โต้เดือด! 2 ผัวเมียซัดเสี่ยเต็นท์รถส่งคนพกปืนจี้-เจ้าตัวฉะ "ตอแ-ล" ชวนเหยื่อแฉพรึ่บ (คลิป)

26 ม.ค. 61
จากกรณี นายอรรถพล และน.ส.ศิรินทรา สองสามีภรรยา ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน บังคับข่มขู่อุ้มไปจากหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เลย โดยมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ถูกชาย 4 คน จี้บังคับเอารถไป กระทั่งตำรวจออกหมายจับ ขณะเดียวกันพบว่า มีผู้เสียหายทยอยเปิดเผยข้อมูล ถูกสองสามีภรรยาหลอกลวงอีกหลายราย
ผู้เสียหายถูกหลอกเชิดเงิน
วันนี้ (25 ม.ค.61) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.ได้เชิญ "นายเก่ง" เจ้าของเต็นท์รถ, นายสมยศ แซ่ลิ้ม ผู้เสียหาย อดีตพ่อเลี้ยง น.ส.ศิรินทรา และ ผู้เสียหายอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายวีระพล ด้วงนาโพ , น.ส.วรรณิศา ธนสินจรูญ และ นางธัญชนก รวมกลาง พร้อมกันนี้ยังได้เชิญ นายอรรถพล มาชี้แจงทุกปมร้อนที่ถูกกล่าวหาในรายการ ภายใต้หัวข้อ "เปิดพฤติกรรม 2 ผัวเมียอ้างถูกอุ้ม ที่แท้ก็เคยทำคนอื่นเจ็บแสบ?"
คุณเก่ง เจ้าของเต็นท์รถ "เก่งเซียนรถ"
โดยในช่วงแรก "นายเก่ง" เจ้าของเต็นท์รถ "เก่งเซียนรถ" เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงเรื่องที่มีคลิปสั่งลูกน้องไปอุ้ม นายอรรถพล และภรรยาว่า ไม่เป็นความจริง และวันนี้ศาลได้ออกหมายจับลูกน้องตนมี 2 คนไปมอบตัวแต่ยังไม่ได้รับการประกันตัว แม้จะยื่นหลักทรัพย์ถึง 7 แสนบาท ส่วนที่เหลืออีก 2 คนนั้น ตนจะนำลูกน้องไปมอบตัวแน่ แต่ก็เป็นห่วง เรื่องจะไม่ได้รับการประกันตัว รวมถึงคดีนี้ที่ นายอรรถพลและภรรยา อ้างว่า ลูกน้องตนใช้อาวุธปืนก็ไม่จริง หนำซ้ำ นายอรรถพล เอารถมาจำนำกับตน 2 แสนบาท สุดท้ายกลับมีการแอบมาชิงรถกลับไปอีก หากปล่อยคนแบบนี้ไว้จะทำให้สังคมเดือดร้อน
"นายอรรถพล"ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
ด้าน นายอรรถพล ผู้อ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้ม ได้ชี้แจงว่า ตนถูกลูกน้อง นายเก่ง เอาปืนจี้จับตัวจริง โดยระหว่างทางยังขู่ว่า “พวกเขาเส้นใหญ่ ผ่านด่านตำรวจมาได้อยู่แล้ว” สำหรับกรณีที่ตนยอมลงจากรถและไปทำสัญญาเพื่อคืนเงินให้ นายเก่ง นั้น เพราะถูกข่มขู่ ถึงแม้จุดทำสัญญาจะมีผู้คนเดินพลุกพล่านตามคลิปที่ นายเก่ง ได้นำมาออกสื่อ แต่ความจริงลูกตนถูกลูกน้อง นายเก่ง จับอยู่บนรถ นั้นเป็นเหตุผลที่ตนไม่กล้าหนีเพราะห่วงลูก ซึ่งในระหว่างที่อธิบายถึงเรื่องราวดังกล่าว ทำให้ นายเก่ง ซึ่งอยู่รวมรายการถึงกับทนไม่ได้ แสดงพฤติกรรมส่ายหัวและพยายามพูดแทรกว่า นายอรรถพล พูดไม่จริง และต่อว่า “ตอแหล” ส่วนกรณีที่ตนได้ชิงรถกลับคืนยอมรับทำจริง เพราะแค้นที่ก่อนหน้านี้ เอารถไปจำนำกับนายหน้าคนแรก และเขาขู่จะเอารถไปปล่อยขายเต็นท์เถื่อน ซึ่งนั่นก็คือเต็นท์รถของ นายเก่ง นั่นเอง
นายสมยศ แซ่ลิ้ม อดีตพ่อเลี้ยง น.ส.ศิรินทรา
ขณะที่ผู้ร่วมรายการคนที่ 2 นายสมยศ แซ่ลิ้ม ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนได้คบหากับแม่ของ น.ส.ศิรินทรา (ภรรยาของนายอรรถพล) และเขาขอให้เอาโฉนดที่ดิน ไปค้ำประกันการซื้อรถ มูลค่า 5 แสนบาท ขณะนั้นตนเชื่อใจเลยยอมทำตาม แต่ปรากฎว่าตอนหลัง น.ส.ศิรินทรา ไม่ยอมจ่ายค่างวดรถ สุดท้ายตนจึงถูกบังคับคดีต้องชดใช้หนี้แทน ที่ดินมูลค่า 6 ล้านบาท จึงถูกอายัด และรอขายทอดตลาด นายอรรถพล ได้ชี้แจงปมนี้ว่า ตนเองไม่คิดโกงนายสมยศ และก่อนหน้านี้ก็เคยพา นายสมยศ ไปติดต่อ กรมบังคับคดี เพื่อเจรจาเอาที่ดินออกมา แต่ติดที่ว่าไม่มีเงิน ขอรับปากในรายการต่างคนต่างคิด จะชดใช้ให้อย่างแน่นอนไม่คิดโกง
นายวีระพล ด้วงนาโพธิ์ ผู้เสียหาย
ด้าน นายวีระพล ด้วงนาโพธิ์ ผู้เสียหาย ระบุว่า ตนเป็นเหยื่อของ นายอรรถพล ซึ่งระบุว่า ตนเป็นเหยื่อของนายอรรถพล บอกว่าป้าของตนนั้น ยอมจ่ายเงิน 2 แสนบาท ให้กับ น.ส.ศิรินทรา ภรรยาของ นายอรรถพล เพราะมีการนำรถมาจำนำไว้ แต่ในที่สุดก็พบว่า รถดังกล่าวติดไฟแนนซ์ จึงต้องคืนไป ถึงที่สุดก็ยังไม่ได้รับเงินกลับคืน พยายามทวงแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เรื่องนี้ นายอรรถพล ตอบโต้ว่า รถคันดังกล่าวตนเองเอามาจำนำจริง แต่จ่ายดอกเบี้ยให้กับป้าของ นายวีระพล มาตลอด และพบว่ามีการเก็บดอกเบี้ยแพงถึงร้อยละ 10 ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด และรถตอนนี้นายวีระพล ก็มีการไถ่ออกมาจากไฟแนนซ์แล้ว จึงถือว่าได้รถไปครอบครอง ด้าน นายวีระพล จึงตอบโต้กลับทันทีว่า ป้าของตนเองไม่เคยเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 10 และยังมีสัญญาที่ นายอรรถพล ยังไม่ใช้หนี้ถึง 2 แสนบาท พร้อมพิสูจน์
คุณวรรณิศา ธนสินจรูญ ผู้เสียหาย
ด้านผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง คุณวรรณิศา ธนสินจรูญ กล่าวว่า ตนตกเป็นเหยื่อของ 2 ผัวเมียเช่นกัน โดยเฉพาะ น.ส.ศิรินทรา เป็นเพื่อนสนิทกันมากได้มาวิงวอนขอยืมชื่อตนซื้อรถให้ โดยอ้างว่า น.ส.ศิรินทรา ซื้อรถอีกไม่ได้ เพราะยังผ่อนคันแรกไม่หมด ตนหลงเชื่อน้ำคำที่พูดจาน่าเชื่อถือ จึงยอมให้ใช้ชื่อซื้อรถ สุดท้ายพบว่า น.ส.ศิรินทรา ไม่จ่ายค่างวด ตนจึงถูกฟ้องให้ชดใช้แทน เป็นเงินกว่า 6 แสนบาท และรถคันดังกล่าว น.ส.ศิรินทรา ก็เอาไปแล้ว นายอรรถพล ขอชี้แจงปมนี้ทันที โดยอธิบายว่าใช้ชื่อ น.ส.วรรณิศา ซื้อรถจริง และจะขอชดใช้เงินให้เพียงแต่รถของ น.ส.วรรณิศา นั้น น้องชายของตนยืมรถไปยังติดต่อเอามาคืนไม่ได้ ซึ่งตนจะพยายามตามเรื่องให้
นางธัญชนก รวมกลาง ผู้เสียหาย
เหยื่อนายอรรถพล รายสุดท้าย นางธัญชนก รวมกลาง บอกว่า ตนเองถูกยืมเงิน 1.8 หมื่นบาท มีสัญญายืมจริง และได้คืนเพียงแค่ 5,500 บาท เท่านั้น จนถึงวันนี้พยายามทวง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจะชดใช้เมื่อไหร่ นายอรรถพล ซึ่งฟังอยู่ ตอบโต้ปมนี้ทันทีว่า เงินดังกล่าวไม่ใช่เงินยืม แต่มันคือเงินหวยใต้ดิน ซึ่งนางธัญชนก ได้ขายหวยใต้ดินผิดกฎหมาย ทำให้นางธัญชนก ซึ่งนั่งฟังอยู่ได้ปฏิเสธกลางรายการว่า นายอรรถพลพูดไม่จริง ตนไม่เคยขายหวยใต้ดินให้ตรวจสอบได้เลย
นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรม
ช่วงท้ายรายการ นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรม ได้ยืนยันว่า ผู้เสียหายที่อ้างว่า ถูก นายอรรถพล เอาเงินไปนั้น แทบจะเอาผิดทางอาญาไม่ได้เลย เพราะเป็นคดีแพ่ง หากเหยื่ออยากได้เงินคืนต้องเจรจา และฟ้องแพ่งให้ชดใช้ ส่วนกรณีนายเก่งเจ้าของเต็นท์รถนั้น ตอนนี้ถือว่าลำบากสุด เพราะ นายอรรถพลกล่าวหาถูกอุ้มโดยมีอาวุธปืนจี้บังคับ ดังนั้นลูกน้องนายเก่งจึงไม่ได้ประกันตัว เพราะโทษสูง รวมถึง นายเก่ง ให้ระวังจะถูกดำเนินคดี ในฐานะจ้างวาน ทางที่ดี ควรรีบนำหลักฐานไปพบกับตำรวจ เพื่อยืนยันข้อมูลที่ตนมีเพราะหากถูกหมายจับก่อน อาจไม่ได้ประกันตัวเช่นเดียวกับลูกน้อง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ