ทนายตั้ม ชี้ลูกสาวฟ้องขับไล่พ่อตัวเอง หลังได้ที่ดิน 6 ไร่ สามารถยกเลิกการให้ได้ แต่มีข้อแม้

21 ม.ค. 65

ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถึงกรณี นายจำนงค์ พูลแข อายุ 79 ปี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และลูกสาว 4 คน ได้รับความเดือนร้อนถูกลูกสาวคนที่ 5 ฟ้องขับไล่ที่อยู่อาศัย ว่า

มีลูกเพจส่งเรื่องนี้เข้ามาเยอะมาก เรื่องคุณตาถูกลูกขับไล่ออกจากที่ดินที่ได้ยกให้ ผมเลยอยากแนะนำข้อกฎหมายให้เข้าใจก่อนนะครับ การให้นั้นเป็นสัญญาฝ่ายเดียวที่ไม่มีค่าตอบแทนใดในกรณีที่พ่อแม่ยกที่ดินให้กับลูก แล้วสุดท้ายลูกมาขับไล่ให้ออกจากพื้นที่

กฎหมายใจดีและให้ความเป็นธรรมกับพ่อแม่ครับ มันเข้าเหตุเนรคุณ ที่พ่อแม่สามารถฟ้องศาลเพื่อยกเลิกได้ แต่ก็มีข้อแม้อยู่หลายข้ออยู่นะครับ พ่อแม่จะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณไม่ได้คือให้เป็นบำเหน็จสินจ้างโดยแท้ ให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน ให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา และให้ในการสมรส

แต่ถ้าพ่อแม่ยกที่ให้เปล่าๆ และลูก ทำร้ายพ่อแม่ ว่าร้ายพ่อแม่ ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ ในกรณีเข้าเหตุเนรคุณ สามารถถอนคืนได้ครับ

สำหรับเรื่องราวดังกล่าว เริ่มต้นช่วงสงกรานต์ปี 2546 นายจำนงค์ ได้เรียกลูก 6 คนมาปรึกษากันตามที่ภรรยาบอก ขอให้พ่อแบ่งแยกโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ลูกทุกคนซึ่งในเวลาดังกล่าวลุงจำนงค์บอกว่ามีงานต้องทำหลายอย่างไม่มีเวลาดำเนินการแบ่งแยกให้ได้ จึงปรึกษากับลูกทุกคนว่า พ่อจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวใส่ชื่อนายสมพงษ์ลูกชายคนโตกับ นางนภาพร ลูกสาวคนเก่งคนที่ 5 ไว้แทนพ่อเพื่อแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกทุกคนเท่ากัน ลูกลูกทุกคนก็ตกลงด้วย

ต่อมา นายสมพงษ์ พี่ชายคนโตเสียชีวิต พี่น้องทุกคนก็ทวงถามนางนภาพร ซึ่งได้รับคำตอบว่ายังไม่ว่างให้อยู่กันไปก่อนปีพ.ศ.2563 ได้ถามถึงเรื่องที่ดินพี่จะแบ่งแยกให้พี่น้องทุกคนจะแบ่งแยกกันได้หรือยัง นางนภาพรบอกว่ายังไม่ว่าง ลุงจำนงค์บอกลูกสาวว่าขอให้แบ่งกันให้เสร็จตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าไม่ว่างก็มอบอำนาจให้พ่อทำหน้าที่แบ่งแยกให้ก็ได้ตอนนี้พอมีเวลาว่างแล้ว นางนภาพร ไม่ตอบ จากนั้นก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา

ล่าสุดปลายปี 2563 มีทนายความมาดูที่ดิน จากการสอบถามทราบว่านางนภาพรมอบหมายให้ทนายมาดูที่ดิน ลุงจำนงค์ได้พาลูกๆมาพบและร้องกับพนักงานอัยการฝ่ายช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนเพื่อช่วยไกล่เกลี่ย นางนภาพรได้ปฏิเสธการมาเจรจาไกล่เกลี่ย ให้ทนายดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยนางนภาพรให้พี่น้องที่ปลูกบ้านอยู่ในพื้นที่ทำสัญญาเช่าอยู่อาศัยตามความต้องการของนางนภาพร หากไม่ทำการเช่าพื้นที่อยู่จะทำการฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพราะเป็นที่ของนางนภาพรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ลุงจำนงค์และลูกทุกคนร่วมกันครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมาใช้เป็นที่อยู่อาศัย จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยากจะฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ หากถูกขับไล่ก็จะถือว่าเป็นเวรกรรมพี่ตนและลูกต้องเผชิญ ขณะนี้ตนเป็นมะเร็งผ่าตัดอาการไม่สู้ดีนักหากขับไล่ไม่รู้ว่าลูกๆจะไปอยู่ที่ไหน แค้นใจที่ลูกสาวทำแบบนี้หลงไว้ใจมาโดยตลอดลูกสาวไม่เคยหันหน้ามาคุยและพูดความจริงให้กับพ่อแม่และพี่น้องได้รับทราบเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

CEO สาวควง ทนายตั้ม ยื่นหนังสือถึง ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เอาผิดวินัย ผู้ใหญ่บ้านคนสวย
ทนายตั้ม เตือน รีวิวผิดชีวิตเปลี่ยน โดนโรงแรมฟ้อง 3 ล้านบาท 
ทนายตั้ม ขอใช้เงินส่วนตัวโอนคืน หากมีคนเข้าใจผิดบริจาคเพราะคิดว่าเอาไปช่วย ลุงพล

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส