กรณีคนร้ายบุกเข้าไปฉุดเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่กำลังเฝ้าร้านขายต้นไม้เพียงลำพัง ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี ไปกระทำชำเราในป่ารกหลังร้าน ก่อนเด็กหญิงคนดังกล่าวจะอาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอ วิ่งหนีกลับเข้าร้านและโทรศัพท์ไปหาพี่ชายเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายรีบวิ่งเข้าป่าหลบหนีไป กระทั่งตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กำลังเร่งตามหาตัวคนร้ายเเต่ยังไม่พบ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 18 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ส่งเด็กหญิงคนดังกล่าว ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ยังนำเสื้อของเด็กไปตรวจคราบอสุจิ เนื่องจากขณะเกิดเหตุคนร้ายพยายามจะข่มขืน เเต่สอดใส่ไม่สำเร็จ จึงใช้วิธีสำเร็จความใคร่แล้วใช้เสื้อเด็กเช็ดคราบอสุจิ ก่อนจะหลบหนีไป
ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้านได้นำตัวคนงานในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นลูกจ้างของตัวเอง จำนวน 4 คน เเบ่งเป็นคนไทย 1 คน เเละเมียนมา 3 คน มาที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเก็บตัวอย่าง DNA ไปเปรียบเทียบกับเด็กผู้เสียหาย เนื่องจากคนงานทั้ง 4 คน ได้ออกไปขุดมันใกล้กับบ้านผู้เสียหายในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ระยะทางห่างจากบ้านผู้เสียหาย ประมาณ 800 เมตร
นายชัยวนาถ ใบบัว ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องลูกจ้างทั้ง 4 คน ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด อีกทั้งคำให้การของเด็กระบุว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งหนีไปยังทิศที่ลูกจ้างของตนกำลังขุดมันสำปะหลัง ในเบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำไปเเล้ว ตนยืนยันว่าคนงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เเละไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ตำรวจจึงได้ให้เด็กชี้ตัวว่าไม่ใช่ 4 คนดังกล่าว เเต่วันนี้ตนก็พามาตรวจ DNA เพื่อความสบายใจ
"หลังจากมีลูกบ้านเเจ้งว่า พบเห็นคนร้ายวิ่งหนีเข้าป่า ผมก็ได้ระดมชาวบ้านออกค้นหาเป็นระยะเวลา 2 วันเเล้ว เเต่ยังไม่พบ ซึ่งปัญหาสำคัญคือบริเวณรอบ ๆ เป็นป่าเเละภูเขา จึงไม่ทราบจับทิศทางได้ว่าคนร้ายจะหนีไปทางไหน" ผู้ใหญ่บ้าน กล่าว
ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับคนงานในไร่มันสำปะหลัง 2 คน ซึ่งวันนี้เดินทางไปตรวจ DNA จึงได้พบกับนายจอ อายุ 22 ปี และนายชัย อายุ 36 ปี เเรงงานชาวเมียนมา กล่าวว่า พวกตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการข่มขืนเด็ก จึงถอดเสื้อให้ทีมข่าวดู มีรอยสักที่เเขนข้างขวา เเต่ไม่มีรอยขีดข่วน ขณะที่ นายชัย มีรอยสักที่หัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง เเละไม่มีร่องรอยขีดข่วน
นายชัย กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุตนกำลังขุดมันสำปะหลังกับเพื่อน ๆ รวม 4 คน ประกอบด้วยนายลำดวน นายเจ็ด นายจอ และตน โดยที่ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนเด็ก กระทั่งช่วงเย็นมีตำรวจเเละชาวบ้านมาถามว่าเห็นคนเเปลกหน้าผ่านมาแถวนี้หรือไม่ ตนก็ตอบไปว่าไม่เห็น เเละยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในวันนี้พวกตนก็เดินทางไปตรวจ DNA เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายจอ อายุ 22 ปี กล่าวยืนยันว่า ตนกำลังทำงานกับเพื่อน ๆ เพราะมีหน้าที่เเบกมันสำปะหลังขึ้นรถ ขณะนั้นไม่เห็นคนเเปลก ๆ ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะตนก็เข้ามาทำงานตั้งเเต่เช้าจนค่ำ ไม่ได้ออกไปไหนเลย ซึ่งตนพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องนี้
นายภาณุวัฒน์ ห่วงทอง ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 22.00 น. ตนเห็นชายที่คาดว่าเป็นคนร้ายหลบอยู่ในท่อระบายน้ำ ระยะทางห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 2 กิโลเมตร ลักษณะเป็นท่อระบายน้ำลอดใต้ถนนคอนกรีต ขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1 เมตร และยาว 8 เมตร
ทั้งนี้ในขณะที่ตน เเละชาวบ้านอีกหลายคน กำลังช่วยกันตามหาตัวคนร้าย จู่ ๆ ก็มีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอก ว่าได้ยินเสียงหมาเห่าไล่ตามเเนวตีนเขา ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปดักท้ายหมู่บ้าน เเล้วก็ได้ยินเสียงคล้ายมีคนเหยียบใบไม้ ตนเดินไปส่องไฟดูก็พบชายที่คาดว่าเป็นคนร้าย นอนคว่ำหน้าอยู่ในท่อ ยังมีผ้าโพกหัวอยู่
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่คนร้ายเห็นตน ก็มีอาการตกใจ พยายามคลานหนี ตนก็พยายามเรียกว่า "ใจเย็น ๆ มาคุยกันก่อน หิวข้าวไหม มากินข้าวก่อน" เเต่คนร้ายก็พูดว่า "ไม่เอาเเล้ว ๆ" ก่อนจะรีบคลานหนีไปโผล่อีกฝั่งเเล้ววิ่งหายเข้าไปในป่ารกทึบ จากนั้น ตนรีบโทรศัพท์เรียกชาวบ้านให้มาช่วยกันค้นหาในป่าใกล้ ๆ ท่อระบายน้ำ เเต่หาจนถึงเวลา 02.00 น. ก็ไม่มีวี่เเวว จึงยุติการค้นหา ตนคาดว่าคนร้ายน่าจะยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.เมืองกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีเพื่อสรุปความคืบหน้า และวางแนวทางในการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว โดยในวันนี้หลังจากประชุมเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่บริเวณไร่มันสำปะหลังและโรงงาน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อขอความร่วมมือในการพาตัวคนงานที่มีลักษณะรูปพรรณและมีรอยสักที่แขนใกล้เคียงกับลักษณะของคนร้ายที่ก่อเหตุมาทำการตรวจ DNA ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
โดยมีคนงานที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ก่อเหตุถูกนำตัวมาตรวจ DNA จำนวนทั้งสิ้น 10 ราย เป็นคนงานในไร่มันสำปะหลัง 4 ราย และคนงานจากโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 6 ราย โดยตำรวจจะนำ DNA ที่ตรวจได้ไปเปรียบเทียบกับ DNA ของคนร้ายที่พบติดอยู่บนเสื้อผ้าของเด็กหญิงผู้เสียหาย
