แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกยาย 62 ป่วยจนหลงรัก ชวนลงทุนสูญเงินกว่า 3 แสนบาท

20 ก.พ. 67

สาวร้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์หว่านล้อมแม่วัย 62 ปี ที่ป่วยมะเร็งจนหลงรัก ก่อนหลอกให้ร่วมลงทุน สูญเงินกว่า 3 แสนบาท

 

วันที่ ( 20 ก.พ. 67 ) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้รับร้องเรียนจากสาว MC ชาวสุรินทร์ ว่าแม่วัย 62 ปี ที่กำลังป่วยเป็นมะเร็ง และมีอาการทางสมอง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมโปรไฟล์เป็นนายทหารหนุ่มหน้าตาดี ทักเข้ามาหาทางเฟซบุ๊ก และชวนพูดคุยหว่านล้อมตีสนิทให้เชื่อใจ หลอกให้หลงรัก ก่อนจะชวนลงทุนธุระกิจ จากนั้นก็สร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมาหลอกว่าเป็นติวเตอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง เข้ามาชวนพูดคุยแนะนำแนวทางในการร่วมลงทุนทำธุระกิจที่อ้างว่ามีผลตอบแทนสูง จนกระทั่งแม่ตายใจ และโอนเงินไปให้ สูญเงินไปรวมทั้งหมดประมาณ 328,943 บาท

นางสาว วราลักษณ์ อายุ 40 ปี ลูกผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มต้นมิจฉาชีพได้สร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมาเป็นนายทหารหนุ่ม หน้าตาดี ทักเข้ามาหาแม่ทางเฟซบุ๊ก ส่วนแม่พอเห็นอย่างนั้นก็ตอบเขาไปทันที เพราะว่าแม่เป็นคนชอบเล่นเฟซบุ๊กอยู่แล้ว อีกอย่างแม่ก็ป่วยอยู่ แถมมีอาการทางสมองด้วย แรกๆก็ชวนแม่ของตนคุยเล่น ถามสารทุกข์สุขดิบ ไปจนถึงขั้นเริ่มพูดคุยในลักษณะเชิงชู้ชาว สักพักก็หายเงียบไป ไม่นานก็กลับมาคุยใหม่ จนกระทั่งได้แอดไลน์คุยกัน แต่ก็ไลน์พูดคุยกันปกติในลักษณะหนุ่มสาวจีบกัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ หนุ่มทหารที่พูดคุยก็เริ่มแนะนำการทำธุระกิจ อ้างว่ารายได้ดี มีผลตอบแทนสูง จนแม่เชื่อใจ และตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย จากนั้นก็ให้แม่แอดไลน์ไปหาติวเตอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง และพูดคุยรับคำแนะนำ

ช่วงแรกๆที่แม่โอนเงินไปร่วมลงทุน ก็ได้กำไรกลับมาจริง ซึ่งตอนแรกๆเป็นเงินแค่หลักร้อย โดยแม่โอนไป 500 ได้กลับมา 595 บาท , โอนไป 1,500 ได้กลับมา 2,000 บาท จากนั้นยอดที่แม่โอนไปก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแม่คิดว่า น่าจะได้กำไรกลับมาอีก ซึ่งใช้เวลาไปประมาณ 4-5 วัน แม่โอนเงินไปเป็นจำนวน 10 ครั้ง ทั้งหมด 5 บัญชี 4 รายชื่อ รวมเป็นเงินทั้งหมด 328,943 บาท

ปกติแม่ก็มีเงินติดบัญชีส่วนตัวอยู่แล้ว แต่เป็นยอดไม่มาก ซึ่งเงินที่แม่โอนไปให้มิจฉาชีพนั้น เป็นเงินที่แม่หยิบยืมจากคนรู้จัก ส่วนหนึ่งก็เป็นเงินที่แม่นำโฉนดที่ดินไปจำนำ ซึ่งกว่าที่ตนจะเริ่มรู้ตัว ก็ตอนที่แม่กำลังจะเอารถที่บ้านไปจำนำ แต่จำนำไม่ได้ เนื่องจากเป็นชื่อของน้องสาว ตนก็เลยคาดคั้นจนรู้ความจริงออกมา จากนั้นตนก็ได้พยายามค้นหาบุคคลที่เป็นนายทหารตามรูปในโปรไฟล์จนพบตัว และทราบว่าเป็นนายทหารยศพันตรี ของ สังกัดหน่วยทหารสื่อสารแห่งหนึ่ง และได้ติดต่อพูดคุยกันแล้ว จึงทราบว่า นายทหารนายนี้ ถูกมิจฉาชีพนำรูปมาสร้างโปรไฟล์ปลอมหลอกลวงประชาชนมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้ตนก็ได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเข้าไปปรึกษาทางธนาคารเพื่อทำการอายัดบัญชีต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส