งาน Sustainability Expo 2022(SX2022) ถือเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมพลังบวกสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อผลักดันทศวรรษแห่งการปฎิบัติ ภายใต้แนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก"งาน Sustainability Expo 2022(SX2022) ถือเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมพลังบวกสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อผลักดันทศวรรษแห่งการปฎิบัติ ภายใต้แนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก"
F&N จับมือ 'เสริมสุข-โออิชิ' ชู 4 แนวคิดธุรกิจยั่งยืน
โดยในปีนี้ Fraser and Neave หรือ F&N เป็นบริษัทชั้นนำด้านอาหารและเครื่องดื่มอีกแห่งของกลุ่ม 'ไทยเบฟ' ได้ร่วมมือกับธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ของกลุ่ม มารวมตัวกันเพื่อเปิดบูธร่วมกันนั่นคือ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน), บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาเปิดบูธในงาน SX2022 เพื่อมาเล่าเรื่องอธิบายแนวคิดการลงมือทำจริงเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย
ในปีนี้จะมาเล่าสื่อสารใน 4 มุมสำคัญที่กลุ่มได้ทำไปแล้ว
สอดรับกับแผนและกลยุทธ์เป้าหมายของ “ไทยเบฟ” ประกาศกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน(Sustainability) พร้อมทั้งโครงการและเป้าหมายที่ชัดเจนโดนจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์( net zero emission)ภายในปี 2583
เรื่องแรก คือ การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืน โดยการลดขนาดความหนาของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มของขวดพลาสติก(PET) ให้มีความบางลงเพื่อให้ใช้วัตถุดิบเม็ดพลาสติกในการผลิตลดลง โดยปัจจุบันทำให้การผลิตขวดพลาสติกของเครื่องดื่มของทุกๆ แบรนด์ในกลุ่มสามารถลดลงได้ประมาณ 6-15% ของน้ำหนักขวดพลาสติกเดิมเมื่อเทียบกับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
โดยประโยชน์ของการทำในเรื่องนี้ คือ การลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลงเพื่อให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมกับชุมชนให้น้อยที่สุด เพื่อมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนให้น้อยลง ขณะที่ในฝั่งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแบบกล่องกระดาษของ F&N ICE MOUNTAIN ในประเทศสิงคโปร์ยังได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมแบบกล่องกระดาษขนาด 500 มิลลิลิตร
สำหรับกระดาษที่นำมาผลิตเป็นกล่องมาจากวัตถุดิบจากป่าที่มีการบริหารจัดการแบบมีความรับผิดชอบต่อสังคม และยังได้รับการรับรองจาก FSC หรือ Forest Stewardship Council ฝากขวดผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพคือ อ้อย และปัจจุบันกลุ่มของแบรนด์เครื่องดื่ม 'โออิชิ' ก็ได้รับการรับรองจาก FSC แล้วด้วยเช่นกัน
ขณะที่บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแบบกระป๋องในกลุ่มที่มีทั้งของแบรนด์ภายในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทั้ง "เอส" (est) กับ 'โออิชิ ชาคูลล์ซ่า' โดยได้ทำโครงการนำกระป๋องที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิลได้แบบ 100% ด้วยโรงงานหลอมอลูมิเนียมและผลิตกระป๋องที่เป็นเจ้าเองซึ่งมีข้อดีสามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 95%
เรื่องที่สอง การบริหาจัดการน้ำ โดย F&N มีโครงการติดตั้งถังเก็บน้ำเพื่อจัดหาน้ำที่มีประสิทธิภาพ สำหรับชุมชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ช่วยลดการเดินทางระยะไกลเพื่อให้เข้าถึงแหล่งน้ำในฤดูแล้งช่วยจัดหาน้ำได้ถึง 1.68 ล้านลิตรต่อเดือนให้กับ 180 ครัวเรือนในชุมชนต่างๆ
สำหรับใช้ในฟาร์ม 24 แห่ง ลดผลกระทบจากภัยแล้งกับเกษตรกร ใน จ.ชัยภูมิ ส่วน บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) มีโรงงาน 6 แห่งที่ทำโครงการอุตสหกรรมน้ำใต้ดินระดับตื้น คาดว่ามีน้ำฝนเข้าสู่ระบบได้ถึง 2,800 ลบ.ม./ปี
โดยมีกากชาที่เหลือจากการผลิตปริมาณ 1.9 ล้าน กก.จากโรงงานของโออิชิจะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้ด้วย และแบ่งอีกกากชาที่เหลือจากการผลิตปริมาณ 1.9 ล้าน กก.นำไปเป็นสารปรับปรุงดิน ขณะที่การใช้น้ำของบริษัทจะใช้หลัก แนวคิด 3R คือ Reduce, Reuse and Recycle
เรื่องที่สาม การบริหารจัดการขยะจากกระบวนการผลิตจากทั้งนมแและนมถั่วเหลืองเพื่อนำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ และแจกให้กับเกษตรกรในท้องถิ่น
เรื่องที่สี่ การบริหารจัดการพลังงาน การติดตั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อปในโครงการบริษัท
AWC ชูแนวคิดทำธุรกิจยั่งยืนด้วย “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”
AWC ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Sustainability Expo 2022 เพื่อนำเสนอกลยุทธ์ทางด้านความยั่งยืนขององค์กร สอดคล้องพันธกิจการดำเนินธุรกิจขององค์กรคือการร่วม “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” หรือ “Building a Better Future” เป็นการนำหลักการการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาผสานในทุกภาคส่วนและทุกมิติของการดำเนินงานในองค์กร เพื่อสร้างคุณค่าองค์รวมอย่างแท้จริงให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)
ภายในนิทรรศการ AWC ได้นำเสนอพอร์ตโฟลิโอธุรกิจและกลยุทธ์ทางด้านความยั่งยืน ผ่านกรอบการดำเนินงาน 3 เสาหลัก ได้แก่
- สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น (BETTER PLANET)2)
- คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (BETTER PEOPLE)3)
- เศรษฐกิจที่ดีขึ้น (BETTER PROSPERITY)
โดยบูธได้ตกแต่งและออกแบบจากการคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งวัสดุทั้งหมดของการจัดทำบูธสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำในงานอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงภายในบูธยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนที่สำคัญของ AWC ไม่ว่าจะเป็น reConcept และ The GALLERY
- ร้าน reConcept คือ การดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางด้านความยั่งยืนของ AWC ในการช่วยลดปริมาณขยะในหลุมฝังกลบ (zero waste to landfill) นำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘EVERYTHING OLD IS NEW AGAIN’ พร้อมมุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และมอบคุณค่าให้แก่เฟอร์นิเจอร์และวัสดุเก่าจากโรงแรมภายในเครือ AWC ผ่านการตกแต่งใหม่ การรีไซเคิล และการซ่อมแซมเพื่อสร้างให้เป็นสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพและนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เดอะ GALLERY โครงการเพื่อชุมชน เป็นศูนย์กลางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล โดยเป็นเวทีให้นักออกแบบ ศิลปิน และชุมชน ได้มีโอกาสเผยโฉมสินค้าฝีมือคนในชุมชน เป็นศิลปะแห่งการให้ด้วยการให้ผลงานศิลปะ โดยจะนำกำไรทั้งหมดไปสนับสนุนสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนต่อไป
KFC ยึดหลักทำธุรกิจ ' Fast food Fast good'
KFC ขณะที่บูธของไทยทอดแบรนด์ดัง 'เคเอฟซี' ที่มีบริษัทในเครืออย่าง บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย เป็นผู้ดูแลแบรนด์นี้ ในปีนี้มาในธีมหลักที่เล่าถึงการทำธุรกิจแบบ Sustainability ผ่านตัวแทนด้วย KFC Food Truck ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด มาจอดจัดแสดงที่งาน SX2022
ขณะที่ KFC Food Truck มาจาก 6 แนวคิด ได้แก่
- ความอดอยากต้องหมดไป
- การศึกษาที่มีคุณภาพ
- พลังงานสะอาดราคาถูก
- งานที่ดีและเศรษฐกิจที่เติบโต
- อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน
- บริโภคและผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ
โดยเป็นรถที่ใช้พลังงานยั่งยืนเพราะเราใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หากชาร์จเต็มสามารถใช้งานระบบไฟฟ้าภายในรถได้ถึง 36 ชั่วโมงเต็ม พร้อมทั้งในตัวรถมีระบบบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะระบายลงสู่ท่อระบายน้ำอีกด้วย โดยปัจจุบัน KFC Food Truck นี้มีเพียงจำนวน 2 คันเท่านั้นในภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นของ 'เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย' ทั้ง 2 คัน ที่สำคัญ KFC Food Truck ของบริษัทยังมีมาตรฐานการผลิตในระดับเดียวกับร้านเคเอฟซีอีกด้วย
'เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย' มีสโลแกนที่สำคัญว่า 'KFC Fast food Fast good' คือ มีการทำและปรุงอาหารแบบสดใหม่ ไม่มีการปรุงแต่งกลิ่นสีใดๆ ทั้งสิ้นมีความสะอาดปลอดภัยเอาใจส่สิ่งแวดล้อม รวมเฟอร์นิเจอร์ทั้งโต๊ะเก้าอี้ที่ใช้ในร้านสาขาของ 'เคเอฟซี' ถูกผลิตจากเศษไม้ที่นำมารีไซเคิล อีกทั้งใช้หินเทียมตกแต่ภายในสาขาใหม่ๆ ที่ถูกผลิตมาจากกากมอลต์ที่เหลือจากการผลิตเบียร์และกากชาที่เหลือจากกระบวนการผลิตในกลุ่มของไทยเบฟกับโออิชิอีกด้วย