ข่าวเศรษฐกิจ

ท่องเที่ยวเฮ! เปิดรับTest&Go เริ่ม 1 ก.พ นี้

20 ม.ค. 65
ท่องเที่ยวเฮ! เปิดรับTest&Go เริ่ม 1 ก.พ นี้

มติล่าสุด ศบค. ชุดใหญ่ อนุมัติใช้ “Test&Go” อีกครั้ง ต้องตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง - กักตัวระหว่างรอผล เริ่มลงทะเบียน 1 ก.พ. 65 นี้
 

วันนี้ (20 ม.ค. 2565) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยหนึ่งในมติสำคัญคือ การอนุมัติแผนการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ในรูปแบบ Test&Go เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2565 ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้


1.อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาได้จากทุกประเทศ


2.ปรับการตรวจหาเชื้อโดยใช้วิธี RT-PCR 2 ครั้ง

 

  • มีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรก และในวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ (SHA++ AQ OQ หรือ AHO)
  • มีหลักฐานชำระเงินการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง

 

3. จัตระบบการตรวจสอบ และกำกับการเข้าที่พัก และตรวจหาเชื้อให้ครบ 2 ครั้ง โดยต้องอยู่รอในที่พัก/สถานที่ที่กำหนด จนได้รับผลการตรวจ

 

4. กำหนดระบบประกันให้ชัดเจน กรณีประกันไม่ครอบคลุม ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของ Hospital Hospitel/Hotet Isolation และกรณี HRC" เอง

 

5. กรณีเกิดการระบาดมากขึ้น หรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง พิจารณาการรับผู้เดินทางแล้วปรับมาใช้ระบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox)
 
000_9qr8bc

 

สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพีใ นปี 2565 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.5-4.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่จีดีพีขยายตัวได้ประมาณ 1% โดยสิ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ ภาคการส่งออกที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 15-16% ซึ่งจะส่งผลดีไปยังการลงทุนภาคเอกชน และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมด้วย
 

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีกับธุรกิจโรงแรมและที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะเชื่อมโยงไปยังแรงงานในภาคดังกล่าวให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐ รวมกว่า 1.9 ล้านล้านบาท จากงบลงทุนปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 6 แสนล้านบาท งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 3 แสนล้านบาท และเม็ดเงินจากการให้สัมปทานในโครงการอีอีซี อาทิ โครงการก่อสร้างสนามบิน โครงการก่อสร้างท่าเรือ เป็นต้น วงเงินราว 1 ล้านล้านบาท จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้
 

ส่วนมุมมองของภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ต่อมาตรการ Test&Go ที่จะกลับมานี้ มีมุมมองในเชิงบวก โดยคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น
 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เชื่อมั่นว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภท Test&Go จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยในปีนี้ถึง 7-8 ล้านคนอย่างแน่นอน โดยมาจากตลาดยุโรปและสหรัฐ 5 ล้านคน และจากตลาดอินเดียและรัสเซียอีก 2 ล้านคน สร้างรายได้ตลาดต่างประเทศ 4.8 แสนล้านบาท

ด้านนายพิสุทธิ์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ภาคเอกชนจับตาการประชุมศบค.ชุดใหญ่วันนี้ (20 ม.ค.) อย่างใกล้ชิด โดยหวังว่า ศบค.และรัฐบาลจะมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไปได้
 

นอกจากการอนุมัติให้กลับมาใช้มาตรการ Test&Go ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ยังมีมติเห็นชอบเรื่องสำคัญอื่นๆ ได้แก่

 

  • ขยายขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน สิ้นสุด 31 มี.ค. 2565

  • ปรับลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เหลือ 44 จังหวัด จาก 69 จังหวัด โดยให้ปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 25 จังหวัด และคงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 8 จังหวัด

  • ปรับเวลาดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารเป็นถึง 23.00 น. จาก 21.00 น. ทั้งในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (รวม 33 จังหวัด) โดยต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting

  • ให้ปรับใช้ Work from Home (WFH) ตามความเหมาะสม จากเดิมขอความร่วมมือสิ้นสุด 31 ม.ค. 2565

  • ให้ขยาย Sandbox จ.ชลบุรี และจ.ตราด พร้อมเปิดพื้นที่เชื่อมโยง Sandbox เดิม ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเข้าพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้


ขยาย Sandbox


1. จ.ชลบุรี


อ.บางละมุง เมืองพัทยา
อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง
อ.สัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่


2. จ.ตราด (เกาะช้าง)

3. การเปิดพื้นที่ให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ในช่วง 7 วันที่ต้องพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว

 

การปรับมาตรการ Sandbox

  • ยังคงต้องเคร่งครัดการมีหลักฐานจองที่พัก 7 วันในโรงแรมที่กำหนด และการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ใน DAY 0-1 และ DAY 5-6

  • มีระบบการตรวจสอบ และกำกับการเข้าออกโรงแรมทุกวัน เป็นเวลา 7 วันในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว หรือในกลุ่มจังหวัด โดยไม่เกิน 3 โรงแรม

  • ปรับมาตรการในการติดตามตัวเพื่อให้สามารถดำเนินการและติดตามได้ โดยให้โรงแรมเป็นผู้ตรวจสอบการเข้าพักทุกวัน เป็นระยะเวลา 7 วัน และมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ SHA Manager หรือ COVID Manager ทั้งนี้ผู้เดินทางสามารถเดินทางไป-กลับในจังหวัดใกล้เคียงได้

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT