ฉุนหมารักถูกวางยา รัวยิงสารวัตรทหารหมดแม็ก รับแค้นสะสมฟิวส์ขาดด่าลูก-รี่ (คลิป)

10 ม.ค. 65

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านหมู่ 6 บ้านบ่อระกำ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 และหน่วยกู้ภัยสว่างสงขลาร่วมใจ

174732

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเล้าไก่ พบศพจ่าสิบเอกเรวัต เรืองช่วย อายุ 59 ปี เป็นอดีตสารวัตรทหารค่ายแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตลักษณะนั่งหงายหลังบนม้าหินอ่อน

965221

ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จากข้างหลังจำนวน 6 นัด กระสุนถูกลำคอและศีรษะทะลุเบ้าตาเสียชีวิต พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 1 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

440275

ส่วนคนยิงทราบชื่อคือ นายประมุข จิตรจันทร์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว

400553

วันที่ 10 ม.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ บ้านบ่อระกำ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ลักษณะบ้านเป็นบ้าน 2 ชั้น ส่วนจุดที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณม้าหินอ่อน ซึ่งตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน พบว่ามีรอยเลือดหลงเหลือเล็กน้อยที่เก้าอี้ และใกล้กันมีปลอกกระสุน 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก

304196

บ้านดังกล่าวอยู่ติดกับบ้านของผู้ก่อเหตุ ตัวบ้านห่างกันประมาณ 10 เมตร และมีทางสามารถเดินทะลุหากันได้ ส่วนเล้าไก่ของผู้ตายอยู่ด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 15 เมตร และห่างจากบ้านของผู้ก่อเหตุประมาณ 20 เมตร

250449

ที่เล้าไก่มีการนำสแลนสีดำทำเป็นรั้วล้อมเล้าไก่ และทำประตูปิดไว้ บริเวณที่ทำเป็นรั้วพังเสียหายทั้งหมด และพบว่าเหลือไก่เพียงไม่กี่ตัว ซึ่งไก่ที่พบจะเป็นไก่ชนหลายสายพันธุ์

469680

นางสีนีนาฏ ศรีไชย หรือ เล็ก อายุ 54 ปี เจ้าของที่ เพื่อนของผู้ตาย เผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.30 น. ตนกำลังจะเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน แต่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ตนจึงรีบเข้าไปในห้อง และล็อกประตู ก่อนจะแอบดูทางหน้าต่าง ขณะนั้นตนเห็นว่าผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ทันเห็นผู้ก่อเหตุ ได้ยินเพียงเสียงของเขา ที่กล่าวกับตนในทำนองว่า "มึงอีกคนนึง ไอเล็ก ถ้าเจอมึงกูยิงมึงแน่"

983985

เมื่อผู้ก่อเหตุออกไปจากพื้นที่ ตนจึงลงไปที่จุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตมีเลือดนอง บริเวณดวงตาและศีรษะคล้ายกับถูกจ่อยิง จากนั้นคาดว่าหลานอีกคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านน่าจะเป็นคนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบ เพราะอยู่หน้าบ้าน ตั้งแต่เกิดเหตุ ตนยังไม่ได้คุยกับครอบครัวของผู้ก่อเหตุ และคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจเสียงไก่ และคิดว่าเราเป็นคนวางยา

โดยผู้ตายเป็นเพื่อนของตน ขอเช่าที่เลี้ยงไก่ได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งตอนแรกได้เลี้ยงไก่ชน และไก่บ้านไว้ที่ใต้ถุนบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ และได้ร้องเรียนกับผู้ใหญ่บ้านว่าไก่ร้องเสียงดัง ทางผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของไก่เลยขอโอกาส เพื่อที่จะสั่งไม้และอุปกรณ์ไปทำเล้าไก่ที่ด้านหลังบ้าน โดยย้ายไปได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหากันต่ออีก บางครั้งผู้ก่อเหตุก็ใช้หนังสติ๊กนำลูกแก้ว หรือหินมายิงไก่จนไก่ตาบอด และจากเมื่อก่อนที่ไก่มีมากกว่า 100 ตัว ตอนนี้กลับเหลือแค่ 33 ตัวเท่านั้น เพราะสุนัขแถวบ้าน ซึ่งตนไม่อยากจะไปปรักปรำว่าเป็นของใคร มักจะเข้ามากัดไก่จนตาย แต่พอไปร้องเรียน ก็ได้คำตอบจากเจ้าของไก่ว่าให้ไปวางยาสุนัขเอง

cg2

นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 7 ม.ค. ผู้ก่อเหตุยังยิงปืนขึ้นฟ้า และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก วันไหนอารมณ์ไม่ดีก็มักจะคว้าปืนยิงขึ้นฟ้าเป็นประจำ กระทั่งเมื่อวันที่เสาร์ที่ผ่านมา 8 ม.ค. ผู้ก่อเหตุได้มาโวยวาย และด่าตนโดยกล่าวหาว่าตนไปวางยาสุนัขของเขา ซึ่งตนก็พยายามอธิบายว่าไม่ได้ทำ

cg1

กระทั่งช่วงเช่าของวันอาทิตย์ 9 ม.ค. ตนเดินไปดูที่เล้าไก่ พบว่าตาข่ายที่ใช้ล้อมรั้วได้ถูกทำลายจนพังเสียหาย และไก่ที่อยู่ในเล้าได้หายไปประมาณ 3 ตัว คาดว่าช่วงกลางคืนของวันเสาร์น่าจะมีคนลอบมาทำลายเล้าไก่ เมื่อตนทราบเรื่อง ตนก็โทรบอกผู้ตาย และผู้ตายก็พูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น และไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง บอกว่าให้ตนเข้าไปแจ้งความ

ทั้งนี้ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง ผู้ตายไม่เคยโกรธและไม่เคยพูดเรื่องวางยา และเชื่อว่าผู้ตายไม่เคยทำแน่นอน ส่วนวันที่สุนัขของผู้ก่อเหตุตาย ผู้ตายก็ไม่ได้เข้ามาที่เล้าไก่ กรณีที่เขาพูดว่า "ถ้าตนอยู่ ตนก็อาจจะถูกยิงด้วย" ตอนแรกตนก็รู้สึกกลัว แต่ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไป และหากจับกุมได้ ตนก็ไม่มีอะไรจะถาม เพราะปกติก็ไม่ได้สุงสิงกันอยู่แล้ว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอื่น เพราะกับภรรยาและลูกสาวของผู้ก่อเหตุตนก็คุยกันปกติดี

605579

ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.เมืองสงขลา เพื่อพูดคุยกับ นางริน ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ปกติแล้วบ้านหลังนี้จะอยู่กันเพียง 3 คน คือ ตน ผู้ก่อเหตุ และลูกสาว ส่วนลูกชายจะอาศัยอยู่กับภรรยาที่ต่างอำเภอ วันที่เกิดเหตุตนอยู่ภายในบ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุกำลังตัดหญ้าอยู่หน้าบ้าน จนช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ตนได้ยินเสียงปืน จึงรีบลงมาดูและพบว่าเขาขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านแล้ว

โดยตอนแรกตนไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนของผู้ก่อเหตุ เพิ่งจะมาทราบในภายหลัง เพราะก่อนเกิดเรื่อง ผู้ก่อเหตุไม่ได้มาระบายอะไรให้ฟัง และมีท่าทีปกติดี ทั้งนี้ สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องไก่ที่ส่งเสียงดัง ซึ่งเวลามีปัญหาทางผู้ก่อเหตุจะร้องเรียนผ่านผู้ใหญ่บ้าน จนกระทั่งผู้ตายได้ย้ายเล่าไก่ไปไว้ที่ด้านหลังบ้าน แต่แก้ปัญหาได้เพียงเล็กน้อย เพราะเวลาไก่ตกใจ จะร้องประสานเสียงพร้อมกัน กะต๊าก ๆ รวมถึงตอนเช้าไก่ก็มักจะประสานเสียงขัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว

สำหรับเรื่องสุนัขที่ถูกวางยาจนป่วย 2 ตัว และตาย 1 ตัว ทางผู้ก่อเหตุเพียงสงสัยว่าเจ้าของบ้านหรือผู้ตายอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หลังจากเกิดเรื่อง ตนไม่สามารถติดต่อกับผู้ก่อเหตุได้ และได้แต่รอคอยให้ติดต่อเข้ามา

843980

สำหรับบ้านของผู้ก่อเหตุมีสุนัขทั้งหมด 4 ตัว แต่ถูกวางยา มี 3 ตัว ตายไปแล้ว 1 ตัว เหลือเพียง 2 ตัว คือ "ดอก" เป็นสุนัขเป็นเพศผู้สีแดง อายุ 4 เดือน และ "ปี" เป็นสุนัขเป็นเพศผู้สีดำ อายุ 4 เดือน

806240

เวลาประมาณ 17.55 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายประมุข จิตรจันทร์ หรือ ดำ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.สงขลา โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวลงมาจากรถ ผู้ก่อเหตุกล่าวเพียงว่าอยากจะขอโทษ

367083

เวลาประมาณ 18.15 น. หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำทางผู้ก่อเหตุ ด้าน พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ได้เผยว่า วันนี้ทางผู้ก่อเหตุได้ประสานกับทางผู้บังคับบัญชาการของ จ.สงขลา เพื่อขอเข้ามอบตัว เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืน

สำหรับสาเหตุผู้ก่อเหตุให้การสารภาพว่า สืบเนื่องมาจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และเมื่อวานนี้ ผู้ตายได้มีการด่าทอถึงบุพการี ทำให้ผู้ก่อเหตุบันดาลโทสะใช้อาวุธก่อเหตุยิง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุให้การณ์ว่า ยืมเพื่อนมา ส่วนผู้ตายไม่มีอาวุธปืนติดตัว จากนี้จะเป็นขั้นตอนของการสอบสวน ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อทำการขยายผล และดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

225341

นายประมุข จิตรจันทร์ ผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ถ้าใครเป็นตนก็ต้องทนไม่ไหว เพราะสุนัขที่ครอบครัวรักมากเพิ่งจะตายไป และวันที่เกิดเหตุยังถูกด่าถึงบุพการี ทำนองว่า "เย็-แม่ ลูกกะ-รี่" ส่วนเรื่องที่เล้าไก่ของผู้ตายถูกทำลายจนพังเสียหาย ตนยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของตน เพราะตนใจนักเลงพอ ไม่มีทางทำเช่นนั้น ตนไม่ทราบว่าฝีมือใคร

638009

ส่วนเรื่องที่ถูกวางยา ตนแค่สงสัยเท่านั้น เพราะสุนัขของตนไม่เคยไปไหนไกล และอยู่แค่ในละแวกนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับผิด และอยากจะขอโทษ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม