กรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วยนั้น
วันที่ 26 พ.ค. 64 ตำรวจ สภ.ไชยา สนธิกำลังร่วมกับ ชุดสืบตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี ระดมตรวจค้นบ้านกลุ่มเป้าหมายลูกน้องของนายสุรัตน์ เศวตศิลป์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอุ้มฆ่าเสี่ยโกศล การตรวจค้นเข้าตรวจสอบบ้านกว่า 10 หลัง และปฎิบัติการครั้งนี้ยังเป็นไปตามการป้องกันและปรับปรามอัชญากรรมในพื้นที่
พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา ให้ข้อมูลว่า การตรวจค้นบ้านมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับเครือข่ายของนายสุรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าจะมีส่วนรู้เห็นการตายของเสี่ยโกศล รวมถึงอาจให้การช่วยเหลือในระหว่างการหลบหนีของทั้ง 8 คน จึงได้ระดมกำลังตรวจค้นบ้าน ยังเป็นไปตามมาตรการระดมกวาดล้างอาวุธปืน ยาเสพติดและเครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ไชยา เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุอาชญกรรมในพื้นที่
การเข้าตรวจสอบบ้านเครือข่ายของนายสุรัตน์ ไมีการยึดของกลาง เป็นเครื่องกระสุนปืน อาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง จากบ้านเป้าหมาย อาทิ ยาไอซ์ น้ำหนัก 0.5 กรัม, ยาบ้า จำนวน 18 เม็ด, กระสุนปืนขนาด.45 จำนวน 20 นัด, กระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 50 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. 8 นัด, กระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 25 นัด, อาวุธปืนลูกซองจำนวน 2 กระบอก, อาวุธปืนลูกกรดจำนวน 2 กระบอก, อาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 4 กระบอก, อาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก, อาวุธปืนขนาด.45 จำนวน 1 กระบอก
ทั้งนี้ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่มีการตรวจยึดได้จากบ้านเป้าหมาย มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ใช่อาวุธปืนเถื่อน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการนำไปตรวจสอบเพื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่เจอในจุดเกิดเหตุ กรณีบ้านที่พบครอบครองยาเสพติด ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 1 ราย
นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของเสี่ยโกศล เปิดเผยว่า ตนเองไม่รู้ความเคลื่อนไหวของตำรวจในวันนี้ว่ามีการลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านเครือข่ายกลุ่มเป้าหมาย หรือมีการตรวจยึดอาวุธปืนไปตรวจสอบ เพราะเจ้าที่ตำรวจไม่เคยประสานหรือให้ข้อมูลกับครอบครัว รู้แต่ว่าวันนี้คดีค่อนข้างเงียบ ออกหมายจับแต่ก็ไม่มีการจับกุมใคร ตนเองอยากให้ตำรวจไปเร่งล่าจับกุมตัวคนก่อเหตุ แล้วไปเค้นสอบว่า เอาศพไปทิ้งที่ไหน จะได้ตามไปเอาศพมาประกอบพิธีทางศาสนา การเข้าตรวจค้นวันนี้ไม่รู้ว่าเรียกว่าความคืบหน้าทางคดีหรือไม่ เพราะเป็นการตรวจค้นบ้านเครือข่าย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ปืนที่นำไปตรวจสอบก็คงจะไม่ใช่ปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงเสี่ยโกศล เพราะปืนกระบอกดังกล่าวก็คงอยู่กับผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี
ทั้งนี้ ตนเองได้รับการติดต่อจากบุคคลปริศนา อ้างว่ารู้จักกับตำรวจที่ทำคดีอยู่ โดยสั่งเบรกตนเอง ไม่ให้มีการไลฟ์เฟซบุ๊ก และไม่ให้มีการพูดถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือความคืบหน้าทางคดี เพราะตำรวจอ้างว่าทำงานยาก แต่ทุกครั้งที่ตัวเองไลฟ์ก็เป็นการพูดถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการตามหาร่างของสามี อ้อนวอนขอให้หน่วยงานเข้ามาช่วย ไม่เคยมีการพูดถึงคดี และไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ
ส่วนกรณีที่มีคนเบรกไม่ให้หมอปลาเข้ามายุ่งเรื่องคดี เพราะกลัวว่าคดีจะยุ่งเหยิงนั้น ตนเองยืนยันว่าจะยังพึ่งหมอปลา เพราะอย่างน้อยก็จะได้มีผู้ที่ให้ความรู้ในทางกฎหมาย ชี้แนะให้ไปเจอกับหน่วยงานที่อาจจะทำให้คดีมีความคืบหน้า เบื้องต้นได้คุยกันแล้วว่าเตรียมที่จะเดินทางไปร้องกองปราบฯ ดังนั้นใครก็ไม่สามารถสั่งเบรกไม่ให้ตนเองกับหมอปลาเจอกันได้ ยกเว้นถ้าจะมีคนมาบอกก็ต้องมาบอกที่บ้าน มาให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้หมอปลาหรือคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ
อย่างไรตาม กรณีเฟซบุ๊กส่วนตัวมีบางคนแสดงความคิดเห็นว่า "ภรรยาฆ่าสามีหวังเอาเงินประกัน" ตนคิดว่าไม่คิดถึงขั้นนั้น เพราะหากฆ่าสามี ก็ไม่จำเป็นต้องออกตามหาทุกวัน
ตนเองก็อยากจะย้อนถามกลับไปยังคนที่แสดงความคิดเห็นว่า คิดอะไรอยู่ ได้ดูโทรทัศน์กับเขาบ้างหรือไม่ ทั้งที่คดีออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว แต่แค่ยังจับใครไม่ได้ ทำไมถึงเอาเรื่องประกันชีวิตของสามีมาโยงกับเรื่องของตนเอง อีกทั้งผู้รับผลประโยชน์จากประกันก็ไม่ใช่ชื่อของตน แต่เป็นลูกชายคนโตของเสี่ยโกศล
ภายหลังตำรวจ สภ.ไชยา และชุดสืบจากตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจค้นบ้านเครือข่ายนายสุรัตน์ เศวตศิลป์ ทีมข่าวได้เดินทางย้อนกลับไปที่บ้านที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ คนภายในบ้านตามปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เมื่อเจอทีมข่าวก็พยายามบ่ายเบียงและเดินหนี อ้างว่าไม่รู้เหตุผลที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นที่บ้าน แต่ยอมรับว่าตำรวจนำปืนไปตรวจสอบจริง เป็นปืนที่มีใบอนุญาต ส่วนเรื่องความเกี่ยวข้องกับนายสุรัตน์ ทุกคนก็เป็นญาติพี่น้องและเครือญาติกันทั้งหมด
