แม่มือฉกหวย 6 ล. สุดเครียด ปัดขอส่วนแบ่ง 3 ล. - ลูกยายหวยหาย แฉปมขอแบ่งเงิน (คลิป)

จากกรณียายประดับ จันทร์อ่วม อายุ 72 ปี แม่ค้าน้ำพริก เข้าแจ้งความที่ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ว่าลอตเตอรี่ หมายเลข 451005 ประจำงวดที่ 1 ธ.ค. 61 ถูกรางวัลที่ 1 หายไป ทราบภายหลังว่า นางสาวพรทิพย์ ปาลวงษ์ หรือ "เม้ง" ซึ่งเป็นญาติกัน ได้นำไปขึ้นเงินที่กองสลาก ก่อนจะไปเปิดบัญชีธนาคารข้างกองสลาก และทยอยถอนเงินออกจนหมด

วันนี้ (5 มี.ค.) พลตำรวจตรี กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางมาประชุมติดตามตัวนางสาวพรทิพย์ และติดตามความคืบหน้าคดี โดยเปิดเผยว่าสำหรับคดีดังกล่าว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ลอตเตอรี่เป็นของใคร จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล คดีนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์ในวันที่ 3 ธ.ค. 60 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่ามีมูลความผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐาน และพยานนิติวิทยาศาสตร์ ขอออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ และรับของโจร เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 61 โดยผลการประชุมในวันนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ลอตเตอรี่เป็นของใคร จะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 1 ปาก แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร หรือฝ่ายใด และจะต้องตรวจสอบหลักฐานทางเทคนิคด้วย อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ประสานขอข้อมูลว่า นางสาวพรทิพย์ หลบหนีไปต่างประเทศช่องทางใด ก่อนจะประสานไปยังสถานทูตว่า ผู้ต้องหาขอวีซ่าไปนานแค่ไหน หากไม่มีกำหนดกลับ อาจจะต้องประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

ส่วนอำนาจการยึดของกลางนั้น ทางพนักงานสอบสวน จะต้องสอบสวนให้แน่ชัดก่อนว่า มีการกระทำความผิดจริง ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นการกล่าวอ้างกันเท่านั้น ต้องใช้เวลาในการสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 20 ปาก หลังจากนี้หากมีผู้ใดมายื่นเอกสารให้ตรวจสอบ ก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้ เพราะคดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนเรื่องการอายัดเงินทางพนักงานสอบสวน ได้ทำหนังสือส่งไปที่กองสลากแล้วว่า สลากหมายเลข 451005 งวดประจำวันที่ 1 ธ.ค. 60 อยู่ระหว่างการดำเนินคดี หากมีผู้นำสลากหมายเลขดังกล่าวมาขึ้นเงิน ขอให้พิจารณาก่อน หลังจากนี้ หากมีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ให้โอนคดีดังกล่าวให้หน่วยงานอื่นจัดการ ตนก็ยินดีจะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา

ด้านนางประยูร แพร่งกระโทก หรือ "แมว" อายุ 49 ปี ลูกสาวของยายประดับ จันทร์อ่วม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนและแม่เดินเรื่องตลอด ครั้งแรกตำรวจถามว่า ถ้ามีการแบ่งเงินรางวัล จะให้ทางฝั่งพ่อนางสาวพรทิพย์เท่าไหร่ ซึ่งตนบอกจะให้ 500,000 บาท แต่ตำรวจบอกว่า 1,000,000 บาท ซึ่งตนก็บอกว่าได้ แต่พ่อของนางสาวพรทิพย์ ไม่เอา จะขอแบ่ง 3,000,000 บาท ตนจึงบอกไม่ให้ เพราะเงินส่วนนี้เป็นของแม่ จากนั้นพ่อของนางสาวพรทิพย์ จึงเดินทางกลับทันที หลังจากนั้นเห็นว่า มีคนจากบ้านนางสาวพรทิพย์ มาคอยวนเวียนอยู่ที่บ้านตน เบื้องต้น นางประดับ ทราบแล้วว่า นางสาวพรทิพย์ เอาลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน และหนีออกนอกประเทศแล้ว ตนจึงให้ไปอยู่กับหลานย่านบางบัวทอง แต่ไม่ทราบว่า จะอยู่บ้านหลังไหน เพราะตนมีญาติที่กรุงเทพฯ หลายคน โดยนางประดับจะอยู่บ้านญาติเพียง 10 วัน แล้วจะวนไปอยู่บ้านหลาน อีกหลายคน ซึ่งตนไม่ทราบว่า เป็นหลานคนไหน และไม่มีเบอร์ติดต่อ นานครั้งถึงจะได้คุยกัน ส่วนเรื่องการอายัดเงินนั้น ตนได้ไปสอบถามสารวัตรสอบสวนแล้ว จึงทราบว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจขนาดนั้น ภายหลัง ตนจึงติดต่อไปหา ทนายรณรงค์ แก้วเพชร์ ซึ่งทนายแจ้งว่า สามารถอายัดเงินได้ แต่ถ้าถูกฟ้องร้องขึ้นมา นางประดับต้องรับผิดชอบ ซึ่งตนไม่ทราบข้อกฎหมาย จึงตัดสินใจไม่อายัดเงิน

ด้านนางจำเนียร แม่นางสาวพรทิพย์ เปิดเผยว่า กรณีที่สามีไปพบพนักงานสอบสวน และขอแบ่งเงิน 3,000,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง สามีไม่ได้พูด วันนั้นสามีไปคนเดียว ตอนนี้ตนเครียดมาก ทั้งเรื่องลูก นักข่าวมาถามกันเยอะ ตนไม่รู้จะพูดอะไร และไม่ขอพูดอะไรถึงยายประดับ ส่วนเรื่องนาวสาวพรทิพย์ ปกติแล้วจะอาศัยอยู่ละแวกนี้ แต่ไม่เคยบอกว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ ครั้งสุดท้ายที่เห็น คือไปพบตำรวจ หลังจากนั้นได้เดินทางไปต่างประเทศทันที และไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ส่วนประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีตรวจสอบอย่างละเอียด เกี่ยวกับเรื่องคดีลอตเตอรี่นั้น นายเนียม และนางจำเนียรปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์