หวั่นตายฟรี สาวถูกรถพ่วงทับ คนขับจ่าย 3 หมื่นหวังจบ อึ้งเล่นยาบ้าก่อนขับ (คลิป)

5 พ.ย. 61
จากกรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 61 เกิดเหตุรถบรรทุกดินเหนียวตะแคงพลิกคว่ำ ทับรถยนต์เก๋ง สีขาว บริเวณถนนเทพารักษ์ กิโลเมตรที่ 7 ใกล้ตลาดหนามแดง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้า คือ นางกมลลักษณ์ วระสุข เจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน 30 นาที ในการใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือนำตัวออกจากรถ ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่นางสาวกมลลักษณ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้คุมตัวนายธงชัย ทับละคร ผู้ขับรถกระบะ ไปสอบปากคำ โดยเบื้องต้นตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง แต่คนขับอ้างว่าไม่สบาย และกินยาไปนั้น (อ่าน : สุดสลด! เก๋งโดนสิบล้อขนดินทับตาย โชเฟอร์อ้างป่วยแต่ฉี่ม่วง เพื่อนเผยชวนทำบุญก่อนถึงฆาต)
อุบัติเหตุรถบรรทุกดินเหนียว ทับเก๋ง
วันที่ 4 พ.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมาที่วัดบางนาใน พระอารามหลวง แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของนางกมลลักษณ์ วระสุข และจะมีการฌาปนกิจศพ ในวันนี้ เวลา 16.00 น. ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายชัยวัฒน์ วระสุข สามีของผู้เสียชีวิต
โดย นายชัยวัฒน์ วระสุข สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า คู่กรณีไม่มีการติดต่ออะไรมา เพียงแต่ส่งตัวแทนมามอบพวงหรีด และเงินช่วยงานศพเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาขอเยียวยาอะไรครอบครัวของตนเองอีก ส่วนผู้ต้องหาที่ขับรถสิบล้อนั้น ทราบมาว่าถูกฝากขังอยู่ที่ศาล แต่ตนไม่ทราบว่าถูกฝากขังในข้อหาอะไรบ้าง เพราะยังไม่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางกมลลักษณ์ วระสุข
ส่วนเรื่องของการเยียวยา ตนอยากให้คู่กรณีเข้ามาดูแลในเรื่องของรายได้ของครอบครัว เพราะนางกมลรัตน์เป็นเสาหลักของครอบครัว มีรายได้เดือนละ 100,000 บาท รายได้ต่อปีก็ประมาณ 1,000,000 บาท ส่วนตนยังไม่มีงานทำเป็นหลัก จึงต้องการให้คู่กรณีเข้ามาพูดคุยก่อน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคู่กรณีจึงไม่ติดต่อมา ตนอยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะครอบครัวก็รู้สึกช็อก ทั้งนี้ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นในตอนนี้ ตนอยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความผิดชอบ ซึ่งหากคู่กรณีไม่ติดต่อเข้ามาพูดคุย ตนกับหัวหน้างานของภรรยาจะปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป สุดท้ายตนอยากจะบอกภรรยาว่า จะดูแลพ่อและลูกให้ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อและลูก ซึ่งความตั้งใจสุดท้ายของผู้ตาย คือ ต้องการเป็นอาจารย์ใหญ่ ตนจึงบอกโรงพยาบาล แต่ร่างกายบริจาคไม่ได้ เพราะศพต้องมีการผ่าชันสูตร จึงได้บริจาคแค่ดวงตาเท่านั้น
นางสาวนทณัฐ วรฉัตร หัวหน้างานของนางสาวกมลลักษณ์
นางสาวนทณัฐ วรฉัตร หัวหน้างานของนางสาวกมลลักษณ์ หรือ หนิง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเห็นว่าเจ้าของรถดินซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ควรต้องออกมาเยียวยารายได้ของครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากหนิงเป็นเสาหลักของครอบครัว มีภาระต้องดูแลลูกอายุ 10 ขวบ และพ่อผู้พิการทางสายตา เป็นโรคหัวใจ และโรคความดัน ส่วนสามีก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนงาน ยังมีรายได้ไม่มั่นคง ส่วนเรื่องที่ผู้ว่าจ้างขับรถสิบล้อ ได้ส่งตัวแทนมามอบพวงหรีดและนำเงินใส่ซอง 30,000 บาท เพื่อช่วยงานศพก็เป็นอีกเรื่อง แต่เรื่องของการเยียวยาก็ต้องแยกออกจากกัน ทั้งนี้ ส่วนคนขับรถบรรทุก ตนทราบมาว่าคนขับรถสิบล้อให้ปากคำกับตำรวจว่ากินยาบ้ามาก่อน 1 เม็ด ก่อนจะไปขับรถบรรทุกชนหนิงเสียชีวิต นอกจากนี้ ถ้าไม่ได้รับการเยียวยาจริง ๆ ก็อาจต้องปรึกษากับคนที่มีความรู้ ว่าจะทำอย่างไรกับการเรียกร้องเงินค่าเยียวยา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ