ไอ้โม่งปาดคอตาร้านชำฉก 4 พันบาท เมียซัดสุดเลวแทงคนพิการ น้องรุดช่วยเจ็บสาหัส (คลิป)

วันที่ 12 ส.ค. 63 เวลา 09.30 น. ร้อยตำรวจเอกธวัช หนอสิงหา รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลจังหวัดระยอง ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดแทงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านขายของชำ ถนนชายกระป่อม 2 ตรงข้ามโรงไฟฟ้าย่อย ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

พบร่างนายยุทธพงษ์ พลกุล อายุ 62 ปี ถูกแทงที่คอ 6 แผล เป็นเจ้าของร้านขายของชำจุดเกิดเหตุ ภายหลังได้เสียชีวิต และนางทองอยู่ สุวรรณ อายุ 58 ปี น้องสาวของภรรยาผู้เสียชีวิต เข้ามาช่วยไว้และโดนคนร้ายแทงซ้ำ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายที่สวมโม่งหลบหนีไป

ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณร้านขายของชำ โดยเหตุการณ์ช่วงเช้าภรรยาผู้เสียชีวิตไปตลาด ผู้เสียชีวิตจึงอยู่คนเดียว อีกทั้งในตอนเช้าแสงแดดส่องเข้ามาในร้าน จึงได้ดึงผ้าใบลงมาปิดร้าน ทำให้คนภายนอกมองไม่เห็นในร้าน ได้ยินแค่เสียงเท่านั้น

นางเพิดพินิจ ลุล่วง อายุ 34 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ตนเองอยู่ในบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันอย่างรุนแรง ดังออกมาจากในร้านขายของชำ ไม่นานได้ยินเสียงน้องสาวภรรยาผู้เสียชีวิตตะโกนว่า "ช่วยด้วย ๆ" ตนวิ่งออกมาดู เห็นเพื่อนบ้านอีกคนตะโกนบอกตนว่า "ลุงแดงล้ม" ขณะเดียวกันตนก็เห็นผู้ชายขับมอเตอร์ไซค์ สีขาว-ดำ ใส่แจ็กเก็ตสีดำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบออกจากร้านไปทันที ตนเข้าไปดูพบผู้เสียชีวิตจมกองเลือด และพบว่าถูกแทงรวม 6 แผล น้องภรรยาบาดเจ็บด้วย ตอนนั้นตนตกใจมากเพราะเลือดเต็มไปหมด จึงพยายามรวบรวมสติแจ้งกู้ภัย

ทั้งนี้ ตั้งแต่ตนมาอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ยังไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตนก็ไม่แน่ใจว่าคนร้ายจะเป็นคนแถวนี้หรือไม่ แต่ตนค่อนข้างกลัว เพราะเคยเห็นข่าวคนใส่ทองถูกทำร้าย เหตุการณ์นี้ก็อุกอาจ บุกมาแทงชิงทรัพย์ถึงบ้านจนเสียชีวิต

จากเหตุการณ์นี้ ตนเองรู้สึกสงสารเพราะลุงแดงพิการด้วย ส่วนน้องภรรยาของลุงแดง มีแผลถูกแทงบริเวณลำคอ ประมาณ 3 แผล แถวบริเวณลำคอ แผลค่อนข้างลึก เบื้องต้น รู้สึกตัวแต่ยังสื่อสารมากไม่ได้ เพราะเลือดออกค่อนข้างเยอะ ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องคดีหากตำรวจจับได้ก็อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นางสมศรี พลกุล อายุ 61 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองออกไปตลาดช่วงประมาณ 08.00 น. กลับมาถึงก็พบว่าสามีถูกนำส่งโรงพยาบาล พร้อมน้องสาวตนแล้ว ผู้ตายเป็นอัมพาตครึ่งซีกประมาณ 6 ปี ขยับกล้ามเนื้อซีกซ้ายไม่ได้ เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก จะขยับได้แค่กล้ามเนื้อซีกขวา เวลาเดินก็จะใช้ไม้เท้าค้ำเดินเป็นประจำ

ตนคิดว่า คนร้ายเข้ามาเพื่อหวังชิงทรัพย์อย่างเดียว เพราะเงินในลิ้นชักหายไปประมาณ 3,000 - 4,000 บาท หรืออาจจะมากกว่านั้นตนกำลังเช็กอยู่ ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนเองได้เห็นภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้าน ตนไม่คุ้นท่าทาง แต่คิดว่า คงเป็นพวกเด็กเกเรที่ต้องการเงิน ความรู้สึกตนคิดว่า ทุกวันนี้คนทำเลวเยอะขึ้น หลังจากนี้ตนก็ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น และเชื่อในกฎแห่งกรรม อยากให้ตำรวจจับได้เร็ว ๆ ให้คนร้ายมาขอขมาสามี