เปิดปฏิบัติการ นาทีดำน้ำหา เจอร่างติดซากเรือฟีนิกซ์ล่ม เชื่ออีก 23 ศพอยู่ท้ายเรือ (คลิป)

จากกรณีเรือล่มที่กลางทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ค. 61 จำนวน 3 เหตุการณ์ ได้แก่ เรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ มีผู้ประสบเหตุจำนวน 105 คน เรือท่องเที่ยวเซเรนาต้า มีผู้ประสบเหตุจำนวน 42 คน และเจ็ตสกีของนักท่องเที่ยว มีผู้ประสบเหตุ 2 คน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มีการระดมกำลังค้นหา จนสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเรือเซเรนาต้าและเจ็ตสกีได้ทุกคน ขณะที่ผู้ประสบภัยที่โดยสารเรือฟีนิกซ์บางส่วนเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว อีกส่วนหนึ่งยังคงสูญหายและมีรายงานผู้เสียชีวิต

ความคืบหน้าวันที่ 6 ก.ค. 61 เวลาประมาณ 16.15 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดตามนักดำน้ำชาวต่างชาติจำนวน 12 คน จากภาคเอกชนโดยเดินทางด้วยเรือ All 4 Diving ออกจากท่าเทือบเรืออ่าวฉลองไปจุดที่เรือฟีนิกซ์จมลงใต้ทะเล บริเวณทิศใต้ของเกาะเฮ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เมื่อมาถึงพบว่ามีคลื่นสูงกว่า 1 เมตร โดยมีเรือจากกองทัพเรือ 2 ลำ และเรือจากภาคเอกชน 2 ลำ เรืออีกลำคือ Freedom กำลังช่วยเหลือในการค้นหา โดยนักดำน้ำชาวต่างชาติที่ได้มาช่วยเหลือในการค้นหาได้ดำลงไปลึกกว่า 40 เมตร เพื่อค้นหาบริเวณเรือฟีนิกซ์ที่อับปาง ซึ่งนักดำน้ำได้ดำลงไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะพบศพและลำเลียงขึ้นเรือของกองทัพเรือ

Mr.Vsevolod Korobov ครูสอนดำน้ำชาวยูเครน ผู้เคยได้ไปช่วยปฏิบัติการค้นหาเด็กที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนด้วย และ Mr.Henrik Rodolf ครูสอนดำน้ำชาวเดนมาร์ก ซึ่งทั้งคู่ประกอบอาชีพสอนดำน้ำอยู่ในบริษัทที่ จ.ภูเก็ต ได้เดินทางมาร่วมการค้นหาผู้ประสบภัยทางเรือในครั้งนี้ด้วย โดย Mr.Vsevolod เปิดเผยว่า การดำลงไปค้นหาผู้สูญหายนั้นไม่ยาก เนื่องจากเรืออยู่ในระดับที่ไม่ลึกมาก โดยตนพบผู้สูญหายจำนวน 2 คนเสียชีวิตแล้ว และ Mr.Henrik เป็นผู้พบอีก 1 ศพ โดยตัวเองและ Henrik ก็ได้ส่งต่อให้กับทีมลำเลียงศพขึ้นไปที่เรือของกองทัพเรือทั้งนี้ ยอมรับว่าการดำน้ำในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน นั้นทำได้ยากมากกว่า โดยหลังจากการดำน้ำในการค้นหาครั้งนี้ตนไม่รู้สึกเหนื่อย แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นักดำน้ำทั้ง 2 คนต่างสายหน้า เมื่อถามถึงโอกาสที่ผู้สูญหายที่เหลือนั้นจะยังมีชีวิตรอดอยู่ พร้อมกล่าวว่า ตัวเองคาดว่าไม่มีผู้รอดชีวิตแล้วเนื่องจากเรือถูกน้ำเข้าท่วมภายในทั้งลำ ทั้งยังจมลึกกว่า 40 เมตร โดยอาจจะมีผู้สูญหายติดค้างอยู่บริเวณด้านหลังของซากเรือ เนื่องจากยังจุดดังกล่าวยังไม่ได้มีการสำรวจเพราะเวลามีจำกัด และบริเวณที่เกิดเหตุก็ค่อนข้างกว้าง ทำให้ยังสำรวจไม่ทั่วถึง โดยคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) จะมีการสำรวจในบริเวณดังกล่าวเพิ่มเติมอีกครั้ง

ด้าน Elena Karmazin เจ้าของบริษัทเรือรับนักท่องเที่ยวดำน้ำ Aquacenter (Thailand)  ซึ่งได้นำเรือ Amber Marine มาช่วยในการค้นหา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 18.30 น. ของวันเกิดเหตุ เจ้าของเรือฟีนิกซ์ได้โทรศัพท์หาตน เพื่อขอให้ออกเรือไปช่วยค้นหานักท่องเที่ยวที่จมอยู่กลางทะเล ตนจึงได้ให้กัปตันออกเรือค้นหาแต่ตนไม่ได้ไปด้วย แต่ด้วยสภาพอากาศขณะนั้นยังคงไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากมีคลื่นสูงประกอบกับเป็นเวลาค่ำมากแล้ว จึงทำให้ไม่พบผู้สูญหาย และเมื่อออกเรือไปได้เพียงครู่เดียวก็ต้องกลับมา และในวันนี้ (6 ก.ค. 61) เวลา 06.30 น. ทีมของตนก็ได้ออกเรืออีกครั้งเพื่อค้นหา โดยมีการร่วมมือกับทหารเรือ เมื่อแล่นเรือไปถึงบริเวณเกาะเฮ พบว่าบริเวณดังกล่าวมีคลื่นสูง 2-3 เมตร โดยทีมงานได้กลิ่นน้ำมันและพบฟองอากาศผุดขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้ให้ทีมงานบนเรือทำสัญลักษณ์เอาไว้เพื่อให้ทราบตำแหน่ง ก่อนที่ครูสอนดำน้ำในทีมของตนซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างชาติได้ดำลงไปใต้ทะเล และพบเรือฟีนิกซ์จมอยู่ ก่อนพบผู้เสียชีวิต 3 คน

ขณะที่ นายอิทธิพัทธ์ ชัตท์ เลขาธิการ Go Eco Phuket ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่เกิดจากการรวมตัวกันเป็นชมรมผู้ประกอบธุรกิจเรือรับนักท่องเที่ยวดำน้ำ ได้ส่งอาสาสมัครนักดำน้ำกว่า 30 คน มาช่วยเหลือในการค้นหาครั้งนี้ โดยปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือ โดยหลังจากนักดำน้ำชุดแรกลงไปสำรวจและขึ้นมาประชุมหารือกันในเรื่องของการปฏิบัติการได้ประมาณ 30 นาที นักดำน้ำชุดที่สองก็ลงไปสำรวจตรงจุดเดิมอีกครั้งหนึ่ง แต่พบว่าเรือหายไป โดยมีสาเหตุจากคลื่นใต้น้ำที่มีกำลังแรงมาก แม้ว่าสภาพผิวน้ำจะดูสงบก็ตาม บรรดานักดำน้ำจึงได้ทำการสำรวจโดยรอบบริเวณอีกครั้งและพบว่าเรือถูกกระแสน้ำพัดห่างออกไปจากจุดเดิมประมาณ 1 กิโลเมตร นายอิทธิพัทธ์ เผยว่า การค้นหานั้นต้องใช้นักดำน้ำที่มีประสบการณ์และความชำนาญ เนื่องจากกระแสน้ำมีกำลังแรงมาก และต้องดำลงไปในระยะทางที่ลึก อีกทั้งใต้ทะเลในจุดที่มีความลึกสูงจะมีลักษณะเป็นน้ำขุ่น ไม่ได้ใสเหมือนที่เห็นบนผิวน้ำ นักดำน้ำสามารถมองเห็นในระยะประมาณ 5 เมตรเท่านั้น

ล่าสุดเวลา 19.30 น. เรือที่ออกทำการค้นหาได้กลับเข้าฝั่งครบทั้งหมด โดยนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่มีการแจ้งเหตุในคืนวันที่ 5 ก.ค. 61 ก็ได้มีการดำเนินการค้นหาทางทะเลทันที โดยได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง โดยในวันนี้ได้มีการค้นหาทั้งทางอากาศ ทางผิวน้ำ และทางใต้น้ำ ซึ่งได้มีการประสานงานไปแจ้งไปยังนักดำน้ำทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน โดยตัวเลขผู้ประสบภายล่าสุดยังคงเหลือผู้สูญหาย 23 คน มีรายงานผู้เสียชีวิต 33 ราย ซึ่งจะมีการค้นหาจนกระทั่งพบทั้งหมด โดยมีการลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนศพผู้เสียชีวิตก็จะส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเช่นเดียวกัน

ขณะที่บรรยากาศที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีญาติผู้เสียชีวิตชาวจีนเข้ามาดูศพโดยหลายคนร้องไห้ออกมาและทรุดลงจนผู้ที่มาด้วยต้องคอยประคองไว้ โดย นายสมบูรณ์ หวังแต่งธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้มีการทำงานร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้มีการให้ญาติมายืนยันตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันนี้ก็มีญาติทยอยมาตลอดทั้งวันจำนวนประมาณ 60 คน ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้จัดห้องรับรองญาติเอาไว้ให้ พร้อมมีการประสานงานไปที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.ภูเก็ต เพื่อขอลำเลียงศพกระจายไปโรงพยาบาลต่าง ๆ เนื่องจากมีสถานที่ในการเก็บรักษาศพไม่เพียงพอ ต่อจำนวนผู้เสียชีวิต