กรณีข่าวดังใน จ.นครสวรรค์ ปมหนุ่มใหญ่หึงโหด ยิงเมียก่อนปลิดชีพตัวเองตาม เหตุเกิดในห้องครัวบ้านฝ่ายหญิง ม. 9 ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 28 เม.ย. 65 พ.ต.ต.ชินดนัย ทินันต์ตา สว.(สอบสวน) สภ.ลาดยาว เป็นเจ้าของคดี สันนิษฐานเป็นเหตุสามีภรรยาทะเลาะวิวาทกัน
ซึ่งผู้เสียชีวิต นางสาวนิภาวรรณ จันทร อายุ 31 ปี อยู่ในท่านั่งทับร่างของ นายพยนต์ ไทยกล้า อายุ 57 ปี นอนราบอยู่บนแคร่ไม้ ครอบครัวฝ่ายหญิงอ้างทั้งคู่มีเรื่องหึงหวง ทะเลาะกันเป็นประจำ ฝ่ายชายจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีคนอื่น แต่นางสาวนัท (นามสมมติ) อายุ 36 ปี และนายชนะชล (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ลูกของฝ่ายชายติดใจการเสียชีวิต จึงร้องไปยังเพจดังว่าทองหายไป สงสัยว่าเป็นการจัดฉากฆ่าหรือไม่
ล่าสุด วันที่ 2 พ.ค. 65 ตำรวจสภ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ทำหนังสืออายัดร่างนายพยนต์ ผู้เสียชีวิต จากวัดห้วยกาน บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ส่งชันสูตรใหม่ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เพื่อนำมาผลเทียบกับนิติเวชโรงพยาบาลสวรรค์ประรักษ์ เพราะคาใจเชื่อว่าถูกจัดฉาก
น.ส.นัท ลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ทราบว่ามีการอายัดร่างพ่อและผ่าชันสูตรอีกรอบตนรู้สึกดีใจ เพราะอยากรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ แต่ก็อดสงสารพ่อไม่ได้ เพราะคงต้องเจ็บตัวอีก จึงร้องไห้จนแทงหมดแรง แต่ก่อนเคลื่อนออกมาจากวัด ตนจึงเคาะโลงบอกพ่อว่า "ทนเจ็บอีกนิด เจ็บครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะต้องการให้ความจริงปรากฏ" ตนเองก็เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เสียใจ เหลือพ่อแค่คนเดียว และทำไมต้องทำกับพ่อตนขนาดนี้ พ่อเป็นคนที่ใจดีที่สุดแล้ว เรื่องปืนเรื่องมีดไม่เคยพกเลย
สำหรับเรื่องทองของพ่อ วันนี้ก็ยังไม่ได้คืน ครอบครัวฝ่ายหญิงไม่มีใครติดต่อมาเลย นับตั้งแต่เช้าวันที่ 29 เม.ย. 65 ตนเดินทางไปที่สถานีตำรวจประสานเรื่องพ่อ ขณะนั้นถามหาบัตรประชาชนกับกระเป๋าของพ่อ เพราะพ่อน่าจะใส่ทองไว้ แต่ตำรวจคืนแค่มือถือ 2 เครื่อง และกุญแจรถสิบล้อ ซึ่งเมื่อถามหากระเป๋ากับทองของพ่อ ตำรวจกลับไม่รู้
กระทั่งไปนิติเวช พบญาติฝ่ายหญิงมา 2 คน ก่อนจะยื่นบัตรประชาชนพ่อให้ตนแบบสีหน้าไม่พอใจ ตนจึงถามหากระเป๋า ทั้งคู่บอกไม่มีมีแค่บัตร ซึ่งพบในกระกระเป๋ากางเกงพ่อ ตนจึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อเป็นคนพกกระเป๋า อีกทั้งเพื่อนพ่อไปดูของบนรถพ่อก็พบว่ากระเป๋าเสื้อผ้าถูกค้น เหลือแต่ถุงใส่ทอง เพื่อนพ่อถ่ายเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องทองของพ่อจริงน้ำหนัก 5 บาท เพราะพ่อใช้คะแนนจากบัตรเติมน้ำมันไปแลกเพิ่มมาจาก 3 บาท เป็น 5 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าใครเอาไป แต่คนที่เอาไปน่าจะรู้ตัวดี
ด้านนายนายชนะชล ลูกชาย เปิดเผยหลังออกจากการเข้าร่วมการชันสูตรร่างพ่ออีกครั้งว่า แพทย์ไม่ได้แจ้งว่าจะให้เข้าร่วมแต่มาถึงแพทย์ให้เข้าร่วมเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเข้าไปก็ได้เห็นทุกอย่างว่าร่างพ่อเป็นอย่างไรและโดนอะไรบ้าง รวมถึงพบพิรุธหลายจุดมาก ดังนั้นขอปิดขอสำคัญไว้ก่อน แต่สิ่งที่เปิดเผยได้คือพ่อถูกยิง 2 จุด คือที่หัวไหล่ข้างซ้าย เป็นข้อสงสัยมากว่าถ้าหากพ่อยิ่งหัวไหล่ก่อน แล้วพ่อจะมีแรงวิ่งไปเปลี่ยนลูกปืนอีกนัด และมายิงหัวตัวเองได้อย่างไร เพราะปืนแรงมาก และพ่อยิงท่าไหน หรือหากท่านอนก็ต้องโดยฝ่ายหญิงด้วย ขณะเดียวกันกระสุนที่ไหล่ ขนาดไม่ตรงกันกับที่หัว
ส่วนใต้ค้างมีคราบเขม่าดินปืนแต่จุดนี้น่าจะเป็นเพราะความแรงของปืน จึงมั่นใจเต็ม 100% ว่าพ่อตนไม่ได้ยิงตัวตาย แต่คาดว่ามีการต่อสู้ จึงขอฝากตำรวจให้ทำเรื่องนี้ให้กระจ่างได้รับความยุติธรรม เพราะตนมีพ่อคนเดียว พร้อมขอให้ฝ่ายหญิงพูดความจริง ไม่ใช่พูดกลับไปกลับมา
สำหรับเรื่องเชิญวิญญาณ กรณีแม่ฝ่ายหญิงบอกผ่านสื่อว่าให้พวกตนไปเรียกพ่อกลับ ตนยืนยันว่าพ่อกลับมาตั้งแต่วันไปรับศพแล้ว เพราะมีคนเห็นพ่อนั่งรถมากับมูลนิธิฯ และญาติที่นำข้าวไปให้มูลธิก็เห็น และยังนำข้าวไปให้ถึง 4 กล่อง น้ำอีก 4 ขวด บอกเห็นคนในรถอีกคนนั่งข้างเจ้าหน้าที่มา ดังนั้น ตนจึงไม่ขอกลับไปเชิญดวงวิญญาณ เพราะกลัวอันตราย อีกทั้งจุดนั้นเป็นบ้านฝ่ายหญิงไม่รู้ว่าครอบครัวเขาคิดอะไร
นางนกแก้ว จันทร อายุ 58 ปี แม่ของนิภาวรรณผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น วันที่ 1 พ.ค.65 ทางครอบครัวได้ทำการฌาปนกิจร่างของลูกสาวแล้ว ที่วัดหนองสังข์ ส่วนตัวในฐานะผู้เป็นแม่ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้แล้ว เพราะเชื่อว่าปมเหตุเกิดจากความหึงหวงของชายแก่ที่มีต่อหญิงสาวเป็นเหตุให้ยิงกันตาย
ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวของนายพยนต์ สงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ คิดว่าไม่ได้เป็นการยิงลูกสาวตนและยิงตัวตายตาม แต่เป็นการจัดฉากการตาย ส่วนนี้ตนอยากให้เปลี่ยนความคิด และอย่าคิดกันไปเอง เพราะอยากให้มองว่าหากทางครอบครัวจัดฉาก จะทำเพื่ออะไร เพราะลูกสาวตนก็ต้องมาตาย ฝ่ายตนก็สูญเสีย อีกทั้งตนก็ถูกตำรวจเรียกไปสอบสวนแล้ว ก็ให้การตามเหตุการณ์ที่พบเห็น ส่วนชายวัยรุ่นที่ลูกสาวถ่ายวิดีโอลงใน Tiktok ตนไม่เคยรู้จัก หรือเคยพบเห็นมาก่อน จึงไม่รู้ว่าเป็นใคร อีกทั้งมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของลูกสาวเลยไม่เคยยุ่งเกี่ยว
ส่วนกรณีเรื่องสร้อยคอทองคำ 5 บาท ที่ทางฝ่ายครอบครัวของ นายพยนต์ กล่าวอ้างว่าหายไปหลังจากนายพยนต์เสียชีวิต ส่วนนี้ทางครอบครัวยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ยอมรับว่าเคยเห็นใส่เมื่อตอนคบกับลูกสาวใหม่ ๆ แต่วันเกิดเหตุยืนยันว่าไม่เห็นและคนในครอบครัวก็ไม่ได้เอาไปตามที่ครอบครัวของนายพยนต์คิด
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากให้เรื่องดังกล่าวจบลงโดยเร็ว เพราะเหนื่อยล้าจากการตอบคำถาม อีกทั้งก็เป็นผู้สูญเสียเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ดวงวิญญาณของลูกที่เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี ส่วนเรื่องคดีความก็ขอปล่อยเป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจดำเนินการตามความเหมาะสม หากครอบครัวของนายพยนต์อยากจะทำการอายัดศพไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตซ้ำ ทางครอบครัวตนก็ไม่ติดใจ
นายโอภาส จันทร พ่อของ น.ส.นิภาวรรณ เปิดเผยว่า ยืนยันว่าช่วงที่เกิดเหตุ ไม่ถึง 10 นาทีชาวบ้านก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุกัน ตนจะเอาเวลาที่ไหนไปจัดฉาก ฝากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตนด้วย สิ่งของมีค่ามากมายไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ตนยืนยันว่าไม่ได้เก็บทรัพย์สินของลูกเขยไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว รู้แต่เพียงว่าช่วงเวลา 05.00 น. มีพรรคพวกของลูกเขย 4 คนมาพร้อมรถและนำรถบรรทุกของลูกเขยกลับไป หากมีสิ่งของหรือทรัพย์สินมีค่าก็คงจะอยู่ในรถคันดังกล่าว