จับเพื่อนสนิท 5 คนฆ่าหนุ่มฝังดิน เผยนาทียัดใส่ถุงดำเห็นยังดิ้นเลยยิงซ้ำ (คลิป)

จากกรณีพบชิ้นส่วนโครงกระดูกต้องสงสัยอาจถูกฆ่าฝังดินในสวนมะพร้าวพื้นที่ อ.นาหม่อม จ.สงขลา แต่เมื่อขุดดูไม่พบชิ้นส่วนอื่นของร่างกายเพิ่มเติม ซึ่งผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง นายวรัญชิต หนูสันทัด อายุ 23 ปี ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยทั้งคืนจนพบศพนายวรัญชิต แล้ว โดยถูกฆ่ายัดใส่ถุงดำฝังไว้ในพงหญ้า ริมถนนสายเอเชีย เหลือแต่กระดูก มีร่องรอยถูกตีและถูกยิงที่ศีรษะ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่นำไปทิ้งบ่อปลา จึงเร่งสืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฆ่าสยองหนุ่มฝังดิน พบอุปกรณ์เสพยา เมียเปิดพิรุธแชตขอลาตาย เชื่อถูกฆาตกรรม

นอกจากนี้ในหลุมยังพบสร้อยข้อมือสแตนเลส 1 เส้น และเศษโทรศัพท์ที่ถูกเผา ส่วนในกระท่อมยังมีใบกระท่อมที่ใส่อยู่ในขวดน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร จำนวน 2 ขวด อุปกรณ์เสพยาไอซ์ และถุงแบ่งยาไอซ์ รวมถึงร่องรอยของการเสพยา

ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทวิธวัช นครศรี ผบก.ภ.สงขลา ได้ร่วมกันแลงผลการจับกุมผู้ต้องในคดีทั้ง 5 ราย ประกอบไปด้วย นายนัฐศาสตร์ แก้วทองกุล หรือ นิว อายุ 24 ปี, นายวรากร ปานเมือง หรือ กร อายุ 30 ปี, นายอภิรักษ์ สะอาด หรือ มิน อายุ 26 ปี, นายพงศธร พืชไพฑูรย์ หรือ โอม อายุ 23 ปี และ นายกิตติพัฒน์ แก้วสกูล หรือ ต้น อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

พร้อมด้วยของกลาง 1.สร้อยข้อมือสีเงิน มีรูปพระ ความยาวประมาณ 20 ซม. 1 เส้น 2.อาวุธปืนพกสั้นแบบรีวอลเวอร์สีดำ ขนาดจุด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ 3.กระสุนปืนขนาดจุด .38 จำนวน 4 นัด 4. รถจักรยานยนต์ ทะเบียน คมค 384 สงขลา 1 คัน ซึ่งเป็นของผู้ตายที่ผู้ก่อเหตุนำไปทิ้งไว้ในสระน้ำแห่งหนึ่งเพื่ออำพรางคดี 5.หัวกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 หัว อยู่ในศพผู้ตาย และ 6.จอบ 1 เล่ม

พล.ต.ต.ทวิธวัช กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.63 ที่ผ่านมา นางอังศุวีร์ ขุนหมุด แม่ของผู้เสียชีวิต ได้มาแจ้งความที่ สภ.นาหม่อม ว่าลูกชายได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค.63 โดยก่อนที่ลูกชายจะขาดการติดต่อได้โทรศัพท์บอกภรรยาว่า "ให้ดูลูกดี ๆ" ก่อนจะวางสายไปและติดต่อไม่ได้อีกเลย

ภายหลังจากรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหม่อม ได้พยายามติดตามว่าผู้เสียชีวิต เคยมีปัญหากับใครหรือไม่ และเชิญตัวนายนัฐศาสตร์ หรือนิว พร้อมกับพวกอีก 3 คน มาสอบปากคำ จนทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือฆาตกรรมนายวรัญชิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากทั้งหมดเข้าใจว่าผู้ตายเป็นสายให้ตำรวจ และได้แจ้งเบาะแสจนตำรวจไปตรวจค้นเจอยาเสพติดที่บ้านนายนิว และจับกุมแม่นายนิว ดำเนินคดีตามกฎหมาย สร้างความโกรธแค้นในกับนายนิว อย่างมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับนางอังศุวีร์ ขุนหมุด แม่ของผู้ตาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุตอนช่วงเช้าตนได้ทะเลาะกับลูกชาย เพราะลูกชายใช้ให้ภรรยาไปซื้อข้าว แต่ตนบอกว่าให้ลูกชายไปซื้อเอง เพราะลูกสะใภ้เพิ่งจะคลอดลูก จึงเกิดทะเลาะกับ จากนั้นลูกก็บอกว่าจะไปหาเพื่อน อยู่กับตนเดี๋ยวจะทะเลากันอีก จึงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกชาย

จากนั้นในช่วงกลางดึก ลูกชายได้กลับมาที่บ้านอาบน้ำและขับรถออกไปนอนบ้านเพื่อน โดยสวมชุดกีฬาซึ่งเป็นชุดเดียวกันในวันพบศพ ต่อมาเที่ยงคืนลูกชายได้ไลน์มาหาภรรยา ซึ่งตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะผู้เสียชีวิตชอบล้อเล่นแบบนี้อยู่แล้ว จากนั้นก็ขาดการติดต่อกับลูกชายไป

ผ่านไป 3 วัน ลูกสาวของตน ซึ่งเป็นพี่สาวคนตาย ได้โทรศัพท์มาหาตน และบอกว่าน้องหายไป 3 วันแล้ว รู้สึกเป็นห่วง ติดต่อก็ไม่ได้ จนกระทั่งเข้าวันที่ 5 ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความ ตลอดเวลาเกือบ 20 วัน ตนพยายามตามหาลูกชายแต่ก็ไม่เจอ

จนกระทั่งเมื่อวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตนให้ไปดูสร้อยข้อมือ เพื่อยืนยันว่าเป็นของลูกชายหรือไม่ แค่เห็นสร้อยข้อมือเท่านั้นตนก็เป็นลมไปเลย หัวใจตอนนั้นแตกสลายไปหมดแล้ว ยิ่งมารู้ว่าใครเป็นคนลงมือฆ่า ยิ่งเจ็บปวดมาก เพราะนายนิว เป็นเพื่อนที่สนิทกับลูกชายมาก โตมาด้วยกันตั้งแต่ ป.6 จนเป็นหนุ่ม บางครั้งมานอนเล่นที่บ้านตนเป็นประจำ เลี้ยงเหมือนลูกคนหนึ่ง เขาดูเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด

ทั้งนี้ก่อนวันที่จะเจอศพตนยังเคยถามนายนิวว่า "นิวพอ จะรู้ไหมว่าฟิล์ม (ผู้ตาย) หายไปไหน ถ้าหากเธอเจอฟิล์ม ช่วยบอกให้กลับบ้านด้วย แม่เป็นห่วง" ซึ่งนายนิว ตอบด้วยหน้านิ่งเหมือนปกติว่า "ไม่รู้ว่ามันไปไหน แต่มันคงไม่ได้ไปไหนหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมา" ไม่คิดเลยว่าจะเลือดเย็นฆ่าคนได้ขนาดนี้ ส่วนสาเหตุตนเชื่อว่าเกิดจากการที่แม่นายนิว ถูกจับกุม เนื่องจากค้ายาเสพติดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

จากการสอบสวนนายนิว และนายวรากร หรือกร ให้การรับสารภาพอ้างว่า เมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 9 พ.ค.63 ที่ผ่านมา พวกตนพร้อมด้วยเพื่อนอีก 3 คน ได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่กระท่อม ผู้ตายได้ส่งข้อความมายังโทรศัพท์ของนายนิว ว่าจะขอเข้ามาเอายาเสพติด ต่อมานายพงศธร หรือโอม ได้นำโทรศัพท์ของนายนิว ส่งข้อความกลับไปต่อว่าผู้ตาย เพราะยังโกรธแค้นเรื่องที่เป็นสายให้ตำรวจ

จากนั้นผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์มายังที่เกิดเหตุและเข้าไปชกหน้าของนายโอมทันที เมื่อนายกร เห็นเหตุการณ์ก็หยิบจอบ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาตีเข้าที่ลำตัวผู้ตายหนึ่งครั้ง จากนั้นนายอภิรักษ์ หรือมิน ก็เข้าไปเตะทำร้ายผู้ตาย จำนวน 2 ครั้ง จนผู้ตายต้องวิ่งหนีมาตามทางออกของสวนยางพาราเพื่อเอาตัวรอด โดยมีนายนิว นายกรและนายโอม วิ่งติดตามทำร้ายผู้ตายอีกครั้ง

ในขณะที่ทำทุกคนรุมทำร้ายผู้ตายอยู่นั้น นายกิตติพัฒน์ หรือต้น ได้ขับรถมาที่เกิดเหตุและเข้าไปร่วมทำร้ายผู้ตายด้วย จนผู้ตายสลบ จึงได้นำตัวผู้ตายยัดใส่กระสอบ และใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ตาย จากนั้นนายกรได้ขับรถไปเอาปืนที่บ้านมาให้นายนิวพกไว้ จากนั้นทั้งคู่ได้ช่วยกันยกกระสอบที่มีร่างผู้ตายขึ้นพาดบนรถจักรยายนต์ของผู้ตาย ก่อนจะขับเอาศพไปทิ้งที่ป่า ริมถนนสาย 43 ม.2 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา

โดยนายกรเป็นคนขับ ส่วนนายนิวเป็นคนซ้อนนั่งทับศพของผู้ตาย เมื่อไปถึงจุดที่ทิ้งศพ ทั้งคู่ได้จอดรถไว้ริมถนน และลากศพของผู้ตายเข้าไปบริเวณที่พบศพ ก่อนที่นายนิวจะใช้ปืนที่พกมายิงหัวผู้ตาย 3 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จากนั้นทั้งคู่ก็ขี่รถผู้ตายไปทิ้งในสระน้ำ ในหมู่บ้านทุ่งโตนด ม.1 ต.นาหม่อม จ.สงลขา และได้โทรศัพท์ให้นายมิน มารับที่จุดดังกล่าว กลับไปยังกระท่อมที่เกิดเหตุ และนั่งดื่มกินต่อกับยันรุ่งเช้า และแยกย้ายใช้ชีวิตตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไปชี้จุดที่ทิ้งศพ จนกระทั่งพบศพ และอาวุธที่ใชก่อเหตุ ร่วมไปถึงรถจักรยายนต์ของผู้ตายด้วย โดยเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดโดยเฉพาะที่กระท่อมกลางสวนมะพร้าว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายมิน ผู้ที่ร่วมทำร้ายร่างกายผู้ตาย และเป็นผู้ที่ขับรถไปรับนายนิว และนายกร ว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องที่ผู้ตายแอบเป็นสายให้ตำรวจ