แรงงานไทยกลับมาจากอิสราเอล 1 เดือน ยังไม่ได้เงินชดเชย หันไปซ่อมรถ

24 พ.ย. 66

แรงงานโคราชที่หนีสงครามจากอิสราเอล หันไปรับจ้างซ่อมรถยนต์ โอดยังไม่ได้รับค่าชดเชยหมื่นห้า - วอนรัฐชัดเจนเรื่องเงินชดเชย 5 หมื่นบาท

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหนองยาง ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามวิถีชีวิตของแรงงานไทยที่เดินทางกลับมายังภูมิลำเนาหลังจากเกิดปัญหาสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส

โดยนายนราศักดิ์ ด่านกระโทก อายุ 38 ปี แรงงานชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 66 โดยนายนราศักดิ์ ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลประมาณ 3 ปี 10 เดือนแล้ว ทำงานเป็นคนงานในสวนลูกพีชและไร่องุ่น โดยกู้เงินเพื่อใช้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลประมาณ 1 แสนบาท ปัจจุบันนี้ใช้หนี้ดังกล่าวหมดแล้ว

ในช่วงแรกที่เกิดสงครามนั้นทางนายนราศักดิ์ ยังไม่อยากกลับเนื่องจากรายได้ที่รับจากการทำงานที่อิสราเอลนั้นสูงประมาณเดือนละ 8 หมื่นบาท จึงทำให้นายนราศักดิ์เลือกที่จะยังไม่เดินทางกลับ ถึงแม้รัฐบาลไทยจะประกาศให้แรงงานไทยที่อิสราเอลเดินทางกลับก็ตาม

แต่สาเหตุที่ทำให้นายนราศักดิ์ ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยก็เพราะสถานที่ทำงานโดนลูกระเบิดลง แต่โชคดีที่มีคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยส่วนตัวนายนราศักดิ์ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวจึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยในทันที

หลังจากกลับมาจากประเทศอิสราเอลตนก็หยุดพักประมาณ 1 สัปดาห์ โดยยังไม่ได้หาที่ทำงานใหม่ ซึ่อาของตนได้เปิดอู่ซ่อมรถที่ใช้ในการเกษตรเล็ก ๆ ภายในหมู่บ้านอยู่แล้ว ตนจึงตัดสินใจมาช่วยงานที่อู่ของอา ซึ่งก่อนไปนั้นตนก็มีความรู้พื้นฐานเรื่องการซ่อมแซมเครื่องยนต์ และช่างสีรถยนต์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงตัดสินใจมามาช่วยงานที่อู่ของอา โดยจะขอทำงานตรงนี้ไปก่อน ถึงแม้เงินจะไม่มากเท่ากับทำงานที่อิสราเอล แต่ก็พอเลี้ยงดูครอบครัวได้ ถึงแม้จะเสียดายเงินจำนวนมาก จากการทำงานที่ประเทศอิสราเอล แต่ถ้าจะให้กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้งตนคงไม่กลับไปแน่นอน

นายนราศักดิ์ เปิดเผยต่อไปว่า ทุกวันนี้ตนยังไม่ได้เงินชดเชยจากเงินกองทุนแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศจำนวน 15,000 บาท ซึ่งได้ลงทะเบียนเอาไว้แล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยที่สอบถามเพื่อนแรงงานที่กลับมาด้วยกันทราบว่าบางรายนั้นได้เงินชดเชยแล้ว แต่ของตนยังไม่ได้ ซึ่งหวังว่าจะได้รับเงินชดเชย นอกจากนี้เงินเดือนค่าจ้างเดือนสุดท้ายก็ยังไม่ได้รับ จึงอยากฝากรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือในการประสานงานเงินเดือนค่าจ้างเดือนสุดท้ายจากประเทศอิสราเอลให้ด้วย นอกจากนี้เงินช่วยเหลือที่ทางรัฐบาลจะจ่ายเพิ่มให้จำนวน 5 หมื่นบาท นั้นก็อยากให้ทางรัฐบาลมีความชัดเจนว่าแรงงานจะได้หรือไม่อย่างไร เพราะจำนวนเงินดังกล่าวอาจจะช่วยเหลือแรงงานที่กลับมาแล้วที่ยังไม่มีงานทำ ได้มีต้นทุนในการดำเนินชีวิต

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส