วิกฤตเงียบกำลังก่อตัวขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯ เมื่อชายหนุ่มวัยทำงานจำนวนมากกำลังหายไปจากระบบ เหมือนกับภาพลวงตาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัวเลขการว่างงานที่ดูต่ำ แต่ความจริงกลับเผยให้เห็นปัญหาที่น่ากังวลยิ่งกว่า SPOTLIGHT จะพาคุณไปสำรวจเบื้องหลังของวิกฤตนี้ ตั้งแต่สาเหตุที่ซับซ้อนไปจนถึงผลกระทบที่อาจสั่นคลอนทั้งเศรษฐกิจและสังคมอเมริกัน
วิกฤตตลาดแรงงานสหรัฐฯ เมื่อชายหนุ่มวัยทำงานกำลังหายไป อะไรคือสาเหตุ
สถานการณ์การลดลงของการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานของผู้ชายวัยทำงานในสหรัฐอเมริกากำลังก่อให้เกิดความกังวลอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอัตราการว่างงานโดยรวมจะดูต่ำ แต่ในความเป็นจริงมีผู้ชายจำนวนมากที่ไม่ได้ทำงานและไม่ได้อยู่ในสถานะหางาน ปัญหานี้มีความซับซ้อนและมีปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้อง โดยตัวเลขน่าตกใจเผยให้เห็นว่า ชายหนุ่มวัยกำลังหลักในช่วงอายุ 25 ถึง 54 ปี กำลังถอยห่างออกจากโลกการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม 2567 มีผู้ชายราว 6.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 10.5% ของกลุ่มประชากรวัยนี้ ที่ไม่ได้ทำงานและไม่ได้กำลังหางานทำ ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับเพียง 2.5% ในปี 2497 ทำให้แนวโน้มการลดลงของการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานของผู้ชายวัยทำงานสร้างความกังวลอย่างยิ่ง
"การลดลงอย่างต่อเนื่องของการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานของผู้ชายวัยทำงานนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งต่อสังคม เศรษฐกิจ และอาจรวมถึงระบบการเมืองของเรา" Nicholas Eberstadt นักเศรษฐศาสตร์การเมืองจากสถาบัน American Enterprise กล่าว
เมื่อผู้ชายสหรัฐฯ เรียนจบอุดมศึกษาลดลง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญ คือ ระดับการศึกษาโดย Jeff Strohl ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและกำลังแรงงานแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ระบุว่า ผู้ที่ไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามีแนวโน้มที่จะประสบภาวะว่างงานสูงกว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการแข่งขันจากต่างประเทศทำให้หลายอุตสาหกรรมต้องการทักษะที่สูงขึ้น นอกจากนี้ จำนวนผู้ชายที่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาก็ลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งทำให้ช่องว่างทางทักษะกว้างขึ้น และยังลดโอกาสในการเข้าสู่ตลาดแรงงานและการรักษาตำแหน่งงาน
งานวิจัยจาก Pew Research Center พบว่า ผู้ชายที่ไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามีแนวโน้มที่จะออกจากตลาดแรงงานสูงกว่าผู้ชายที่สำเร็จการศึกษา ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ชายที่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาก็ลดลง
Carol Graham นักวิจัยอาวุโสด้านเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Brookings อธิบายว่า "ในอดีต ผู้ชายที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถหางานที่มั่นคงได้ แต่ปัจจุบัน ด้วยการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและการแข่งขันจากจีน ทำให้โรงงานหลายแห่งและเมืองที่เคยพึ่งพาโรงงานเหล่านั้นต้องปิดตัวลง"
วิกฤตเงียบที่ต้องเร่งแก้
ผลกระทบจากสถานการณ์นี้มีวงกว้าง ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังส่งผลต่อชีวิตส่วนบุคคลของผู้ชายที่ไม่ได้ทำงานอีกด้วย พวกเขาอาจประสบปัญหาทางการเงินและสุขภาพจิต นอกจากนี้ การลดลงของกำลังแรงงานที่มีทักษะยังเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบการศึกษาและฝึกอบรม เพื่อให้ผู้ชายวัยทำงานมีทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานในปัจจุบัน และอาจต้องมีมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เช่น การให้ความช่วยเหลือ ด้านการหางานหรือการฝึกอบรมใหม่ การแก้ไขปัญหานี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับผู้ชายวัยทำงานและเศรษฐกิจโดยรวม
บทสรุป : เส้นทางสู่การฟื้นฟู
วิกฤตเงียบที่กำลังก่อตัวขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯ นับเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม การลดลงของการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานของผู้ชายวัยทำงานไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกัน
การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การลงทุนในระบบการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานในยุคปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นอกจากนี้ การสร้างโอกาสในการจ้างงานและการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
การฟื้นฟูตลาดแรงงานและสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับผู้ชายวัยทำงานไม่ใช่เพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างสังคมที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมมือกันเพื่อสร้างเส้นทางสู่การฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน
ที่มา cnbc