ฟาสต์ รีเทลลิ่งเผยเป้าหมายสู่ความยั่งยืนภายในปี 2030

9 ธ.ค. 64

ฟาสต์ รีเทลลิ่งเผยเป้าหมายแผนปฏิบัติการสำหรับความยั่งยืนภายในปีงบประมาณ 2030 สร้าง LifeWear เพื่อเป็นนิยามใหม่ของวงการ และเร่งการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืน และการเติบโตในระยะยาว


โคจิ ยาไน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง กล่าวถึงแผนดังกล่าวว่า การจัดหาเสื้อผ้าที่ลูกค้าสามารถใช้ได้เป็นเวลานานเป็นเป้าหมายของธุรกิจของเรามาหลายปี เมื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ทั่วโลกเริ่มปรากฏชัดขึ้น เราจึงได้พัฒนาปรัชญาของเราต่อไป และกำลังดำเนินมาตรการเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงอนาคตของเสื้อ 


เป้าหมายและแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืนในปีงบประมาณ 2030 

■ โครงการสำคัญ: ผลิตเสื้อผ้าที่ดี ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่นำสมัย เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา พร้อมนำเป้าหมายจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) มาใช้ในการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050


ในเดือนกันยายนของปีนี้ ทางบริษัทได้ทำการประกาศเป้าหมายต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปีงบประมาณ 2030 ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ได้รับการอนุมติโดย Science-Based Targets by the SBT initiative (SBTi). 


เป้าหมายและแนวปฏิบัติเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของฟาสต์ รีเทลลิ่ง (สำหรับหน้าร้านและสำนักงาน): ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปีงบประมาณ 2030 (เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2019) 

• ลดการใช้ไฟฟ้าที่หน้าร้านผ่านโครงการประหยัดพลังงานต่างๆ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะประหยัดได้ประมาณ 40% ที่หน้าร้านโรดไซด์และลดลง 20% สำหรับร้านค้าในห้าง

• ภายในปีงบประมาณ 2021 ร้านยูนิโคล่ จำนวน 8 ร้านในญี่ปุ่นได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) Gold Level Certification ซึ่งเป็นระบบการประเมินอาคารสีเขียวที่ใช้อย่างแพร่หลายที่สุดในโลก

• พัฒนารูปแบบร้านค้าแบบใหม่ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวร้านค้ารูปแบบนี้ในช่วงปี 2023

• เปลี่ยนจากการใช้ไฟฟ้าในร้านค้าของ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง และสำนักงานใหญ่ทั่วโลกมาใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายในปีงบประมาณ 2030 ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2021 ร้านยูนิโคล่ จำนวน 64 แห่งใน 9 ประเทศในยุโรปได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว และภายในสิ้นปี 2021 ทุกๆ ร้านในอเมริกาเหนือและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปลี่ยนเช่นกัน


เป้าหมายสำหรับกระบวนการผลิตและจำหน่าย: 

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 2030 (เมื่อเทียบกับปี 2019) 

• ด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับโรงงานคู่ค้าของบริษัท ทำให้ฟาสต์ รีเทลลิ่งสามารถวางแผนกการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดกระบวนการผลิตของบริษัท ซึ่งนับเป็นการปล่อยก๊าซมากถึง 90% ของการประกอบธุรกิจของบริษัท

• ภายในเดือนพฤศจิกายน 2021 บริษัทได้ระบุเงื่อนไขและประเด็นของโรงงานคู่ค้ารายใหญ่ๆ ที่ผลิตสินค้าของ ยูนิโคล่ และ GU มากถึง 90% รวมถึงการวางแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ การรกำจัดคาร์บอน และการใช้พลังงานหมุนเวียน

• จัดตั้งกระบวนการและโครงสร้างสำหรับพนักงานจากส่วนงานผลิตและความยั่งยืนถึง 150 คน เพื่อดูแลและบริหารโครงการด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


เป้าหมายสำหรับผลิตภัณฑ์: 

เพิ่มสัดส่วนประมาณ 50% ของวัสดุที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของยูนิโคล่ เป็นวัสดุรีไซเคิลภายในปีงบประมาณ 2030

• นับตั้งแต่ปี 2019 ยูนิโคล่ได้เริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และคอลเลคชั่น Spring/Summer 2022 จะมีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ถูกรีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET ประมาณ 15% 

o 2019SS: ผลิตภัณฑ์เสื้อโปโล DRY-EX ใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล

o 2020FW: ผลิตภัณฑ์ Fluffy Yarn Fleece ใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 30%

o 2021SS: กระเป๋าคาดเอวใช้ไนลอนรีไซเคิลถึง 30%

• ยูนิโคล่ยังเดินหน้านำเสนอวัสดุอื่นๆ ที่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง อาทิ เส้นใยสังเคราะห์อย่างเรยอนและไนลอน


โครงการด้านการลดขยะ

หันมาใช้แนวคิด “ขยะเป็นศูนย์” (Zero Waste) ตั้งแต่ต้นกระบวนการด้วยการลดการใช้งาน การเปลี่ยนวัสดุ การนำมาใช้ใหม่ และการใช้วัสดุรีไซเคิลในกระบวนการส่งมอบเสื้อผ้าให้แก่ลูกค้า

• ในเดือนกรกฎาคม 2019 ฟาสต์ รีเทลลิ่งกำหนดนโยบายสำหรับบริษัทในเครือทั้งหมดให้เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวโดยไม่จำเป็น

• ตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 ถุงช้อปปิ้งพลาสติกได้ถูกเปลี่ยนเป็นถุงกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในเดือนกันยายน 2020 ยูนิโคล่ และ GU เริ่มคิดค่าใช้จ่ายสำหรับถุงกระดาษที่ร้านในญี่ปุ่น โดยลูกค้ากว่า 70% ปฏิเสธไม่รับถุงช้อปปิ้ง

• ตั้งแต่ปี 2019 GU ริเริ่มโครงการในการเก็บราวแขนเสื้อผ้าจากร้านและนำกลับไปให้โรงงานเพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่

• ตั้งแต่ปี 2020 บริษัทเริ่มใช้วัสดุชนิดเดียวสำหรับบรรจุภัณฑ์ในการขนส่งสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการรีไซเคิลต่อไป 

• จาก 2021 สำหรับการรีไซเคิล บรรจุภัณฑ์  บริษัทยังเปิดตัวพื้นที่เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ (proof-of-concept) สำหรับการแยก เก็บ และดำเนินการรีไซเคิลในร้านยูนิโคล่ และ GU บางแห่ง* บรรจุภัณฑ์ กล่องสำหรับการขนส่ง ถุงพลาสติก ไม้แขวนเสื้อ ฯลฯ


■ โครงการริเริ่ม: ผลิตเสื้อผ้าที่ดีต่อผู้คนและสังคม

ในการผลิตเสื้อผ้าที่ดีที่ลูกค้าจะรักและสวมใส่ได้ในระยะยาวด้วยความไว้วางใจ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ต้องการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่สามารถปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนของทุกๆ คน รวมถึง พนักงานของบริษัทและผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างสังคมที่ดียิ่งขึ้นร่วมกับลูกค้า ฟาสต์ รีเทลลิ่งยังดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก


เพื่อสร้างความโปร่งใสและการติดตามกลับในกระบวนการผลิต 

เสริมความโปร่งใสและการตรวจสอบวัตถุดิบ ประเมินและแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อมในการทำงาน และสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต

• ตั้งแต่ปี 2017 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ตีพิมพ์รายชื่อโรงงานคู่ค้าสำคัญในการผลิจ และตั้งแต่ปี 2018 รายชื่อดังกล่าวได้รวมถึงโรงงานทอผ้า นอกจากนี้ ภายในเดือนมีนาคม 2022 บริษัทวางแผนที่จะตีพิมพ์รายชื่อโรงงานคู่ค้าทั้งหมดของบริษัท

• นอกจากการตรวจสอบที่โรงงานผลิตและโรงงานทอผ้า บริษัทยังมุ่งสร้างการติดตามได้ตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การทอผ้าและวัตถุดิบ ผ่านการเยี่ยมชม ตรวจสอบโดยองค์กรในฐานะบุคคลที่สาม และการรับรองมาตรฐานจากบุคคลที่สาม โดยบริษัทได้ประเมินและแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมในการทำงานต่างๆ ตั้งแต่เริ่มมีปัญหา

• ในเดือนกรกฎาคม 2021 บริษัทได้สร้างทีมระดับโลก ซึ่งประกอบด้วยพนักงาน 100 คน ในการเริ่มดำเนินการต่างๆ นับตั้งแต่การเฟ้นหาวัสดุ บริษัทดำเนินการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงต่างๆ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น


การจัดซื้อวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ส่งเสริมการจัดซื้อวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ จึงจัดทำนโยบายการจัดซื้อสำหรับวัสดุที่ทำจากพืชและสัตว์ต่างๆ 


ส่งเสริมโครงการด้านสังคมทั่วโลก 

ดำเนินงานด้านความปลอดภัยและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคม ผ่านการขยายกิจกรรมด้านสังคมระดับโลกผ่านการประกอบธุรกิจเสื้อผ้า

• บริษัทร่วมมือกับ Fast Retailing Foundation และ  Yanai Tadashi Foundation ในการขยายกิจกรรมเพื่อสังคมระดับโลก ผ่านธุรกิจเสื้อผ้า

• ภายในปี 2025 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จะสนับสนุบงบประมาณด้านกิจกรรมเพื่อสังคมเพิ่มกว่า 10 พันล้านเยน โดยจะดำเนินงานผ่านกิจกรรมระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนผู้คนกว่า 10 ล้านคน รวมถึงผู้ลี้ภัยและกลุ่มที่มีความเปราะบาง บริษัทยังต้องการบริจาคเสื้อผ้าเป็นจำนวน 10 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2025


เร่งดำเนินนการด้านความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างเคารพความแตกต่างและหลากหลายของพนักงาน สร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ

• เพิ่มให้มีผู้บริหารผู้หญิงสูงถึง 50% ของจำนวนผู้บริหารทั้งหมดภายในปีงบประมาณ 2030

• เน้นการสร้างความสามารถให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อบ่มเพาะผู้นำและผู้บริหารรุ่นใหม่

• นอกจากการจ้างงานคนพิการด้านต่างๆ แล้ว ยังออกแบบร้านค้าให้เหมาะสมกับความหลากหลายและขยายผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ส่งเสริมความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม

• เสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อกลุ่ม LGBTQ+ ในหมู่พนักงานและลูกค้า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม