สาวใหญ่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ร้องถูกชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจจับเรียกค่าไถ่ 200,000 บาท
นางพัชรี วัย 48 ปี พาผู้สื่อข่าวชี้จุดเกิดเหตุหลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน ขับรถเก๋งสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระจกหลังมีสติกเกอร์คล้ายตาโลโก้ตำรวจติดอยู่ ซึ่งห่างจากบ้านพักตนเองประมาณ50เมตร จากนั้นชายฉกรรจ์ดังกล่าวลงมาจากรถแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วใช้ผ้าดำคลุมหัว นำตัวขึ้นรถออกไปจากจุดเกิดเหตุโดยไม่ทราบชะตากรรม เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.ย.66 พื้นที่ หมู่10 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบฯ
นางพัชรี เล่าต่อว่าขณะที่ตนถูกคุมตัวอยู่ในรถกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการพูดคุยกัน โดยหลุดปากเรียกชื่อเพื่อนร่วมทีมขึ้นมาว่า“แง๊ะเอางัยต่อ”โดยกลุ่มชายฉกรรจ์คนหนึ่งใช้อาวุธปืนจ่อไว้ที่หัวตน พร้อมกับใช่แขนล็อกคอไว้ตลอด
จากนั้นได้พาตนนั่งรถไปตามทาง ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าจะพาไปที่ไหน ต่อมามีการพูดคุยกันโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกระบวนการค้ายาเสพติดโดยอ้างว่าผู้ต้องหารายหนึ่งที่จับมาได้ซัดทอดตนว่ามียาเสพติดไว้ในคอบครอง แต่ตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาหากไม่นำเงินจำนวน 300,000 บาท มาไถ่ตัวกลับไปจะดำเนินการยัดยาให้แล้วส่งต่อส่วนกลางให้ดำเนินคดี
ตนจึงเกิดความกลัวแต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพราะตนไมได้นำโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย ระหว่างนั้นมีสายโทรศัพท์จากกลุ่มชายฉกรรจ์ส่งให้ตนพูดกับลูกสาว โดยที่ตนยังถูกปิดตาด้วยผ้าคลุมหัวอยู่ จึงสงสัยว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเอาเบอร์ลูกสาวตนมาจากไหน แต่ตนก็ไม่กล้าถามเพราะยังอยู่ในความตกใจกลัว จึงพูดกับลูกสาวให้นำเงินจำนวน 300,000 มาไถ่ตัวแม่ออกไปมิเช่นนั้นต้องเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแน่
ด้านลูกสาวของนางพัชรี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ชาวบ้านเลี้ยงวัวในละแวกมาบอกตนว่าเห็นแม่ถูกนำตัวขึ้นรถเก๋งสีขาวออกไปไม่ทราบว่าเป็นใคร ตนก็ไม่เอะใจอะไร พอมาช่วงตอนเย็นมีสายโทรศัพท์เข้ามาจึงรับสายถึงทราบว่าเป็นเสียงของตำรวจคนหนึ่งชื่อ“แง๊ะ”ซึ่งตนจำได้ เพราะเป็นคนรู้จักมักคุ้นกับอดีตแฟนเก่า เคยพูดคุยกันโดยคนชื่อ“แง๊ะ”บอกกับตนว่าแม่ถูกตำรวจจากภาคควบคุมตัวไป
จากนั้นไม่นานมีเสียงโทรศัพท์เข้ามาใหม่ แต่เป็นเสียงของแม่พูดให้ตนหาเงินมาไถ่ตัว ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงเพราะอยู่ในความตกใจจึงขอต่อรองลงเหลือ 200,000 บาท ก่อนจะปรึกษาญาติๆเพื่อหาเงินให้ครบตามจำนวนไปไถ่ตัวแม่
หลังจากเกิดเรื่องจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมือง ให้ดำเนินคดีกับกลุมผู้ก่อเหตุ เพราะเชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่อย่างแน่นอน.
.jpg)
