“หัวหน้าพรรคเปลี่ยน” ไม่เห็นด้วย กกต.จัดพิมพ์ บัตรเลือกตั้งเกิน

30 เม.ย. 66

“หัวหน้าพรรคเปลี่ยน” ไม่เห็นด้วยจัดพิมพ์ บัตรเลือกตั้งเกิน อาจทำการเมืองไม่โปร่งใส ตั้งคำถามถึงเวลามีกฎหมายลงโทษ กกต.ที่ทำงานผิดพลาดหรือยัง 

วันที่ 30 เม.ย. 66 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธ์ หรือ นอท หัวหน้าพรรคเปลี่ยน ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน ประมาณ 7 ล้านใบ สำหรับการ เลือกตั้ง66 ในครั้งนี้ว่า อาจจะทำให้การเมืองไม่โปร่งใสอย่างรุนแรง

ส่วนตัวเห็นว่าไม่ได้มีบัตรเสียถึง 7 ล้านใบ จึงไม่เห็นด้วยกับการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งออกมาเกินความจำเป็น แต่เมื่อพิมพ์ออกแล้วให้หาวิธีคิดและแก้ไข เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตั้งคนมาตรวจสอบ คอยดูเรื่องการเบิกบัตรเลือกตั้ง ไม่ใช่ให้ กกต. มาเบิกฝ่ายเดียว หรือให้ตัวแทนทุกพรรคการเมืองเข้าไปร่วมตรวจสอบว่า กกต.นำเบิกออกไปเท่าไหร่ ใช้ไปเท่าไหร่ หรืออาจจะนับจำนวนบัตรที่ใช้แล้วต่อหน้าประชาชน ส่วนบัตรเลือกตั้งที่จัดพิมพ์สำรอง 7 ล้านใบ ต้องไม่มีการทำเครื่องหมายกากบาทเกิดขึ้น  ซึ่งหากสามารถทำได้ พรรคเปลี่ยนยินดีให้ความสนับสนุน

นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนคิดว่าการเลือกตั้งดูไม่โปร่งใส ไม่มีใครไว้ใจ  กกต.ในการทำหน้าที่ ถือเป็นวิกฤตศรัทธา หากพรรคการเมืองอยากจะร่วมไปสังเกตการณ์ตรวจสอบการนับคะแนนการเลือกตั้ง โดยจ้างคนไปเป็นผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งหน่วยละ 300 บาท มีหน่วยเลือกตั้ง 90,000 กว่าหน่วยทั่วประเทศ พรรคก็จะใช้เงินกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะจะเกินงบประมาณที่ กกต.กำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรคต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท จึงอยากถามไปยัง กกต.ว่าพรรคจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไร ขณะเดียวกันก็อยากจะฝากคำถามไปถึงทุกพรรคการเมืองถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องทุจริตในการเลือกตั้งครั้งนี้ 

นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า การทำงานของ กกต.ที่มักจะเกิดความผิดพลาดขึ้น ทั้งการจัดทำเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครผิดพลาด เอกสารปิดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งสีของโลโก้บางพรรคไม่ชัดเจนว่าปัญหาใหญ่ๆ ของ กกต. คือไม่มีบทลงโทษ เมื่อผิดแล้วขอโทษก็จบ ไม่มีการแก้ไข ส่วนตัวอยากถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมีกฎหมายมาลงโทษการทำผิดในแต่ละครั้ง เช่นเดียวกับที่พรรคทำผิดมีโทษปรับ จำคุก อย่างไรก็ตามในฐานะพรรคเล็ก ไม่มีอำนาจไปตรวจ ทำได้เพียงแค่ภาวนาว่าจะไม่ถูกโกง ไม่มีเงินไปจ้างคนไปสังเกตการณ์ทุกหน่วยเลือกตั้งเหมือนพรรคขนาดใหญ่ จึงอยากเรียกร้องไปยังทุกพรรคร่วมมือกัน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม