เมียเหยื่อโควิดคาใจ ผัวใกล้ชิดต่างชาติ ขอตรวจฟรีแต่ถูกปัด ยอมควักจ่ายเอง แต่เชื้อพรากชีวิต (คลิป)

จากกรณี ศูนย์เฝ้าระวังโควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล มีการแถลงข่าวสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย โดยแต่ละรายมีโรคประจำตัวและภาวะแทรกซ้อน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อขณะนี้ 827 ราย

ทีมข่าวไปไปพูดคุยกับครอบครัวผู้ติดเชื้อโควิดที่เสียชีวิต โดยคุณบี (นามสมมติ) บอกว่า สามีของตนเองวัย 45 ปี เดิมนั้นมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และสามีทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านซอยสุขุมวิท 71 ปกติสามีต้องใกล้ชิดกับชาวต่างชาติทุกวัน ซึ่งที่ผ่านมาสามีจะดูแลตนเองอย่างรอบคอบ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสกับชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา สามีมีไข้เล็กน้อย และบ่นไม่สบายตัว จึงหยุดงานและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน กระทั่งวันที่ 13 มี.ค. อาการของสามีแย่ลง เริ่มมีไข้สูง ระคายคอ และอาเจียน ในตอนนั้นคิดว่าสามีน่าจะมีอาการของโรคประจำตัวกำเริบ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจากการตรวจพบว่าค่าน้ำตาลในเลือดสูง จึงให้เข้าห้องไอซียู และทำการรักษาอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน จนอาการดีขึ้น

จากนั้นในวันที่ 14 มี.ค. หมอจึงให้ออกมาพักรักษาตัวที่ห้องพักรวม แต่ไม่ทันไรสามีก็อาการทรุดลงอีก จนต้องนำตัวกลับเข้าห้องไอซียูอีกครั้ง ในตอนนั้นเริ่มกังวลว่าสามีจะได้รับเชื้อโควิด จึงประสานทางโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจเชื้อ ทางโรงพยาบาลจึงประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขออนุญาตตรวจหาเชื้อ

แต่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่า สามีของตนเองอยู่นอกพื้นที่เสี่ยง และไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อไวรัส จึงตัดสินใจยอมเสียเงิน 5,000 บาท และขอให้ทางโรงพยาบาลตรวจหาเชื้อโควิด

กระทั่งวันที่ 19 มี.ค.ผลตรวจยืนยันว่าสามีติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสามีก็อาการแย่ลงเรื่อย ๆ จนล่าสุดคืนวันที่ 23 มี.ค.ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าสามีอาการทรุด และเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม หากทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ยอมให้ตรวจแต่แรกอาจจะรักษาสามีได้เร็วกว่านี้

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้เปิดเผยการคาดการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยสรุป ในไทยตัวเลขผู้ติดเชื้อจาก 100 เป็น 200 คน ในระยะเวลาประมาณ 3.5 วัน ทำให้มีแนวโน้มที่จะไปในทางกลุ่มประเทศที่คุมไม่อยู่

หากปล่อยไปแบบนี้ ทุกคนใช้ชีวิตเหมือนเดิมโดยไม่อยู่บ้าน ยอดผู้ติดเชื้อในไทยจะเพิ่มวันละ 33% โดยภายในวันที่ 15 เม.ย.63 จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 351,948 ราย

แต่หากทุกคนอยู่บ้าน จะช่วยดึงยอดผู้ติดเชื้อลงมาไม่เกินวันละ 20% ภายใน 15 เม.ย.63 จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 24,269 ราย 

หากทำแบบเดิมภายใน 15 เม.ย.63 (ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละ 33%) จะมีผู้ติดเชื้อต้องนอนโรงพยาบาล 52,792 ราย, คนไข้หนักนอนไอซียู 17,597 ราย, ตาย 7,039 ราย

และหาก LOCK DOWN ให้ทุกคนอยู่บ้าน (ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละ 20%) จะมีผู้ติดเชื้อนอนโรงพยาบาล 3,640 ราย, คนไข้หนักนอนไอซียู 1,213 ราย , ตาย 485 ราย