แฉร่างทรงเสด็จเตี่ย อ้างมีฤทธิ์ ท้าเอาปืนยิง แต่แพ้ชายหล่อ เจอแล้วใจสั่น

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี" ได้มีการโพสต์ภาพของชายที่สวมใส่ชุดเครื่องราชฯ พร้อมระบุข้อความว่า "มหาบารมี ประดับเครื่องราชฯได้สมพระเกียรติมาก แสดงว่าทรงจริงแน่นอนเลยเจ้าค่ะ พระองค์ควรแจ้งให้ราชสกุลอาภากร ไปเฝ้ารับเสด็จนะเจ้าค่ะ จะได้สมพระเกียรติจริงๆ หน่อเนื้อพระพุทธเจ้าหลวง มิควรไปทรงลงเกย์แก่ กินเงินพานครู นั่งดูดวงนะเจ้าค่ะ" จนเกิดกระแสวิวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย

โดยเมื่อวานนี้ (22 ธ.ค. 60) พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร มอบหมายให้พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ติดตามความคืบหน้าที่สภ.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร กรณีให้ตรวจสอบสำนักทรงเจ้าในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพคนทรงเจ้า แต่งเครื่องแต่งกายและประดับเครื่องหมายยศ คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ "เสด็จเตี่ย" ทราบชื่อคือ นายวิฆเนศ พยัคฆชาติ อายุ 46 ปี หรือ อาจารย์เอก

ล่าสุดวันนี้ (23 ธ.ค. 60) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 2 ซึ่งเป็นบ้านของนายวิฆเนศ พยัคฆชาติ อายุ 46 ปี หรือ อาจารย์เอก ผู้ซึ่งตกเป็นข่าวว่าเป็นร่างทรงเสด็จเตี่ย โดยทีมข่าวได้ไปดูบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น ประตูบ้านสีขาว ด้านในถ้ามองผ่านจากประตูรั้ว จะเห็นพวกโต๊ะบูชาเครื่องลางของขลังหรือบูชาเทพ พร้อมทั้งยังเห็นว่ามีขนมและน้ำอัดลมตั้งอยู่ คล้ายกับเหมือนมีคนนำมากราบไหว้บูชาได้ไม่นาน ส่วนสภาพบ้านก็ค่อนข้างเงียบ ซึ่งทีมข่าวได้กดกริ่งและได้เดินเข้าไปเรียกคนที่อยู่ในบ้าน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับหรือมีใครออกมาอยู่แต่อย่างใด

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับคนในพื้นที่หนึ่งรายหนึ่ง บอกกับทีมข่าว ว่าไม่เห็นเจ้าของบ้านมานานประมาณ 4-5 วันแล้ว ตอนนี้ก็คาดว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ ทราบว่าเจ้าของบ้านเป็นร่างทรงของเสด็จเตี่ย เนื่องจากเมื่อนานมาแล้ว เคยมีการแห่ขบวนร่างทรงอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งมีคนที่ศรัทธาเลื่อมใสมาร่วมงานเยอะมาก แต่พอมีข่าวหลังจากนั้นก็เงียบๆไป และล่าสุดก็ไม่ค่อยเห็นเขาอีกเลย ขณะที่ตนก็ทราบว่าเขาเป็นคนพูดจาไม่ค่อยดี เอะอะโวยวาย ไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเขาอยู่กับใครบ้าง ซึ่งก็จะเห็นแต่มีคนเข้าๆออกๆเยอะอยู่ เบื้องต้นตนก็ไม่ทราบว่าเขาถูกทหารและตำรวจตามล่าตัวอยู่

ขณะที่ทีมข่าวได้เดินทางไปยังพระตำหนักเสด็จพ่อ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ตั้งอยู่หลังกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ซึ่งที่แห่งนี้ เป็นสำนักของอาจารย์เอก และเป็นสำนักแห่งแรก ก่อนจะไปเปิดสำนักอีกที่หนึ่งแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ปรากฎว่า สำนักดังกล่าวถูกปิด ล็อกกุญแจทั้งประตูหน้าและประตูหลัง เห็นเพียงแต่ด้านในค่อนข้างเงียบ โดยชาวบ้านบอกกับทีมข่าวสั้นๆว่า หลังจากวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการไหว้ครูเสร็จ ก็เห็นว่าสำนักปิดมาโดยตลอด

จากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ ได้เดินทางไป สำนักพุทธะเทวะ มงคลสถาน เลขที่32/7 หมู่ที่4 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่ปรากฎว่า สำนักฯปิดเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่ผู้ดูแล หรือลูกศิษย์ ที่มักจะมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสถานที่แห่งนี้ จนกระทั่งทีมข่าวไปสอบถามจากชาวบ้านที่อาศัยใกล้กับสถานที่ดังกล่าว ซึ่งตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ทราบ ไม่อยากจะให้ข้อมูลผิดๆ เดี๋ยวเดือดร้อน”

ด้านลุงตั้ม (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื่นที่ เล่าว่า อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มา 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่เทวะสถานยังไม่มาก่อสร้าง จนกระทั่งปี 2556 ได้มีคนมาปรับสถานที่ เป็นเทวะสถาน ก่อนจะมีการตั้งพระพุทธรูป หลวงพ่อโต (องค์ใหญ่) ขึ้นมา ซึ่งตนเคยเข้าไปกราบสักการะเพียงครั้งเดียว เพราะคิดว่า กราบพระที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องไปกราบถึง เทวะสถานหรอก ซึ่งที่ผ่านมาทุกเช้าที่เดินออกจากบ้าน จะหันไปทางหลวงพ่อโตในเทวะสถานแล้วยกมือไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคล เพียงเท่านั้น

ลุงตั้ม เล่าว่า เมื่อ19 ธ.ค.2560 เทวะสถานได้จัดงานประจำปี โดยจัดขบวนตั้งแต่หน้าปากซอย ภายในวัดโพธิ์แจ้ เพื่อกราบสักการะหลวงพ่อโต ก่อนที่จะแห่ขบวนเข้ามาในเทวะสถาน จากนั้นจะทำพิธีตลอดทั้งคืน  เวลาประมาณ 21.00 น. มีการจุดพลุไฟหลากสีประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ทำพิธีจนถึงเวลา 01.00 น. และแยกย้ายกันกลับ และเมื่อ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่มาตรวจ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และ การจัดงานในปี 2559 ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจเช่นกัน

ลุงตั้ม ยังเล่าอีกว่า ลูกศิษย์เกือบทั้งหมดไม่ใช่คนในพื้นที่ และส่วนมากเป็นเป็นคนมีฐานะ ขับรถหรูมาร่วมพิธี แล้วก็กลับ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์ได้เข้ามาซื้อของที่ร้านของตน จึงถามว่า ทำไมมาไกลจัง  ลูกศิษย์คนหนึ่งตอบว่า สถานที่แรก แถวบางขุนเทียน บูรณะเสร็จแล้ว จึงมาช่วยบูรณะสถานที่แห่งนี้ ด้านพระมหา ดร.อรุณ ธมมสาโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แจ้ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเทวะสถานเท่าใดนัก ช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ของเทวะสถานเข้ามาติดต่อนิมนต์พระ 19 รูป ไปฉันเพลทุกวันที่ 19 ของทุกเดือน กระทั่งวันที่ 19 ธ.ค.2559 มีเจ้าหน้าที่เทวะสถานมาติดต่อขอยืมพื้นที่ตั้งขบวนแห่ เข้ากราบสักการะหลวงพ่อโต ก่อนจะเคลื่อนขบวนเข้าเทวะสถาน เพื่อทำพิธีต่อไป มีบางครั้งขณะที่พระสงฆ์ไปฉันเพล และได้รับแจ้งว่าจะมีทรงเจ้าซึ่งคณะสงฆ์ก็ไม่ได้อยู่ร่วมพิธีด้วย จึงไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอนที่เกิดขึ้น เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แจ้ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวก็เคยเห็นอาจารย์เอก อยู่บนแคร่ แต่เห็นไกลๆ และไม่เคยคุยกันเลย ล่าสุดเห็นในโลกโซเชียลที่แชร์กันมา เรื่องอาจารย์เอกนี่แหละ จากนั้น ทีมข่าวได้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ของเทวะสถาน ที่มาติดต่อที่วัดโพธิ์แจ้ ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของ นายวิฆเนศ พยัคฆชาติ หรือ อาจารย์เอก ผู้อ้างเป็นร่างทรงเสด็จเตี่ย และมีการแต่งเครื่องแต่งกายและประดับเครื่องหมายยศ คล้ายกับชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย นั้น ด้านแอดมินเพจดังอย่าง FakGhost สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย และ คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี ได้มีการขุดคุ้ยประวัติและพฤติกรรมของชายผู้นี้ โดยนำรายงานข่าว ของทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ซึ่งได้เคยออกอากาศในรายการทุบโต๊ะข่าว  เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2559 มาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ชายผู้นี้ถึงยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว สำหรับเนื้อหาที่ออกอากาศนั้น สืบเนื่องจาก มีประชาชนร้องเรียนว่า มีชายที่อ้างตัวเป็น “เสด็จเตี่ย” และมีการส่งภาพหลักฐานและเสียงพูดคุยมาให้กับทีมข่าว ซึ่งผู้อ้างเป็นเสด็จเตี่ย มีการท้าทายให้ยิงปืนใส่ มั่นใจว่าทำอะไรร่างทรงไม่ได้แน่  และในบทสนทนา เมื่อร่างทรงเมื่อพบเจอหนุ่มหล่อ กลับยอมรับว่า ทำให้จิตใจอ่อนไหว ซ้ำยังชักชวนให้มารับใช้อยู่ใกล้ชิด