“CZ” ซีอีโอเอ็กซ์เชนจ์ซื้อขายคริปโตยักษ์ใหญ่ “Binance” ขึ้นแท่น “มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกคริปโต” มูลค่าทรัพย์สินกว่า 3 ล้านล้านบาท เตรียมแซงปรมาจารย์นักลงทุน “วอร์เรน บัฟเฟตต์”
นอกจากแวดวงบริษัทเทคโนโลยีจะเติบโตเร็วจนราคาหุ้นพุ่งกระฉูด และดันให้เจ้าของบริษัทหลายคนขึ้นเป็นมหาเศรษฐีของโลกไปแล้ว ล่าสุด "ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี" ที่เติบโตแบบ To the Moon ไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้สร้างมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ติดอันดับโลกเช่นกัน
อีกหนึ่งเศรษฐีรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามอง ก็คือ “ฉางเผิง เจ้า" (Changpeng Zhao) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “CZ” เจ้าของแพลตฟอร์ม Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอันดับหนึ่งของโลก ได้ขึ้นแท่น “มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ในวงการคริปโตเคอร์เรนซี” และจ่อเข้าทำเนียบมหาเศรษฐีของโลกในอันดับที่ 11 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านของ Bloomberg Billionaire Index
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานมูลค่าทรัพย์สินของฉางเผิง ว่ามีมูลค่าสูงถึง 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) ใกล้เคียงกับ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” นักลงทุนในหุ้นคุณค่าชื่อก้องโลกจาก Berkshire Hathaway ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 1.16 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 3.9 ล้านล้านบาท)
แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน สองผู้ร่วมก่อตั้ง Google ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 1.22 แสนล้าน และ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 4 ล้านล้านบาท และ 3.9 แสนล้านบาท) รวมถึงมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก แห่ง Meta ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.24 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 41 ล้านล้านบาท)
แต่ตัวเลข 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ คือจำนวนทรัพย์สินที่ตรวจสอบได้ของฉางเผิงเท่านั้น รายงานของสำนักข่าว The Wall Street Journal เปิดเผยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มูลค่าคริปโตเคอร์เรนซีที่เข้าถืออยู่ในมือ อาจสูงถึงกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) ซึ่งหากนับรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด อาจทำให้เข้าได้เข้าไปนั่งใน “10 อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก” ไปเรียบร้อยแล้วก็ได้
หากดูมูลค่าบริษัทของบริษัทเทคโนโลยีของบรรดามหาเศรษฐีที่มีอันดับใกล้เคียงกัน ปัจจุบัน บริษัท Meta (ชื่อเดิมคือ Facebook) ของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2004 มีมูลค่าอยู่ที่ 9.58 แสนล้านดอลลาร์ (32 ล้านล้านบาท) ขณะที่บริษัท Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ที่ก่อตั้งในปี 1998 โดยแลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน มีมูลค่า 1.94 ล้านล้านดอลลาร์ (65 ล้านล้านบาท)
Binance ยังนับว่าเป็นน้องเล็กหากเทียบกับพี่ๆ ทั้งสองบริษัทนี้ เพราะเพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2017 มูลค่าบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) แต่ก็มีศักยภาพการเติบโตที่น่าจับตามอง อย่างเช่นในปีที่ผ่านมา Binance สามารถทำกำไรได้มากถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (6.7 แสนล้านดอลลาร์) ทิ้งห่างบริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีเบอร์ 2 อย่าง Coinbase ที่สามารถทำกำไรได้เพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์ (4.3 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือมากกว่าถึง 14 เท่า!
ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ซึ่งโลกกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่โลกแห่งการเงินดิจิทัล เราอาจจะได้เห็นฉางเผิงคว้า 2 ตำแหน่ง ทั้งติด 1 ใน 5 อันดับมหาเศรษฐีของโลก และพา Binance แซงบริษัทพี่ๆ เข้าสู่ 1 ใน 10 บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก พร้อมกันก็เป็นได้ หากตลาดคริปโตสามารถรอดพ้น "บททดสอบใหญ่" ที่กำลังเขย่าราคาคริปโตทั้งวงการในปีนี้ไปได้