไว้ที่โรงงานออกกำลังกาย จุดนี้มี 2 เหตุการณ์คือวันที่ 9 ก.ค.64 ที่นายพนมนำรถมาจอด

และ 10 ก.ค. 64 นายพนม พานายศราวุธ นายวรวิทย์ และนายทศพร มารับรถ โดยมีการนำตัวผู้ต้องทั้งหมดลงมา ผู้ต้องหาบางส่วนที่เห็นทีมข่าวยกมือขึ้นบังหน้าเอาไว้ ให้ชี้จุดที่มีการถอยรถมาจอด เพื่อตรวจสภาพก่อนรับรถ จุดต่อมาให้นายพนมเดินไปเพียงคนเดียว เพื่อชี้จุดบริเวณที่นำรถกระบะผู้ตายมาจอดไว้ ใช้เวลาราว 10 นาที เป็นอันเสร็จสิ้น

จากนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกคุมตัวกลับมาที่ สภ.บ้านฝาง ไม่ได้มีการพูดอะไรกับสื่อฯ ก่อนถูกคุมตัวขึ้นห้องคุมขังทันที ส่วนรถกระบะคันที่ถูกโจรกรรมยังคงจอดอยู่หน้า สภ.บ้านฝาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจรถตั้งแต่อยู่ จ.สระแก้ว จึงไม่มีการตรวจอีก

พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผู้กำกับ สภ.บ้านฝาง เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ต้องหา 5 คนที่คุมอยู่โรงพัก อยู่ระหว่างยื่นคำร้องต่อศาลในการฝากขัง เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวรอว่าศาลจะให้ประกันหรือไม่ หากไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็จะนำตัวส่งเรื่องจำขอนแก่นทันที

ส่วนนายสมชายขณะนี้มีการแจ้งขอความควบคุมตัวของ สภ.เมืองตากไว้ แพทย์ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เพราะอาการยังถือว่าโคม่า นายสมขายให้การรับสารภาพไม่มีการซัดทอดใร แต่ยังไม่มีความชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถเชื่อคำให้การทั้งหมดได้

พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม เดินทางมายังโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก เพื่อที่จะมาดูอาการของนายประสิทธิ์ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นยังมีการสอบปากคำเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับรูปคดี และเนื่องจากตัวของนายประสิทธิ์ยังไม่สามารถพูดได้ ไม่ได้สอบสวนได้มากนัก โดยการให้นายประสิทธิ์เขียนกระดานไวท์บอร์ดของเจ้าหน้าที่ แทนคำให้การ เบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ใช้เวลาโดยประมาณ 09.00 - 12.00 น. ในการสอบสวน

ส่วนการเดินทางของนายประสิทธิ์จาก จ.ขอนแก่น มาที่ จ.ตาก นายประสิทธิ์มีการเหมารถตู้เดินทางมาหลายต่อ จึงกำลังตรวจสอบว่าเดินทางมาอย่างไรกันแน่ ส่วนครอบครัวนายประสิทธิ์ที่เปิดรีสอร์ตให้ ไม่ได้มีความผิด เพราะจากการสอบสวนไม่ได้มีพฤติการณ์รู้เห็น โดยรวมถือว่าอาการของนายประสิทธิ์วันนี้ยังไม่ดีขึ้น เตรียมส่งตัวกลับไปที่ จ.ขอนแก่น แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่แน่ชัดได้ ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

ขณะที่ทางด้านภรรยาและลูกชายของนายประสิทธิ์ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ในวันนี้ ระบุเพียงว่า ขณะนี้อาการของนายประสิทธิ์ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ ส่วนตัวกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องคดี แต่ก็มั่นใจว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการหาที่หลบซ่อน เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่านายประสิทธิ์ทำจริงหรือไม่ เพราะหลังจากนายประสิทธิ์ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล ตนเองและครอบครัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านนายสมชาย พบนางอ้อน (นามสมมติ) ญาตินายสมชาย เปิดเผยว่า ล่าสุดตนเองได้คุยกับหลานที่เฝ้านายสมชายอยู่ วันนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เบื้องต้น หลานเล่าให้ตนเองฟังว่านายสมชายได้ให้การณ์ว่า ต้องการเงินไปใช้หนี้ จึงมีการขอยืมกับคนตายแล้ว แต่คนตายไม่ให้ เป็นหนี้ที่ถูกนายพนมทวงเรื่องจำนำรถตู้ จากนั้นในวันเกิดเหตุ นายสมชายได้ติดต่อนัดผู้ตายว่าจะพาไปซื้อเบียร์ในพื้นที่ ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น

เมื่อเดินทางไปถึง นายสมชายกลับหลอกผู้ตาย จากที่อ้างว่าจะมาซื้อเบียร์ หลอกเอาเงินมาคืนเป็นค่าเบียร์ที่ค้างไว้ 12,000 บาท ก่อนจะซื้อเบียร์มานั่งกิน และพูดคุยกันในรถ จุดนี้นายสมชายยังเล่าไม่สมเหตุสมผลคือระบุว่ามีช่วงหนึ่งนายสมชายไปนั่งบริเวณแคปหลังรถผู้ตาย ก่อนใช้โอกาสนี้นำเข็มขัดนิรภัยรัดคอผู้ตายจนตาย ก่อนนำร่างไปทิ้ง ส่วนรอยแผลที่ศีรษะ นายสมชายยืนยันว่าไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ระบุว่าตัวเองก่อเหตุฆ่าเพียงคนเดียว

ส่วนเรื่องการประกัน ครอบครัวยังไม่พูดคุยกัน เพราะนายสมชายก็ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ตนเองในฐานะญาติ หากสมชายกระทำจริง ตนเองก็ขอโทษแทนน้าตนที่ไปก่อเหตุ ตนเองเข้าใจว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ หากเกิดกับครอบครัวใครก็คงต้องเกลียดแค้น ตนเองไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่าการขอโทษ ส่วนการออกจากโรงพยาบาล เบื้องต้นหมอแจ้งว่าต้องใช้เวลาอีก 2 วัน เนื่องจากร่างกายไม่พร้อมกับการเดินทาง

นางจอย (นามสมมติ) เจ้าหนี้นายสมชาย คนที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำก่อนหน้านี้ ทีมข่าวทราบว่านายสมชายมาหาช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค. เพราะมาใช้หนี้ค่าเบียร์ที่ค้างเอาไว้ เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับว่าวันที่ 9 ก.ค.64 นายสมชายเข้ามาหาตนที่ร้านค้าของชำจริง เนื่องจากนายสมชายติดค้างหนี้ตนอยู่ 12,050 บาท เป็นค่าที่นายสมชายติดค้างจากการซื้อเบียร์ไว้เมื่อ 18 มิ.ย.64 ซื้อไป 20 ลัง โดยนายสมชายอ้างว่าจะซื้อไปสำหรับงานเลี้ยง เนื่องจากจัดงานบุญ

ส่วนวันที่ 9 ก.ค. นายสมชายโทรหาตนหลัง 10.00 น. บอกว่าจะเอาเงินเข้ามาคืน จากนั้นไม่นานก็มาที่ร้านตน เดินเข้ามาตนเองจึงถามว่า "มายังไง" นายสมชายบอกขับรถกระบะมา ตนเองออกไปมองเห็นรถจอดอยู่ห่างจากร้านตน ก็ไม่ได้สนใจว่าเป็นรถที่เป็นข่าว นายสมชายเข้ามายื่นเงินชำระหนี้ จากนั้นนานสมชายจะหันหลังกลับ ตนเองจึงบอกให้รอก่อน เพราะขอนับเงินก่อน เมื่อนับเสร็จพบมีเงินอยู่ 12,200 บาท เกินมา 150 บาท ตนจึงหยิบคืนไป 100 บาท ตนถามนายสมชายว่ารีบหรือ นายสมชายระบุว่ารีบอยู่ เนื่องจากนายรออยู่ แล้วก็เดินออกไป

ส่วนตัวไม่ได้เห็นท่าทีแปลกของสมชาย มีเพียงความรีบและสภาพสมชายไม่ได้เหมือนไปฆ่าใครมา ทุกอย่างปกติ เงินก่อนนี้นายสมชายเป็นหนี้ และขอนัดคืนตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. แต่ก็ผลัดมาเรื่อย อ้างว่าเดี๋ยวญาตินำเงินค่าขายลอตเตอรี่มาให้จะรีบนำมาคืน ตนก็ไม่ได้ทวง เพียงแต่สมชายจะติดต่อมา ตนก็จะถามเท่านั้น ตนเองไม่เห็นนางกันนิกา ไม่แน่ใจว่าในรถมีใครหรอไม่ และไม่รู้ว่าเงินที่นำมาใช้หนี้ตนเป็นเงินของคนตายหรือไม่ ส่วนตัวยังยืนยันว่าเท่าที่รู้จักสมชายเป็นคนดี ส่วนร้านตน นายสมชายเคยมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้นไม่ได้มาประจำ ที่ผ่านมาตนเป็นร้านขายปลีก ผู้ตายก็ไม่เคยมาซื้อของร้านตนแต่อย่างใด

ล่าสุด มีการปล่อยตัวผู้ต้อง 5 คนได้รับการประกันตัว ศาลจังหวัดขอนแก่นอนุญาตให้ประกันตัววงเงินประกัน 200,000 บาท ผู้ต้องหาทุกคนมีญาติมารับ ปฏิเสธการสัมภาษณ์ ทั้งหมดวิ่งขึ้นรถกันคนละทิศละทาง

นายวรวิทย์ ชูแก้ว คนทำหน้าที่ขับรถ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบเรื่อง ตนมารับซื้อรถปกติ ไม่รู้ว่ารถถูกโจรกรรม ตนไม่มีข้อมูลว่าเป็นรถที่ฆ่าคนมา คำสั่งคือให้ตนเองมาซื้อรถและขับกลับเท่านั้น ตนเองไม่รู้จักกับสมชายมาก่อน เพราะมีนายหน้าติดต่อมาเท่านั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วงจรปิดมัดแก๊งฆ่าแม่ค้าชิงรถส่งเขมร ตัวการซดยาตายหนีผิด อึ้งขับทิ้งศพ 10 นาที