นศ.หนุ่ม เผยนาที จนท.บุกห้องรุมทืบให้รับขายยา ลั่นหมดศรัทธา เลิกฝันเป็น ตร.

21 ธ.ค. 61
จากกรณีเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.กาฬสินธุ์ และญาติของนายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม โพสต์เฟซบุ๊ก ขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกตำรวจสภ.มหาสารคามจำนวน 6 คน บุกห้องพักจับใส่กุญแจมือรุมซ้อมจนน่วมบังคับให้รับสารภาพเป็นคนขายยาบ้า สุดท้ายค้นไม่พบหลักฐาน กลับบอกทำผิดคน ต่อมานายธีระพล และญาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม (อ่าน :ญาตินศ.โวย ถูกก๊วนชายอ้างเป็น ตร. บุกค้นห้อง บังคับให้สารภาพขายยา ปฏิเสธโดนซ้อมน่วม อึ้งบอกทำผิดคน )
นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ ผู้เสียหาย
วันที่ 21 ธ.ค. 61 นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ ลาการเรียนโดยไม่มีกำหนด พร้อมเดินทางกลับมายังบ้านเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากต้องกลับมาพักฟื้นรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ถูกทำร้ายและเกรงความไม่ปลอดภัย โดยมีบรรดาญาติพี่น้องรวมถึงพระคอยสอบถามอาการ โดย นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือน้องแชมป์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 19 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนกลับจากเป็นกรรมการตัดสินกีฬาตะกร้อที่มหาวิทยาลัย ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาเคาะห้อง เมื่อเปิดประตูออกไป กลุ่มชายดังกล่าวก็บุกเข้ามา พร้อมพูดว่า “ทำอะไรไว้รู้หมดแล้วรับสารภาพมาซะโดยดี” ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ จึงพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ โดยทราบภายหลังว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.มหาสารคาม จากนั้นตนถูกตำรวจล็อกคอเหวี่ยงล้มแล้วจับใส่กุญแจมือ พร้อมกับใช้เท้ากระทืบและเหยียบใบหน้าตนให้แนบกับพื้นปูน ตนยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืน เพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่มากันหลายคน เพียงแต่พยายามร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนข้างห้อง กระทั่งถูกเหยียบอย่างแรงจนแทบหายใจไม่ออก จึงบอกตำรวจว่ายอมแล้ว
บาดแผลจากการถูกทำร้าย
นายธีระพล กล่าวต่อว่า จากนั้นตำรวจก็ไขกุญแจมือ และบอกให้ตนรับสารภาพว่าขายยา 10 เม็ด พร้อมเข้าตรวจค้นภายในห้อง แต่ก็ไม่พบของผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนั้นตนก็ปฏิเสธเจ้าหน้าที่ เพราะไม่เคยเสพ ขาย หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมท้าให้ตำรวจนำเครื่องมาตรวจปัสสาวะ แต่ตำรวจไม่ตรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเรียกเจ้าของหอพักมาเซนเอกสาร และให้ตนเซนชื่อในเอกสารใบบันทึกเหตุการตรวจค้นว่า "ยินยอมให้ตรวจค้น" พร้อมบอกกับตนอีกว่า "ทำผิดคน ต้องขอโทษด้วย" จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็เดินทางกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนยอมรับว่า ต้องจำใจเซนชื่อ เพราะต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน
อาการบาดเจ็บของนายธีระพล ในวันเกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุตนจึงโทรศัพท์แจ้งแม่และญาติที่อยู่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อทุกคนทราบเรื่องก็ตกใจ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม พร้อมกับได้โพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อขอความเป็นธรรมต่อสังคมจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นายธีระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนและครอบครัวเสียความรู้สึกอย่างมาก ทั้งที่ตนเคยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจในอนาคต และกำลังจะสมัครสอบนายสิบตำรวจในเร็ว ๆ นี้ แต่กลับมาถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย ตนจึงรู้สึกหมดกำลังใจ ท้อแท้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ตนได้ยื่นใบลาการเรียนโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากต้องกลับมาพักฟื้นรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการถูกทำร้าย และหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ