หนุ่มม้งไปทำงานถูกกฎหมาย แต่ชื่อล่องหนกลุ่มคนไทยตกเป็น ตัวประกันฮามาส

15 ต.ค. 66

เมียช็อกภาพว่อนเน็ต ผัวถูกกลุ่ม "ฮามาส" ลากคอจับไป แต่กลับไร้ชื่อปรากฏอยู่ในลิสต์ คนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ร่ำไห้ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี

สืบเนื่องจากภาพที่แชร์ในโลกออนไลน์ กลุ่มฮามาสจับคนไปเป็นตัวประกัน ภายหลังยืนยันแล้วว่าบุคคลในภาพเป็น คนไทยเชื้อสายม้ง ชื่อ "กง แซ่เล่า" อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงราย ไปทำงานที่อิสราเอลอย่างถูกกฎหมายในไร่อะโวคาโด ทว่า ไม่ปรากฏอยู่ในรายชื่อคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หมู่บ้านกิ่วดอยหลวง หมู่ 10 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของคนไทยกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ได้มี น.ส.สุนทรี แซ่ลี อายุ 28 ปี ซึ่งมีสามีชื่อนายกง แซ่เล่า อายุ 26 ปี ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้ประมาณ 1 ปียังไม่ทราบสถานะว่าเป็นอย่างไรเพราะไม่ได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มประมาณ 6 คนอย่างชัดเจน ทำให้ น.ส.สุนทรี รู้สึกสับสนและกังวลใจอย่างมาก

ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุนายกงยังได้ถ่ายคลิปการยิงต่อสู้กันโพสต์ลงเฟซบุ๊ก โดยมีเสียงสนทนากับเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนและมีการยิงขีปนาวุธผ่านพื้นที่ทำงานด้วย ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน

น.ส.สุนทรี กล่าวว่ตนกับสามีอยู่กินได้กันได้นานประมาณ 10 ปี แต่ยังไม่มีลูกด้วยกันและเขาพึ่งเดินทางไปทำงานใกล้กับเขตฉนวนกาซาได้เกือบ 1 ปีโดยจะครบปีวันที่ 8 พ.ย.นี้ โดยก่อนไปได้กู้หนี้ยืมยินและพึ่งได้ชดใช้หนี้

จากนั้นเราวางแผนกันว่าจะสร้างบ้านหลังใหม่และดูแลแม่ของเขาที่ชราภาพด้วย โดยช่วงที่ไปทำงานตนก็สามารถติดต่อกับสามีได้ตลอดกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดที่เกิดเหตุ เขาได้ติดต่อมาทำให้ ตนสอบถามสาเหตุซึ่งเขาบอกว่าจำเป็นต้องตื่นเพราะมีการต่อสู้กันขึ้น

ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงปืนและระเบิด ก่อนที่สามีจะขอวางสายไปและในช่วงสายประมาณ 11.00 น. ตนยังเห็นเฟซบุ๊กของเขาออนไลน์อยู่ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ไม่สามาถติดต่อกันได้อีกเลย

น.ส.สุนทรี กล่าวอีกว่าหลังเกิดหตุหัวหน้างานและเพื่อนที่ทำงานแจ้งว่าทหารอิสราเอลบอกเพียงว่าคนที่อยู่ในไร่อะโวคาโด ยังไม่เสียชีวิตเท่านั้นแต่ไม่แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม และไม่มีใครยืนยันว่าได้พบเห็นสามีของตน ทำให้ตนไม่ทราบสถานะที่ชัดเจนของสามีจากนั้นก็ไม่มีหน่วยงานใดแจ้งข้อมูลอีก ดังนั้นตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบสถานะที่แท้จริงของสามีให้ด้วยโดยตนยังมีความหวังว่าเขาจะรอดชีวิตและติดต่อกลับมา

น.ส.สุนทรีกล่าวว่าคนที่ทำงานสวนอะโวคาโดยังไม่มีใครเป็นอะไร ต่างคนต่างหนีกันไปคนละทิศละทาง ก็สงสัยว่าสามีของตนอาจจะถูกจับตัวไปเป็นตัวประกันหรือไม่ แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจเพราะติดต่อเขาไม่ได้ทำให้ยังรอข้อความจากสามีทุกวัน

สามีเป็นเสาหลักของครอบครัวเมื่อเขาหายไปตนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว โดยสามีเป็นคนอาภัพมากเป็นเด็กกำพร้า แต่เล็กต้องอาศัยอยู่กับตายาย มีฐานะยากจน ทำให้ต้องยอมเสี่ยงที่จะไปทำงานในอิสราเอลก็หวังจะมีชีวิตใหม่ ได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาท ตั้งเป้าที่จะสร้างบ้านและซื้อรถให้กับครอบครัวและกับทางปู้ย่าตายายและทางแม่ แล้วก็จะกลับมาอยู่ในประเทศ

โดยหลังไปอยู่ประมาณ 11 เดือนก็เกิดเหตุยิงกันบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าครั้งนี้จะรุนแรงเช่นนี้ ตอนนี้ก็หวังว่าสามียังอยู่ระหว่างหลบหนีเอาตัวรอดทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ยังไม่ถึงขั้นต้องสูญเสียชีวิตเลย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส