คืบหน้ากรณีคนร้าย 2 คนบุกยิงชายชาวแคนาดา อายุ 32 ปี หน้าวิลล่าหรูในพื้นที่หมู่ 5 ถ.วิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จนเสียชีวิต กระสุนปืนทั่วทั้งร่างกาย ราว 10 นัด ขณะที่ทางการไทยเร่งล่าตัว 2 มือปืนตามกล้องวงจรปิด
วันที่ 8 ก.พ. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม วงจรปิดบริเวณโรงแรมริมหาดทราย เส้นทางหลบหนีหลังจากก่อเหตุยิงฝรั่งภายในวิลล่า
โรงแรมที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านร้าง เป็นเงาคน 2 คน เสื้อผ้าคนละชุดกับที่เกิดเหตุ เดินผ่านกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวไป กล้องริมหาดของโรงแรมอีกแห่งเป็นเส้นทางผ่านของคนก่อเหตุ ที่วิ่งผ่านกล้องวงจรปิด สวมใส่เสื้อมีฮู้ดคลุม กางเกงขาสั้น ไม่สวมใส่รองเท้า มุ่งหน้าไปที่รีสอร์ตอีกแห่ง
ภาพกล้องวงจรปิดอีกตัว อยู่บริเวณด้านหน้าของรีสอร์ต ริมถนนหมายเลข 4025 ชาย 2 คนออกมายืนอยู่ที่ริมถนนหน้ารีสอร์ต ก่อนที่จะเดินเรียบ และวิ่งข้ามถนน ใส่เสื้อฮู้ดคุมหัวปิดบังไว้
ส่วนกล้องวงจรปิดอีกมุมระยะไกล มีคนวิ่งข้ามถนนจากฝั่งรีสอร์ตขึ้นจากริมหาด ข้ามไปฝั่งของบ้านคนงาน มุดรั้วไปที่บ้านจัดสรร ก่อนที่จะทิ้งหมวกและเสื้อไว้
ส่วนที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางคนร้าย ปรากฏว่าภายในซอยของหมู่บ้านจัดสรร บริเวณพงหญ้า พบเสื้อฮู้ดสีขาว ลักษณะเสื้อที่ตรงกับผู้ก่อเหตุที่ใส่ระหว่างการหลบหนี ทีมข่าวย้อนกลับไปที่บริเวณจุดดังกล่าว มีกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าใกล้กับจุดทิ้งเสื้อ บันทึกช่วงเหตุการณ์ในคืนวันที่ 4 ก.พ. เวลา 23.02 น. บันทึกเหตุการณ์เห็นผู้ชาย 2 คนเดินเข้ามาถอดเสื้อฮู้ดออก แล้วโยนเสื้อทิ้ง
นางสาววิชุดา (นามสมมติ) พาทีมข่าวไปดูพงหญ้าที่เจอเสื้อในเช้าวันที่ 5 ก.พ. หลังเกิดเหตุ เห็นว่าบริเวณด้านบนกิ่งไม้มีเสื้อฮู้ดสีขาวพาดอยู่ 1 ตัว แต่ก็คิดว่าเป็นเสื้อที่ชาวบ้านนำมาทิ้ง ตนทราบในเวลาต่อมาว่าถูกคนร้ายมาโยนทิ้ง ตอนแรกตนเองก็ไม่คิดว่าหน้าบ้านของตนเองจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนก่อเหตุ เพราะโดยปกติก็จะมีฝรั่งผ่านเข้าออกจำนวนมาก เนื่องจากเป็นย่านท่องเที่ยว เป็นที่พักของฝรั่ง
จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบเสื้อ ชุดสืบสวนจึงได้มีการเข้ามาขอกล้องวงจรปิด ตนเองเปิดย้อนหลังดู ปรากฏว่าเห็นชาย 2 คน ลักษณะไม่ใช่คนไทย ถอดเสื้อนอกออก ด้านในใส่เสื้อสีดำเหมือนเดิม คล้ายกับที่ใส่หลบหนีหลังก่อเหตุ จากนั้นได้เดินเข้าไปที่พงหญ้า จากนั้นก็หลบหนีออกไปที่ซอยในหมู่บ้านจัดสรร ซอยดังกล่าวมีทางแยกอีกจำนวนมาก ซึ่งไม่รู้ว่าไปทางไหนต่อ แต่ไม่ได้วิ่งผ่านกล้องหน้าบ้านของตนเองออกไปที่ถนน 4025 แน่นอน
ทีมข่าวย้อนตามเส้นทางที่ชุดสืบสวนได้มีการแกะรอยหาคนร้าย ทราบว่าหลังจากที่มีการทิ้งของกลางคือเสื้อคลุมอำพรางแล้ว ไม่มีการเดินออกไปที่บริเวณ 4 แยก ในซอยบ้านจัดสรร กล้องวงจรปิดบริเวณจุดดังกล่าวไม่มีบันทึกภาพเห็นช่วงหลบหนี เพราะสามารถที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ซอยบ้านจัดสรรที่มีทางแยกมากกว่า 10 ซอย หากเลี้ยวขวาสามารถออกไปที่ถนน 4025 ก็ได้ แต่ถ้าหากตรงไปเป็นลักษณะถนนลูกรัง ทะลุออกไปโผล่ท้ายซอยหมู่บ้านจัดสรรได้
กล้องวงจรปิดบริเวณจุดดังกล่าวเห็นช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โดยมีรถยนต์ซีวิคสีขาว ไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน มีลักษณะมาจอดรอก่อนที่จะขับเข้าไปที่ 4 แยก ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการแกะรอยหารถคันดังกล่าวว่าขับออกจากซอยไปในเส้นทางใด มีความเกี่ยวข้องกับการมาจอดรับคนร้ายหรือไม่ เป็นเบาะแสสุดท้ายที่ตำรวจแกะรอย
นางสาวโกโก้ (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 4 ก.พ. ตนเองไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนีข้างบ้าน จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาไล่ติดตามกล้องวงจรปิด จึงได้นึกย้อนขึ้นได้ว่าเวลาก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน ได้ยินเสียงคล้ายคนเดินผ่าน และพูดสื่อสารไม่ใช่ภาษาไทย จับใจความไม่ได้ ก่อนที่จะได้ยินเสียงคล้ายรถมาจอดหน้าบ้าน ตนเองจึงเปิดกล้องวงจรปิดดู มุมกล้องไม่ได้หันไปทางทิศทางของสี่แยกได้ จึงไม่รู้ว่ารถคันดังกล่าวมารับใคร คนที่เดินคุยกันมาออกจากซอยข้างบ้านเป็นใคร ฉะนั้นชุดสืบสวนจึงได้มีการเก็บภาพกล้องวงจรปิดรถต้องสงสัย รวมถึงนำข้อมูลเบาะแสของตนเองไปเทียบกับการแกะรอยหาคนร้าย
