ธนาคารหอบเงิน 1 แสนมอบเยียวยาป้าชาวบุรีรัมย์ โดนหมายยึดทรัพย์ผิดคน

12 มี.ค. 65

ธนาคารที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง และผู้เกี่ยวข้องนำเงิน 1 แสนบาท มอบชดเชยเยียวยาป้าชาวบุรีรัมย์ถึงบ้าน หลังสำนักกฎหมายที่ได้รับมอบอำนาจทำเรื่องนำยึดทรัพย์จำเลยที่ค้างชำระหนี้ผิดคน ผิดบ้าน ด้านป้าและลูกเขยไม่ติดใจเอาเรื่องทั้งแพ่งและอาญา ขอบคุณทุกฝ่ายที่เร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว

ความคืบหน้ากรณีที่นางสมัย พิมเสน อายุ 66 ปี ชาว ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายเกริกโกวิท ชานันโท ลูกเขย ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังจากมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบังคับ จ.บุรีรัมย์ นำหมายบังคับคดีเรื่องการยึดทรัพย์บ้านและที่ดิน มาปิดที่ประตูรั้วหน้าบ้าน เมื่อวันที่ (8 มี.ค.65) ที่ผ่านมา พร้อมเอกสารคำพิพากษาศาลที่ระบุว่านางสมัย พิมเสน ตกเป็นจำเลย 1 ใน 5 ที่ถูกธนาคารแห่งหนึ่งเป็นโจทย์ฟ้องให้ชำระหนี้ พร้อมดอกเบี้ยรวมกว่า 12,450 บาท โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนี้ธนาคาร และไม่เคยรู้จักกับจำเลยทั้ง 4 คน น่าจะเป็นการออกหมายผิดบ้านผิดคนมากกว่า จึงเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งทางธนาคารยอมรับว่าเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากธนาคาร ทำเรื่องนำยึดทรัพย์ผิดบ้านและผิดคน เพราะชื่อ สกุลเหมือนกัน และต่อมาทางบังคับคดีจึงได้ถอนหมายยึดทรัพย์ให้กับนายสมัย เรียบร้อยแล้ว

1647046170761

ล่าสุด ตัวแทนจากธนาคารภาค (นครราชสีมา) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังบ้านนางสมัย พิมเสน ผู้เสียหายที่โดนหมายบังคับคดียึดบ้านและที่ดินผิดคน เพื่อนำเงิน 1 แสนบาทไปมอบชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้นำกระเช้าไปมอบเพื่อแสดงความขอโทษด้วย โดยผู้แทนธนาคารภาคยอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความไม่รอบคอบของเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมาย ที่รับมอบอำนาจทำเรื่องนำยึดทรัพย์ จนทำให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม ธนาคารในฐานะเป็นโจทย์ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการขอโทษและมอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย พร้อมจะนำกรณีที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงการทำงานให้รัดกุมมากขึ้น

1647046194955

ขณะที่นางสมัย พิมเสน ผู้เสียหาย และนายเกริกโกวิท ลูกเขยที่เป็นเจ้าบ้านที่ถูกนำหมายบังคับคดียึดทรัพย์มาปิดหน้าบ้าน ก็บอกตรงกันว่า หลังจากทางธนาคารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ยอมรับในความผิดพลาด พร้อมทำการแก้ไขถอนหมายยึดทรัพย์ และแสดงความรับผิดชอบด้วยการมอบเงินชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นก็รู้สึกพอใจ พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เร่งแก้ไขและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนี้ก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องทั้งทางแพ่งและอาญากับหน่วยงานหรือบุคคลใด เพียงแค่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างในการทำงานให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นเท่านั้น

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส