สลด! ครูวัยเกษียณจอดรถไม่ได้ดึงเบรกมือ รถไหลทับร่างคอติดรั้งรั้วลวดหนามดับ

5 พ.ค. 66

สลด! ครูวัยเกษียณจอดรถหน้าบ้านไม่ได้ดึงเบรกมือ รถไหลทับร่างคอติดรั้งกับรั้วลวดหนามขาดอากาศหายใจดับสลด

วันที่ 4 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.25 น. อาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธรณภัย สมาคมสุรินทร์นิวส์ ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะไหลทับคนเสียชีวิต ในซอยย้อยของเขตพื้นที่บ้านปวงตึก ม.4 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธรณภัย สมาคมสุรินทร์นิวส์ ร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.เทนมีย์

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บค 326 สุรินทร์ จอดขวางซอยอยู่ ช่วงท้ายรถพุ่งชนกับรั้วลวดหนามจนเสาของรั้วนั้นล้มลง ใต้ท้องรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนางสมมาตร สงวนนามสกุล อายุ 68 ปี ( เป็นอดีตข้าราชการครูวัยเกษียณ ) สภาพศพถูกรถทับทั้งตัวไปจนถึงช่วงบริเวณหัวไหล่ ส่วนบริเวณคอพาดรั้งอยู่กับลวดหนาม ศีรษะโผล่ออกมาช่วงท้ายของรถ

จากการสอบถามนายพงศกร สงวนนามสกุล อายุ 23 ปี เป็นผู้พบศพคนแรกเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณทุ่มกว่าๆ ตนขับรถเพื่อที่จะเข้าบ้านตนเองที่อยู่ท้ายซอย แล้วเห็นรถกระบะคันนี้จอดขวางอยู่ในสภาพนี้แล้ว และไฟหน้าก็ยังเปิดอยู่ แต่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องไว้ ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และก็ไม่ได้สังเกตที่ท้ายรถว่าชนรั้วลวดหนามอยู่ จนกระทั้งช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า ตนจะออกไปข้างนอก แล้วก็เห็นยังอยู่ในสภาพเดิม แต่คราวนี้ตนเห็นว่าท้ายรถนั้นชนกับรั้วลวดหนาม ตนรู้สึกผิดสังเกตก็เลยเดินมาดูก็ถึงกับผงะ เพราะเจอร่างของครูสมมาตรถูกรถทับอยู่ ตนก็เลยรีบโทรแจ้งกู้ภัย

ทางด้านนายเอกพันธ์  สงวนนามสกุล  อายุ 39 ปี ลูกเขยเล่าว่า โดยปกติแล้วแม่จะนอนอยู่บ้านในตัวเมือง จะมาที่บ้านสวนนี้เฉพาะตอนกลางวันเพื่อที่จะมาดูแลสวน แต่ช่วงนี้บ้านที่อยู่ในตัวเมืองนั้นกำลังต่อเติมอยู่ พ่อกับแม่ก็เลยมาอาศัยนอนที่บ้านสวนแห่งนี้ โดยก่อนเกิดเหตุนั้น เมื่อช่วงค่ำพ่อกับแม่ก็กำลังกลับจากบ้านในตัวเมือง และกำลังจะเดินทางมานอนที่นี่ แต่ทางพ่อขอปลีกตัวขับ จยย. ไปหาซื้อข้าวกินก่อน เลยปล่อยให้แม่ขับรถกลับมาคนเดียว ตนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครวบครัวตัวเอง ตนเสียใจมากๆ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะขับรถไปจอดไว้ แล้วลงมาเพื่อจะเปิดรั้วบ้าน แต่เนื่องด้วยผู้เสียชีวิตนั้นลืมดึงเบรกมือ ประกอบกับทางขึ้นนั้นมีความลาดชันพอสมควร จึงทำให้รถไหลมาชนร่างแล้วพุ่งไปกระแทกกับรั้วลวดหนาม จนทำให้รถทับร่าง และส่วนคอของผู้เสียชีวิตนั้นก็ไปพาดรั้งอยู่กับรั้วลวดหนาม ด้วยความที่เป็นผู้สูงอายุ และไม่มีใครเห็นเหตุการณ์หรือช่วยได้ทัน จึงทำให้ขาดอากาศหายใจ หลังจากที่แพทย์เวรนิติเวชโรงพยาบาลสุรินทร์ชันสูตร และได้ลงความเห็นการเสียชีวิตแล้ว ทางญาติไม่ติดใจ ก็ได้ส่งศพให้กับทางญาติเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส