จากกรณีชุดของใช้ประจำวัน หรือ Care Set ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จำนวน 27,700 ชุด ที่นำมาแจกให้กับประชาชนผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปภายในจังหวัดลำพูน ราคาต่อถุง 590 บาท รวมราคาทั้งสิ้นประมาณ 16,343,000 นั้น
ต่อมา ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อเปรียบเทียบราคาเครื่องอุปโภคภายในชุดถุงของใช้ประจำวัน หรือ CareSet พบว่า ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ 1 ผืน ราคาเพียง 99 บาท (ราคาอบจ. 100 บาท ถูกกว่า 1 บาท) ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก 1 ผืน ราคาเพียง 15 บาท (ราคาอบจ. 35 บาท ถูกกว่า 20 บาท) จานพลาสติก 1 ใบ ราคาเพียง 15 บาท (ราคาอบจ. 25 บาท ถูกกว่า 10 บาท) ถ้วยพลาสติก 1 ใบ ราคาเพียง 15 บาท (ราคาอบจ. 25 บาท ถูกกว่า 10 บาท)
แก้วน้ำพลาสติก 1 ใบ ราคา 10 บาท (เท่ากัน) ราคาเท่ากันกับของอบจ.ลำพูน แปรงสีฟัน 1 ด้าม (พร้อมยาสีฟันหลอดเล็กในแพ็คเกจ) ราคา 20-25 บาท (แพงกว่า 5-10 บาท) ร้านค้าทั่วไปราคาแพงกว่าของอบจ.ลำพูน 5-10 บาท ส่วนเจลล้างมือ 1 หลอด หน้ากากผ้า 3 ชิ้น และซองพลาสติกใส่ของ ทีมข่าวไม่สามารถหาของใช้ใกล้เคียงมาเปรียบเทียบราคาได้
ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย.63 มีรายงานว่าเทศบาลเมืองลำพูน ได้เก็บคืน Care Set ทั้งหมดที่เตรียมจะแจกให้กับชาวบ้าน 17 ชุมชน จำนวนประมาณ 800 ชุด ส่งคืน อบจ.ลำพูน ทั้งหมด ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแรกที่ส่งคืนชุดของใช้ประจำวัน หรือ Care Set ที่กำลังเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างนี้ ให้แก่อบจ.ลำพูน
ทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังนายกเทศมนตรีเมืองลำพูน นายประภัสร์ ภู่เจริญ แต่เจ้าตัวปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใด ๆ เนื่องจากไม่อยากมีปัญหาทางด้านการเมือง แจ้งเพียงว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการจัดซื้อจัดจ้าง Care Set ทางเทศบาลเมืองลำพูนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป จึงได้ส่ง Care Set ทั้งหมดประมาณ 800 ชุด คืนให้ อบจ. รอให้การสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะประชุมหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วนทางด้าน นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ก็ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์เช่นกัน บอกเพียงว่าขณะนี้ทางจังหวัดกำลังสอบสวนเรื่องดังกล่าว ตนจึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ประธาน พรพิริยะวงษ์ ประธานชุมชนสวนดอก ชุมชนภายใต้การดูแลของเทศบาลเมืองลำพูน บอกว่า ภายในชุมชนสวนดอกมีประชากรทั้งหมดประมาณ 200 หลังคาเรือน โดยมีผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ประมาณ 30-40 คน โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย.63 ตนได้เข้าไปประชุมกับนายกเทศบาลเมืองลำพูน โดยทางเทศบาลได้เรียกเก็บ Care Set ที่เตรียมจะแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั้งหมด ส่งคืนกลับอบจ.ลำพูน ไม่แน่ใจว่าชุมชนสวนดอกมีทั้งหมดกี่ชุด แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดแคลนอะไรมาก เนื่องจากยังพอดูแลตัวเองกันได้
เท่าที่ตนได้พูดคุยกับผู้สูงอายุในชุมชน ทำให้ทราบว่า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อนส้อม ใน Care Set นั้น ชาวบ้านไม่ต้องการ เพราะใช้ยังชีพไม่ได้ แต่ชาวบ้านต้องการข้าวสารอาหารแห้ง ที่สามารถใช้ยังชีพได้ เนื่องในขณะนี้ชาวบ้านนั้นไม่สามารถหาเงินมาซื้อข้าวสารได้ เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ไม่มีรายได้
ทั้งนี้เมื่อประมาณ 5 วันก่อน ทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งหน่วยงานจังหวัดลำพูน และเทศบาลเมืองลำพูน ให้สำรวจความต้องการของชาวบ้านในแต่ละชุมชน ว่ามีต้องการอะไรบ้าง เช่น เงิน สินค้าทางการเกษตรฯ ประมาณ 15 ข้อ โดยขณะนี้ทางเทศบาลเมืองลำพูน ก็ได้ส่งแบบสำรวจดังกล่าวกลับไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกำลังจะจัดเตรียมถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านทั้ง 17 ชุมชน ภายใต้การดูแลของเทศบาลเมืองลำพูน โดยภายในถุงจะประกอบไปด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งของที่จำเป็น คาดว่าเร็ว ๆ นี้ชาวบ้านน่าจะได้รับแจกถุงยังชีพ
ทีมข่าวอมรินทร์ทราบมาว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง เป็นคู่สัญญากับ อบจ.ลำพูน ในการจัดซื้อจัดจ้างชุดของใช้ประจำวัน หรือ Care Set ให้กับผู้สูงอายุ 70 ปี ตามเอกสาร 1 ชุด ที่มีการแจกแจงรายละเอียดชุด Care Set โดยมีลายเซ็นและตราประทับของเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนกำกับไว้ ซึ่งภายในเอกสาร ระบุรายละเอียดสินค้าที่จัดซื้อ จำนวน 13 รายการ ต่อ 1 ชุด จัดซื้อจำนวน 27,700 ชุด ราคาชุดละ 590 บาท
อย่างไรก็ตามในวันนี้ เวลา 18.30 น. ทีมข่าวได้เดินทางมายัง ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว ในพื้นที่ จ.ลำพูน ที่เป็นคู่สัญญากับ อบจ.ลำพูน กลับพบว่าเป็นร้านขายเครื่องเขียน โดยขณะนี้ไม่ใครที่จะสามารถให้ข้อมูลใด ๆ ได้ เนื่องจากร้านปิด อีกทั้งพนักงานภายในร้านอ้างว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าของร้าน