น้อยใจทัวร์ลง! สาวผู้ช่วยพยาบาลแจงเหตุไม่หลบรถกู้ภัยฯ คนป่วยเสียชีวิต

27 ก.ค. 65

สาวผู้ช่วยพยาบาล แจงรถกู้ภัยฯ ขับจี้ท้ายทำตกใจการตัดสินใจน้อยลง วอนสังคมเข้าใจ ด้าน ผอ.รพ.เรียกถกด่วน ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

 

กรณีเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเผยแพร่เพจชื่อดัง "ชุมทางทุ่งสง" โดยระบุ "ฝากถึงรถมูลนิธิสยามรวมใจนะคะ เวลาขอทาง ให้เวลารถคันหน้าดูรถทางซ้ายมือบ้างนะคะ ไม่ใช่คิดแต่จะจ่อตูดอย่างเดียว คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นเค้าบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง ถึงน้องจะรีบแค่ไหน ด่วนแค่ไหน คิดถึงความปลอดภัยคนอื่นด้วยนะคะ"

 

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวเน็ตแสงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ชาวเน็ตยังตำหนิผู้ที่โพสต์อีกด้วย

 


ล่าสุด นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี อาชีพผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งและคนโพสต์เผยว่า

 

"เมื่อวานนี้ตนขับรถออกจากบ้านมาบนถนนทุ่งสง-ตรัง ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทุ่งสงสุราษฎร์ธานีมุ่งหน้าไปสี่แยกเกษตร ซึ่งตนเข้าเลนกลางเพื่อขับผ่านสี่แยกตรงไปโรงพยาบาล ซึ่งช่องจราจรบังคับให้ตนต้องขับรถเข้าเลนขวา ซึ่งช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันเป็นทางยาว เนื่องจากเป็นวันที่มีตลาดนัด

 

ระหว่างนั้นมีเสียงของรถกู้ภัยเปิดไซเรนขับตามหลังมา ซึ่งตอนแรกตนพยายามจะเบี่ยงเข้าเลนซ้ายหลบให้รถกู้ภัยแล้วแต่ช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันจึงไม่สามารถเบี่ยงซ้ายได้ ประกอบกับรถกู้ภัยขับลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับหยุด ตนจึงไม่กล้าที่จะขับรถเบี่ยงออกซ้ายเพราะรถของตนคันเล็ก ทัศนวิสัยไม่ดีมองกระจกหลังไม่เห็น เนื่องจากมีรถกู้ภัยจ่อท้ายอยู่

 


"ยอมรับว่าที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ความสามารถสติในการขับรถของตนลดน้อยลง ประกอบกับความกลัวว่าจะถูกรถกู้ภัยชนท้าย เนื่องจากรถกู้ภัยขับรถในลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับกับหยุด จึงไม่กล้าขับเบี่ยงออกซ้าย ส่วนคลิปหน้ารถที่รถกู้ภัยนำมาโพสต์เป็นเพียงแค่ช่วงท้าย ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายนั้นบริเวณช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันตลอดทาง ตนจึงไม่สามารถขับรถเบี่ยงซ้ายหลบให้กู้ภัยได้ จึงวอนสังคมให้ฟังความทั้งสองข้าง หากไม่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ควรจะวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้อื่นเสียหาย"

 


นางสาวบีเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนทักช่องแชตมูลนิธิฯ เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีการตอบรับ จึงตัดสินใจนำเรื่อราวมาโพสต์จนเกิดกระแสดราม่าดังกล่าว นอกจากนี้มีกู้ภัยบางคนและชาวเน็ตส่งข้อความมาช่องแชตส่วนตัวในลักษณะข่มขู่สารพัด แต่ตนไม่สนใจอะไรเพราะว่าเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนอยากถามทุกคนว่าหากเจอกรณีที่มีรถขับจ่อท้ายในลักษณะเร่งเครื่องสลับหยุดโยกซ้ายขวา ที่สำคัญมีรถจอดซ้อนคันช่องเลยซ้ายแล้วจะให้ทำอย่างไ รยอมรับว่าปรึกษาทนายแล้วเรื่องที่จะดำเนินการกับคนที่ทักช่องแชตลักษณะข่มขู่ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรได้บ้าง

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ขอให้ฟังความทั้งสองข้างว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร หากคนใดคิดว่าเหตุการณ์ตามคลิปตนผิด ตนต้องก็ขอโทษด้วย

 


ขณะที่ นพ.ปณิธาน สื่อมโนธรรม ผอ.รพ. หน่วยงานต้นสังกัดของสาวรายดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งสอบถามทางหัวหน้าตึกที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวปฏิบัติงานแล้ว ซึ่งตนจะเรียกเจ้าหน้าที่สอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส