กรณีที่มีรายงานข่าวว่ากุนซื่อที่แนะให้กับทาง "กระติก" และบุคคลอื่นบนเรือทั้ง 5 คน ให้การเท็จไปในทิศทางเดียวกัน จนทำให้ทางพนักงานสอบสวนเองมีการแจ้ง 3 ข้อหากับกุนซื่อรายดังกล่าว ทราบชื่อคือ "เอ็ม" โดยที่ทางกุนซือรายดังกล่าวเองได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับทางพนักงานสอบสวนไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด วันที่ 7 เม.ย. 65 ทนายเอ็ม ซึ่งเคยมีชื่อปรากฏว่าเคยได้รับการติดต่อจากคนบนเรือสปีดโบ๊ตให้เป็นทนายความ หลังเกิดเหตุการณ์แตงโมตกเรือ คืนวันที่ 24 ก.พ. 65 เวลา 02.00 น. ชี้แจงว่าตามที่ปรากฏในข่าวว่ามีบุคคลชื่อ “เอ็ม” เป็นกุนซือให้กับกลุ่มเรือสปีดโบ๊ตนั้นไม่ใช่ตนเอง เพราะในวันที่ 25 ก.พ. 65 เวลา 09.00-12.00 น. ตนกำลังสืบพยานที่ศาลอาญา ในคดียาเสพติด ที่ศาลอาญารัชดา แต่ยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากนายเอ็มอีกคน ให้ไปรับฟังเรื่องราวจากกลุ่มคนบนเรือที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทจริง
หลังจากตนเองเสร็จงานที่ศาลอาญา เวลาประมาณ 14.00 น. จึงได้ติดต่อไปในฐานะทนายความ เพื่อให้เข้าฟังข้อเท็จจริงในคดีแตงโม "ชีวิตทนายความนะครับ เรายังไม่รู้หรอกว่าใครถูกใครผิด แต่เมื่อเขาไว้วางใจอยากให้ผมไป ผมในฐานะอาชีพทนายความก็ไปตามวิชาชีพปกติ ส่วนตัวไปฟังเพราะอยากทราบว่าเรื่องคืออะไร เพราะผมทำแต่งาน ไม่มีเวลาดูข่าวเลย"
แต่พอได้ให้คำปรึกษาในฐานะทนายความไปเท่านั้น สุดท้ายตนเองบอกกับกลุ่มคนบนเรือว่าตนไม่ขอออกข่าว ทำให้ในตอนนั้นความเห็นไม่ตรงกัน ทางนั้นก็เลยยกเลิก แล้วพวกเขาก็ไปหาทนายความชุดใหม่ ซึ่งน่าจะมีหลายคนหลายชุดมาก จนพวกเขาได้ไปพบตำรวจอีกที เวลา 19.00 น. กว่า ๆ ตามที่ปรากฏในข่าว ตนไม่ได้ไปร่วมด้วยแต่อย่างใด เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนแล้ว
"เรื่องนี้ผมไม่ได้รับเงินจากใครแม้แต่บาทเดียว และไม่เคยตกลงรับเป็นทนายความให้กับกลุ่มเรือสปีดโบ๊ตแม้แต่คนเดียว แต่มาตอนหลังจะให้ผมทำคดีให้ ผมก็ไม่ทำแล้ว เสียศักดิ์ศรี ผมได้ไปให้ปากคำในฐานะพยานต่อพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวแล้ว แม้ตำรวจจะไม่ได้มีหมายเรียกเลย แค่โทรมาผมก็ไปแล้ว และให้การตามสิ่งที่ผมทราบเท่านั้น"
กรณีวานนี้ 6 เม.ย. ที่มีบุคคลที่ชื่อ “เอ็ม” ไปรับทราบข้อกล่าวหาก็ไม่ใช่ตน ตนเป็นโควิด ยังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวที่บ้าน ช่วงนี้ สำนักงานฯ ก็ปิดตามใบรับรองแพทย์ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 65 ถึง 7 เม.ย. 65 ตนยังออกไปไหนไม่ได้
ล่าสุดวันนี้ทนายเอ็ม มีการโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความตอนหนึ่งว่า "…ในชีวิตผม เอาคนเข้าคุกเข้าตะรางมาก็ไม่น้อย เอาคนออกจากคุกมาก็มาก คดีแพ้ก็มี ชนะก็เยอะ มันเป็นวิถีของทนายความครับ …ในข่าว ช่วงวันสองวันนี้ สังคมมองว่า ทนายเอ็ม คือกุนซือผู้บงการ คือคนที่แนะให้เตรียมการ เตรียมพูดอย่างนั้นอย่างนี้กับตำรวจ สังคมมองว่า จากคดีฆาตกรรม ทนายความทำให้เป็นอุบัติเหตุ ทุกคนจะได้พ้นผิดฯ …ผมนะครับ ทำคดีอาญามาพอสมควร การจะปกปิด การจะทำลายหลักฐาน การจะเตี๊ยมนั่นโน่นนี่ มันแทบจะทำไม่ได้ เพราะการพิสูจน์ทุกวันนี้ มีนิติวิทยาศาสตร์ เต็มไปหมด มีกฎหมายบังคับไว้อยู่แล้ว แล้วทำไมผมจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง หรือให้คำแนะนำอย่างนั้น เพื่ออะไร??…สักวันหนึ่ง เมื่อทุกอย่างเปิดเผย แล้วทุกคนจะได้รู้ว่าใครพูดเท็จพูดจริง …แต่ข้อเสีย คือ “ทนายความที่ทำหน้าที่ กลับเป็นจำเลยสังคม”ไปแล้ว"
ด้านนายรพิพงศ์ ปุณยจารุศิริ หรือ ทนายเอ็ม อายุ 49 ปี ปัจจุบันประจำสำนักงานทนายความนิติธรรม ถนนศรีชมชืน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่ามี 2 ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง นำรูปหน้าปกเฟซบุ๊กของตนชื่อ ”ทนายเอ็ม” เผยแพร่ในช่องสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว และในยูทูบ กล่าวหาว่าตนคือทนายเอ็มผู้เขียนบทเกี่ยวกับคดีแตงโม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 เม.ย. 65
ตนขอชี้แจงว่า ในวันและเวลาดังกล่าว ตนเดินทางมาจากสำนักงานจังหวัดอุดรธานีมาเป็นทนายว่าความให้กับลูกความ ที่ศาลจังหวัดนครพนม เกี่ยวกับคดีที่ดิน หลังจากว่าความแล้วเสร็จได้เปิดโทรศัพท์พบข้อความจากเพื่อนทนายด้วยกัน ส่งภาพตนในชุดครุยทนายความที่สถานีโทรทัศน์ช่องนั้นนำมาเผยแพร่ว่าเป็นกุนซือ ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ ตนบนเฟซบุ๊กในทางที่เสียหาย จึงได้รับคำแนะนำจากลูกความให้มาพบนักข่าวประจำจังหวัด เพื่อขอให้ทางสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับคดีนี้เลยแม้แต่นิดเดียว และอยากให้กลั่นกรองข้อมูลให้มากกว่านี้
"ตนไม่เคยรู้จักคนบนเรือแม้แต่คนเดียว แต่ถูกจับมาโยงจนทัวร์ลงยับ แต่ในฐานะที่ตนเป็นทนายความก็อยากให้คดีนี้กระจ่างโดยเร็ว ซึ่งทนายความทุกคนจะมีจรรยาบรรณ จึงไม่มีใครจะแนะนำให้การเท็จดังที่เป็นข่าว ส่วนนายเอ็มที่ผู้เป็นเขียนสคริปต์ให้คนที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คนนั้นเป็นทนายจริงหรือเปล่า ตนไม่ทราบ"
