กองปราบฯ สรุปสำนวนส่งอัยการ สั่งฟ้อง กำนันนก จ้างวานฆ่า สารวัตรแบงก์

14 พ.ย. 66

 

กองปราบฯ สรุปสำนวนส่งอัยการ สั่งฟ้อง กำนันนก จ้างวานฆ่า สารวัตรแบงก์ พร้อมฟ้องกลุ่มตำรวจช่วยพาหลบหนี -ร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด 

จากเหตุนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ลงมือยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงก์ สว.กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตในงานเลี้ยง ภายในสำนักงานของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการวิสามัญ นายหน่อง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ก่อนมีการโอนคดีมาให้กองปราบฯ เข้าไปดำเนินการ รวมทั้งยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว พิจารณาแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องนายหน่อง ผู้ต้องหาที่ 1 คดี “ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจําเป็นเร่งด่วนตามพฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” หากแต่ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจวิสามัญฆาตรกรรมถึงแก่ความตายไปแล้วจึงระงับฟ้องไป 

ส่วน กำนันนก ผู้ต้องหาที่ 2 คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหา “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทําความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น” จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหายังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะครบกําหนดฝากขังเป็นครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องในวันที่ 16 พ.ย.นี้ โดยไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งให้อัยการ เพราะผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำแล้ว 

ส่วนคดีที่ 2 คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นาย ที่ให้ความช่วยเหลือกำนันนกหลบหนี ภายหลังจากเกิดเหตุคือ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข, ร.ต.ต.ประสําร รอดผล, ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล, ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ แตงอําไพ, ร.ต.อ.ณัฏฐพล นําคกร และ ร.ต.ท.สรรเสริญ ศรีสวัสด ทั้งหมดยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ฯ ร่วมทั้งตำรวจอีก 15 นาย ที่อยู่ร่วมในงานเลี้ยงด้วย ฐานละเว้น การปฎิบัติหน้าที่อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีความเห็นสั่งฟ้องกลุ่มลูกน้องของกำนันนกอีก 7 คน ที่ร่วมกันทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส