หน่วยกู้ภัยสมาคมร่วมใจสวนแตง ได้รับแจ้งมีเด็กจมน้ำ 2 คน บริเวณคลองท่าว้า ข้างบ้านเลขที่ 12 หมู่ 2 ซอย เทศบาล 2 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงประสานงานมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี นำชุดประดาน้ำกว่า 20 คน รุดเดินทางไปช่วยค้นหา เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 64
ที่เกิดเหตุเป็นคลองดิน ขนาดกว้างประมาณ 20 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่ประดาน้ำลงงมประมาณ 20 นาทีก็พบร่าง ด.ญ.เบญจมาศ จ่าพันธุ์ หรือ นัน อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 สภาพเลือดออกจมูก จึงรีบนำขึ้นมาปฐมพยาบาลและนำรีบส่ง รพ.เจ้าพระยายมราช แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากนั้นลงงมหาร่าง ด.ช.อดิศักดิ์ จ่าพันธุ์ หรือ ไมค์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ที่ยังคงหายอยู่ในคลองดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหากว่า 3 ชั่วโมง จนพบร่างน้องไมค์ จมอยู่ใต้คลองไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก ซึ่งเด็กทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน และเสียชีวิตทั้งคู่
วันที่ 31 มี.ค. 64 เวลา 13.00 น. ครอบครัวและญาติได้รับศพของน้องไมค์ และน้องนัน มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี
ระหว่างที่ร่างของน้องทั้ง 2 คนมาถึง นางแคน พันธุ์รู้ดี แม่ของผู้เสียชีวิตนั่งมาด้วยนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ระหว่างที่แม่ได้ลงจากรถกู้ภัย แสดงอาการโศกเศร้าเสียใจ เป็นลมล้มทั้งยืน จนญาติได้เข้ามาโอบอุ้มเอาไว้ ซึ่งแม่ของเด็กร้องไห้ตลอดเวลา
จากนั้นได้มีพิธีรดน้ำศพของน้องนัน และน้องไมค์ ซึ่งทำการรดน้ำศพน้องนัน ผู้พี่ก่อน จากนั้นก็ต่อด้วยน้องไมค์ ระหว่างรดน้ำศพนั้น แม่ของผู้เสียชีวิตร้องตลอดเวลา จากนั้นก็เข้าไปโอบกอดน้องไมค์ลูกชายคนเล็กอยู่นาน ในงานศพช่วงบ่ายวันนี้ มีเพื่อนของน้องไมค์กับน้องนัน และครูที่โรงเรียนมาร่วมงานศพ โดยทุกคนต่างมีสีหน้าที่โศกเศร้าเสียใจ
หลังพิธีรดน้ำศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางแคน พันธุ์รู้ดี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า สำหรับน้องไมค์ลูกชายคนเล็กของตนจะชอบเล่นน้ำเป็นประจำ ส่วนน้องนัน ลูกสาวนาน ๆ ครั้งจะเล่นน้ำ กระทั่งตอนเกิดเหตุจากการที่รับฟังจากเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าลูกชายตนได้กระโดดน้ำเล่น และถูกน้ำพลัดไปไกลจากท่าน้ำ เพราะน้ำจุดนั้นค่อนข้างเชี่ยว แล้วน้องนันเห็นน้องชายกำลังจะจมน้ำ จึงได้กระโดดลงไปช่วย จึงให้ลูกทั้ง 2 คนจมน้ำเสียชีวิต
ทั้งนี้ ที่พี่สาวกระโดดน้ำลงไปช่วยน้องชายทั้งที่เขาว่ายน้ำไม่เป็นนั้น ตนคาดว่าน่าจะมาจากความรัก และความห่วงใยของพี่สาวที่มีต่อน้องชาย สำหรับน้องไมค์ ลูกชายคนเล็กของตน เคยจมน้ำมาแล้ว 2 รอบ แต่ญาติสามารถช่วยได้ทัน และรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ครั้งแรกจมน้ำที่หน้าวัดพระธาตุ ครั้งที่ 2 ที่หน้าวัดสวนแตง ตนเคยเตือนและเคยห้าม ทั้งตีสั่งสอนมาแล้ว แต่ลูกชายก็ไม่เชื่อฟัง ส่วนลูกสาวตน ทุกครั้งเขาจะไม่ไปเล่นน้ำ จะอยู่แต่บ้าน ตนยังรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเมื่อวานเขาถึงไปเล่นน้ำกับน้องชาย
วันนี้จะเป็นวันที่น้องไมค์ลูกชายตนสอบวันสุดท้าย เพื่อจบ ป.6 และน้องไมค์ก็มีแผนจะไปทัศนศึกษากับครู และเพื่อนที่โรงเรียน แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน น้องไมค์เคยบอกตนว่าถ้าโตขึ้นไปเขาอยากจะเป็นครูสอนนาฏศิลป์ เพราะน้องไมค์เป็นคนชอบฟ้อนรำ ส่วนน้องนัน ลูกสาวของตนอยากเป็นช่างเสริมสวย และชอบแต่งหน้ามาให้ตนดู ก่อนเกิดเหตุตนไม่มีลางสังหรณ์แต่อย่างใด ซึ่งเมื่อวานก่อนเกิดเหตุนี้ น้องไมค์ได้เข้ามาขอเงินตนเพื่อไปกินสเต็ก จากนั้นเขาก็ไปเล่นน้ำกับเพื่อน
สำหรับตนเองเพิ่งเสียสามีไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และตนก็มาเสียลูกทั้ง 2 คนไปอีก หลังจากนี้ตนก็ต้องอยู่ลำพังคนเดียว และอาศัยญาติในการพึ่งพากันและกัน
น้องบีม เด็กที่เล่นน้ำกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตอนที่พวกตนเล่นน้ำ ได้ตกลงกันว่าจะกระโดดน้ำตามลำดับ ได้แก่ ตูน บีม ไมค์ นัน ข้าวโพด โดยตูนกระโดดน้ำคนแรก ตนกระโดดน้ำคนที่สอง ไมค์กระโดดคนที่ 3 ระหว่างไมค์กระโดดน้ำไปนั้น แรงน้ำได้พัดไมค์ไปไกล และขอความช่วยเหลือ จนพี่สาวได้กระโดดลงไปช่วยไมค์และจมหายไปในน้ำ ส่วนตนเองได้ยื่นไม้ความยาวประมาณ 2 เมตร ให้ไมค์ แต่ก็ไม่มามารถช่วยไมค์ได้ จนกระทั่งไมค์จมน้ำ ตนจึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากยายสมบัติและญาติ ๆ ให้มาช่วย
ตนยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุ พวกตนไม่ได้รบกวนหรือลบหลู่เจ้าที่แต่อย่างใด ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตนเล่นน้ำจุดนี้ทุกวัน แต่ 2 วันก่อนเกิดเหตุ ระดับน้ำจะสูงขึ้นและกระแสน้ำก็แรงกว่าทุกวันอีกด้วย
เวลา 16.00 น. แม่และญาติของผู้เสียชีวิต นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อมาทำพิธีเชิญวิญญาณน้องไมค์ และน้องนัน ที่จุดเกิดเหตุ พระสงฆ์ได้มีการปั้นหุ่นจากฟาง 2 หุ่น จากนั้นได้มีการจุดธูป และให้สัปเหร่อนำผ้าขาว 2 ผืน ไปวางที่ท่าน้ำ และนำดินทรายมาปั้นเป็นหุ่นแทนสัญลักษณ์เด็ก 2 คนที่เสียชีวิต จากนั้นได้นำธูปที่จุดมาปักไว้ที่บริเวณท่าน้ำ
ต่อมาพระสงฆ์ได้ทำการสวดมนต์เชิญวิญญาณให้ไปเข้าร่างยังโลงศพทั้ง 2 ที่ตั้งอยู่วัด หลังสวดมนต์เสร็จ แม่ของผู้เสียชีวิตพร้อมกับญาติได้เรียกน้องไมค์ น้องนัน กลับไปอยู่วัด และห้ามให้ดวงวิญญาณดวงอื่นตามมา ตามความเชื่อ จากนั้นสัปเหร่อได้มัดผ้าสีขาว 2 ผืน ที่มีดินทรายอยู่ด้านใน เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณให้กลับไปอยู่วัด จากนั้น ญาติได้โยนเหรียญเสี่ยงทาย 2 เหรียญ โดยรอบแรกที่โยนเหรียญขึ้นก้อย 2 เหรียญ ซึ่งไม่ตรงตามที่ญาติประสงค์ ญาติจึงได้โยนเหรียญเสี่ยงทายรอบสอง ซึ่งเหรีญที่หนึ่งขึ้นหัว เหรียญที่สองขึ้นก้อย ตรงตามประสงค์ของญาติแล้ว เชื่อว่าวิญญาณพร้อมเดินทางไปวัดแล้ว
ทั้งนี้ ห่างจากจุดที่เด็กเสียชีวิตประมาณ 50 เมตร มีศาลจระเข้ปู่บายศรี ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าที่ตรงนั้นแรง เคยมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ตนฟังว่าถ้าครบรอบช่วงสิ้นปีถึงต้นปี จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ปู่เจ้าที่จะมาเอาชีวิต
