จากกรณีพระครูปลัดกวีวัฒน์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ส.ค.) มีหญิงสาวนิรนามเดินเข้ามาภายในวัดราชาธิวาสวิหาร จากนั้นตรงมาที่กุฏินกพิราบ โดยไล่เคาะประตูห้องพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ซึ่งมีสามเณรให้เงินช่วยเหลือไปประมาณ 40 บาท ก่อนหญิงคนดังกล่าวจะหายไป
วันที่ 8 ส.ค. 61
พระครูปลัด กวีวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชาธิวาสวิหาร ผู้โพสต์คลิป เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการที่เกิดขึ้น อาตมาทราบจากลูกศิษย์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. มีหญิงวัยกลางคนบุกขึ้นมาบนกุฏิ โดยบอกกับลูกศิษย์ว่า "พ่อเสียชีวิต อยากจะกลับบ้าน แต่ไม่มีเงินค่ารถ" ซึ่งลูกศิษย์ก็ไม่ได้ให้เงินไป อาตมาจึงไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งนี้ คิดว่าไม่อยากติดใจเอาความ เพราะคิดว่าหากญาติโยมมาหาที่วัดคงเดือดร้อนจริง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการเข้ามาภายในวัดยามวิการ อาจจะไม่ค่อยสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีขึ่นมาบนกุฏิภิกษุ สามเณร
โดยวันรุ่งขึ้นขณะที่อาตมาไปทำวัด ได้พูดคุยกับพระสงฆ์หลายรูปที่อยู่ต่างคณะกัน จึงทราบว่าหญิงคนดังกล่าวเดินไปเคาะประตูกุฏิสงฆ์หลายกุฏิ แม้แต่กุฏิเจ้าอาวาส โดยหญิฅคนดังกล่าวได้อ้างว่า "เจ้านายไม่ให้เงิน" จึงคิดว่าการที่หญิงคนดังกล่าวพูดแบบนี้ คงไม่เป็นความจริง และเชื่อว่ามีเจตนาไม่ดี
หลังจากนั้น จึงได้เดินไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจนครสามเสน เพื่อเป็นการบันทึกไว้ว่าได้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้น และเพื่อความสบายใจของผู้ช่วยเจ้าอาวาส ที่เป็นห่วงว่าถ้าสีกาขึ้นไปกุฏิ ขณะที่พระสงค์จำวัดอยู่รูปเดียว และไม่ล็อกประตู ก็อาจจะเป็นภาพที่น่าห่วงใยมาก หรือหากมีภาพอะไรก็ตามหลุดออกมา สังคมจะตัดสินได้อย่างไร และวัดนี้ก็ถือว่าเป็นวัดที่เงียบสงบ
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น อาตมาไม่ได้คุยโดยตรงกับพระต่างวัด แต่เท่าที่ดูในเฟซบุ๊ก มีการแสดงความคิดเห็น ก็พบว่ามีหลายวัดมาแสดงความคิดเห็นว่า โยมสีกาคนดังกล่าวเคยเข้าไปที่วัดด้วย และมีพฤติกรรมคล้ายกับที่อาตมาเจอ แต่เท่าที่อ่านความคิดเห็น เชื่อว่าวัดรอบ ๆ ก็คงเจอเหตุในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ อาตมาก็มีความเป็นห่วงสีกาดังกล่าวด้วย เพราะกังวลว่าจิตใจอาจจะไม่ปกติ ก็อยากจะฝากทางครอบครัว ให้ช่วยดูแลเป็นกรณีพิเศษ
ท่านเจ้าคุณ พระศรีวินัยโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวรวิหาร เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เจอกับผู้หญิงคนดังกล่าวในประมาณเวลา 21.00 น. ขณะที่ตนกำลังสอนภาษาบาลีให้เณรอยู่ที่ตึกพระธรรมวโรดม ภายในวัดราชาธิวาส ผู้หญิงคนดังกล่าวก็เดินมายังห้องที่ตนกำลังสอนหนังสือ และมาขอเงินโดยอ้างในลักษณะเดียวกันคือ พี่ชายเสียชีวิต ไม่มีเงินกลับบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ตนก็ปฏิเสธ ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงเดินไปยังห้องข้างๆ เพื่อขอเงินเช่นกันแต่ก็ไม่มีใครให้เงิน จึงเดินกลับมาที่ห้องเรียนที่ตนสอนอยู่ ด้วยความเห็นใจเนื่องจากผู้หญิงคนดังกล่าวตัวเปียกฝน และแต่งตัวดีไม่เหมือนมิจฉาชีพ ตนจึงให้เงินไปจำนวน 200 บาท
พระศรีวินัยโสภณ ยังบอกอีกว่า ตนเพิ่งมารู้ในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะตนทำวัตรเช้า กับพระรูปอื่นๆ 08.00 น. โดยพระรูปอื่นบอกตนว่าเมื่อคืนมีผู้หญิงมาเดินขอเงินพระ เป็นมิจฉาชีพ เพราะผู้หญิงคนดังกล่าวได้มาขอเงินแบบนี้หลายครั้งแล้ว และเมื่อวาน (7 ส.ค. 61) ผู้หญิงคนดังกล่าวได้เดินขอเงินพระและเณรตั้งแต่เช้า ได้เงินรวมของตนไปด้วยประมาณ 600 บาท
นายธนารัตน์ คงชื้นจิตร หรือ ต้น ลูกศิษย์วัด ที่เป็นคนเปิดประตูพูดคุยกับผู้หญิงภายในคลิป เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุประมาณเวลา 21.00 น. ตนอยู่ในกุฏิเพียงคนเดียว พระครูปลัดทวีวัฒน์ ธีรวิทย์ ยังไม่กลับจากสอนหนังสือ มีผู้หญิงตัวเปียก สีหน้าแดง มือสั่น ใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ แต่งตัวปกติไม่เหมือนคนเร่ร่อน เดินมาเคาะประตูห้องของตนซึ่งอยู่ชั้น 2 ของกุฏิพระ เมื่อตนเปิดไปพูดคุย ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ขอเงินตน 200 บาท และบอกเหตุผลกับตนว่า พี่ชายของตัวเองเสียชีวิตอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด จะต้องกลับไปงานศพของพี่ชาย แต่ไม่มีเงินค่ารถทัวร์ เมื่อตนได้ยินดังนั้นก็นึกสงสารแต่นึกสงสัยในใจได้ว่า เมื่อครั้งตอนที่ยังบวช พระพี่เลี้ยงเคยบอกกับตนว่า จะมีคนในลักษณะนี้มาขอเงินพระเป็นประจำ อย่าให้ไปเพราะเป็นมิจฉาชีพ เมื่อตนคิดได้ดังนั้น จึงบอกกับผู้หญิงคนดังกล่าวว่า ตนเป็นแค่ลูกศิษย์วัด ไม่มีเงิน เมื่อผู้หญิงคนดังกล่าวได้ยิน ก็ตอบกลับมาว่า "ถ้าไม่ให้ ก็ไม่เป็นไร" ก่อนที่จะเดินออกจากกุฏิไป
นายธนารัตน์ ยังบอกอีกว่า เมื่อตนได้มาเช็กภาพจากกล้องวงจรปิด ก็เห็นว่าผู้หญิงคนดังกล่าวได้เดินขึ้นไปบนชั้น 3 ก่อน ซึ่งเป็นห้องกุฏิของพระครูปลัดทวีวัฒน์ ธีรวิทย์ แต่ห้องของพระครูเป็นห้องที่ล็อกประตูด้วยรหัส ผู้หญิงคนดังกล่าวก็กดรหัสแต่เปิดไม่ได้ จึงย้อนกลับมาที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของตน
ขณะที่ชาวชุมชนบริเวณหน้าวัดราชาธิวาสวิหาร ต่างก็ให้ข้อมูลว่า ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนดังกล่าว หลังจากนี้ก็จะช่วยสอดส่องดูแล ไม่ให้มิจฉาชีพเข้าไปในวัด เพราะศรัทธาพระวัดนี้มาก ๆ อีกทั้งพระวัดนี้ยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียใด ๆ