คดีการเสียชีวิตของ "แตงโม-นิดา" พลัดตกเรือ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 และมี "บีม ศรัณยู" ขับเรือเจ็ตสกีเพื่อค้นหาร่างนั้น วันที่ 10 มี.ค. 65 ได้เดินทางเข้าไปให้ปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในเรื่องของพยานที่ได้ยินเหตุการณ์ที่ "กระติก" ผู้จัดการบอกเรื่องทิ้งขวดไวน์ 2 ขวดลงในแม่น้ำนั้น
"บีม ศรัณยู" เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ปากคำว่ากระติกพูดอะไร ความชัดเจนของคำพูด ในประโยคที่เราตอบโต้กัน และประเด็นหลักก็คือขวดไวน์ที่กระติกกล่าวอ้างว่าทิ้ง 2 ขวด ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกัน และไม่ใช่แค่ตนที่ได้ยิน ยังมีหลาย ๆ คนรอบตัวด้วย
ทั้งนี้ ส่วนของสภาพร่างของแตงโมที่พี่ไทด์เปิดเผยว่าตอนที่พบร่างแตงโมพบว่าฟันหน้าหัก ใบหน้า ตาซ้ายขวาช้ำบวมไม่เท่ากันผิดปกติ ในส่วนนี้ตนพอจะรับทราบข่าวมาบ้าง ทางด้านพี่ไทด์บอกอีกอย่างหนึ่ง แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็บอกอีกอย่างหนึ่ง ส่วนนี้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่สามารถพูดล่วงการทำงานต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าหากส่วนตัวมองว่าเป็นคนละทิศทางกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งรูปคดี ชาวเน็ต สื่อมวลชน หรือกล้องวงจรปิดในการสืบสาวเรื่องราว ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องน้องแตงโมเสียชีวิตเหมือนกัน แต่ว่าระยะทางที่ไปถึงปลายทางมันแตกต่างกัน ด้านหนึ่งบอกอุบัติเหตุ แต่ด้านหนึ่งบอกเห็นอะไรมากมาย ทั้งขวดไวน์ หลักฐานที่ว่าฟันหักที่ดูแล้วกลายเป็นหนังคนละเรื่อง
ทั้งนี้ ตำรวจเวลาสอบสวนนั้นจะพูดเฉพาะในสำนวนที่ตนจะให้ปากคำ สำหรับเรื่องของรูปคดีนั้น จากที่ตนพอจะได้พูดคุยกับทางผู้กำกับก็พอจะได้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้ว คงไม่ปล่อยให้หลุด และที่ไม่สามารถออกมาแถลงให้ทราบอย่างละเอียดได้ทุกวัน เพราะไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนจึงสามารถออกมาพูดได้
นอกจากนี้จากที่ตนเข้าให้ปากคำนั้นมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 10 นาย และระดับรองผู้กำกับทั้งนั้นพยายามถามตน และมีหลายคนที่วิเคราะห์ จดเป็นการสอบปากคำจริงจัง ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันทั่วไป ตรงนี้เป็นการสืบคดี ตนคิดว่าทางตำรวจพยายามทำงาน แต่จะตื้นลึกหนาบางแค่ไหนในส่วนนี้ตนไม่ทราบ
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจภูธรภาค 1 ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าตำรวจยังไม่สรุปสำนวนคดีหรือปิดคดีตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลนิติวิทยาศาสตร์ ที่ได้ส่งไปภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อร่วมตรวจสอบคลี่คลายข้อสงสัยคู่ขนานกับสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหากได้ผลทั้งหมดมา สถาบันนิติเวชวิทยาจะรวบรวมรายงานส่งพนักงานสอบสวน เช่นเดียวกับผลจากพิสูจน์หลักฐาน ที่จะส่งมาให้พนักงานสอบสวน วิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 สัปดาห์
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับศพของเเตงโมมีบาดแผลที่ศีรษะ ตามร่างกาย และฟัน สำหรับเรื่องนี้ต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการจากเเพทย์ ตำรวจก็ยังไม่สามารถตอบได้ หากบุคคลใดมีข้อมูล หรือมีหลักฐาน ก็ให้เข้ามาข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบ ส่วนจะมีการเชิญตัวผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุจลพินิจของพนักงานสอบสวน เพราะตอนนี้สอบปากคำไปพยานไปแล้วกว่า 80 ปาก โดยจะนำคำให้การทั้งหมด พยานหลักฐาน นิติวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์เพื่อที่จะสรุปเหตุการณ์เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง เช่นเดียวที่พยานบนเรือให้การไม่ตรงกันนั้น จะเข้าข่ายให้การเท็จหรือไม่นั้น ตำรวจก็จะวิเคราะห์ตามพยานหลักฐานเช่นกัน
ส่วนกล้องวงจรปิดบริเวณ กฟผ. บางกรวยที่ปรากฏภาพเรือลำเกิดเหตุ แล่นผ่านเรือบรรทุกสินค้ามีหลายสื่อนำเสนอไปแล้ว ทางตำรวจมีการตรวจสอบรวบรวมทั้งหมดทุกคลิป รวมถึงภาพจากกล้อง CCTV มีเป็นจำนวนมาก ทางฝ่ายสืบสวนเเละฝ่ายสอบสวนก็ได้รวบรวมไว้ทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์หาข้อสรุป ส่วนคนบนเรือบรรทุกสินค้าและพยานเเวดล้อมได้เรียกสอบปากคำไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดตอนนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุ ยังไม่พบพยานหลักฐานว่าเป็นคดีฆาตรกรรมตามที่สังคมมุ่งประเด็นนี้แต่อย่างใด ตอนนี้คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาในคดี 2 คน คือ นายโรเบิร์ต กับนายปอ ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย "ขอยืนยันว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการทำงานเราจะไม่ใช้ความรู้สึก แต่จะใช้พยานหลักฐานและกฎหมาย"
