แฉ! เสี่ยเบนซ์ตีนผี ก่อนซิ่งฆ่าตำรวจและเมียตาย สั่งเด็กซื้อเบียร์ดื่ม 10 ขวด (คลิป)

วันที่ 12 เม.ย. 62 จากกรณีที่นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ขับรถเบนซ์ พุ่งชนรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยา เสียชีวิต ส่วน น.ส.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัส กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.วิชัยเวช เหตุเกิดที่บริเวณบริเวณซอยงามธรรมชาติ ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยช่วงบ่ายที่ผ่านมาที่ สน.ศาลาแดง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สอบปากคำนายสมชาย เนื่องจากช่วงแรกยังมีอาการเพิ่งสร่างเมา โดยมีญาติและเพื่อนของผู้ต้องหาเข้ามาร่วมฟังการสอบสวนด้วย หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต

หลังจากนั้นนายสมชายได้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้าตึงเครียด และเพียงสั้น ๆ ว่า ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ได้มีเจตนา เสียใจมาก ๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมาหรือไม่ แต่นายสมชายไม่ตอบอะไร

นายไมตรี พวงใส ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงเวลา 22.00-23.00 น. ตอนนั้นตนกำลังทำงานอยู่ในอู่ ได้ยินเสียงรถชนกันดังมาก แต่ไม่มีเสียงเบรกใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อวิ่งออกไปดูก็พบว่ารถยนต์ของผู้ตายกระเด็นไปอยู่บนขอบสะพาน สภาพด้านหน้าฝั่งขวายุบ คนขับผู้ชายยังหายใจรวยริน ส่วนที่นั่งข้างคนขับเป็นลูกสาวของผู้ตายยังมีสติและกำลังร้องไห้ ส่วนผู้หญิงที่นั่งด้านหลังน่าจะเป็นภรรยานอนนิ่งหมดสติ ส่วนรถเบนซ์กระเด็นไปอยู่ตีนสะพาน สภาพด้านหน้าขวายับเช่นเดียวกัน ส่วนคนขับนั่งนิ่งอยู่ ตนไม่ทราบว่าคนขับเมาหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เข้าไปใกล้

ด้านน.ส.ยุพากร เมืองตา พนักงานสนามกอล์ฟ กล่าวว่า ปกติเห็นนายสมชายเข้ามาตีกอล์ฟอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เวลาแขกมาตีกอล์ฟก็จะมีการดื่มเบียร์ แต่ในสโมสรไม่มีเบียร์ขายก็ต้องให้เด็กไปซื้อมาจากข้างนอก โดยเมื่อคืนได้ให้เด็กไปซื้อมาให้นายสมชายกับเพื่อนจำนวน 10 ขวด ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่รู้ว่านายสมชายออกไปตอนไหน หรือมีอาการเมาหรือไม่ มารู้อีกทีตอนเกิดอุบัติเหตุแล้ว

ขณะที่ น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของภรรยาของ พ.ต.ท.จตุพร ได้เดินทางมาพูดคุยไล่เกลี่ยกับคู่กรณี ซึ่งผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจโดยน.ส.ขนิษฐากล่าวด้วยอาการโศกเศร้าน้ำตาคลอว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรจะมาชดเชยได้ ไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะน้องเขยเองเป็นคนที่ขับรถไม่เร็ว และรักษากฎจราจร ส่วนอาการของหลานที่บาดเจ็บสาหัสยังไม่รู้สึกตัว แต่พ้นจุดวิกฤติแล้ว แต่ต้องรอตรวจสมองเนื่องจากกะโหลกศีรษะยุบ ส่วนลูกของผู้ตายอีกคนที่เรียนอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เมื่อทราบข่าวทางโซลเชียลก็โทรมาถามว่าจริงหรือไม่ แล้วก็ร้องพูดฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ตนยังไม่ได้คุยกับผู้ต้องหาเห็นว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บ มีทางญาติเข้าที่เข้ามาพูดคุย ทางฝั่งคู่กรณีก็จะดูและอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องหลานทั้งสองตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ ขอให้หมอรักษาหลานสาวคนเล็กให้หายก่อน ส่วนเรื่องการรับศพทั้งน้องสาวและน้องเขยน่าจะต้องผ่านเทศการสงกรานต์ไปแล้ว แต่ยังไม่ระบุวัน ตอนนี้กำลังเชคเรื่องสถานที่ และดำเนินการเรื่องเอกสาร