ข่าวเศรษฐกิจ

ไฟเซอร์ เตรียมเปิดตัววัคซีนต้านโอมิครอน มี.ค.นี้! หลังทั่วโลกระบาดหนัก

11 ม.ค. 65
ไฟเซอร์ เตรียมเปิดตัววัคซีนต้านโอมิครอน มี.ค.นี้! หลังทั่วโลกระบาดหนัก
ไฮไลท์ Highlight
"เราหวังว่าจะได้วัคซีนที่ป้องกันได้ดีขึ้นโดยเฉพาะกับการติดเชื้อ เพราะวัคซีนในปัจจุบันป้องกันการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลและการป่วยร้ายแรงได้สมเหตุสมผลตราบใดที่คุณฉีด 3 โดส" นายบูร์ลากล่าว

ทั่วโลกเผชิญการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอย่างหนัก สหรัฐฯทำลายสถิติสูงสุดในโลก วันเดียวพบผู้ติดเชื้อ 1.13 ล้านราย ด้านซีอีโอไฟเซอร์ ประกาศ เดือนมีนาคมนี้ จะเปิดตัว วัคซีนต้านโควิดสายพันธุ์โอมิครอนได้

 

ไฟเซอร์พร้อมเปิดตัววัคซีนป้องกันโอมิครอนเดือนมีนาคมนี้

11 ม.ค.2565 นายอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของบริษัทไฟเซอร์  ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Squawk Box" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เจาะจงสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะนั้น จะพร้อมเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้ และทางบริษัทได้เริ่มผลิตไปแล้ว

นายบูร์ลา บอกว่า วัคซีนนี้จะตั้งเป้าป้องกันสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ด้วย  แต่อย่างไรก็ตามเขายังไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องใช้วัคซีนเฉพาะโอมิครอนหรือไม่หรือใช้อย่างไร แต่ทางไฟเซอร์ก็จะผลิตวัคซีนเตรียมไว้ให้พร้อมเนื่องจากมีบางประเทศต้องการใช้โดยด่วนที่สุด และไฟเซอร์จะทำการทดลองเพื่อดูว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 หรือไม่ด้วย

"เราหวังว่าจะได้วัคซีนที่ป้องกันได้ดีขึ้นโดยเฉพาะกับการติดเชื้อ เพราะวัคซีนในปัจจุบันป้องกันการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลและการป่วยร้ายแรงได้สมเหตุสมผลตราบใดที่คุณฉีด 3 โดส" นายบูร์ลากล่าว

ทั้งนี้ผลการศึกษาของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของอังกฤษ (HSA) พบว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นามีประสิทธิภาพเพียงประมาณ 10% ในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนแบบแสดงอาการ 20 สัปดาห์หลังฉีดเข็มที่ 2 แล้ว

 000_9vw4u6

ก่อนหน้านี้ นายสเตฟาน บัลเซล ซีอีโอบริษัทโมเดอร์นา ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีในวันเดียวกันโดยระบุว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ที่เจาะจงกับสายพันธุ์โอมิครอนและจะเริ่มทำการทดลองทางคลินิกเร็ว ๆ นี้ พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลชาติต่าง ๆ มีความต้องการวัคซีนตัวใหม่นี้อย่างยิ่ง เนื่องจากกำลังเตรียมตั้งมาตรการฉีดวัคซีนป้องโควิดเป็นประจำ

 

สหรัฐฯติดโควิดทะลุ 1ล้านรายเมื่อวันจันทร์ สูงสุดในโลก  

สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างน้อย 1.13 ล้านรายในวันจันทร์ (10 ม.ค.) ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลก ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังไม่มีสัญญาณชะลอตัวลง ในรายงานระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่โดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3 เท่าในรอบ 2 สัปดาห์ สู่ระดับกว่า 700,000 รายต่อวัน

นอกจากนี้ สหรัฐยังพบยอดผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 3 สัปดาห์ สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 135,500 ราย ซึ่งทำลายสถิติที่ของเดือนม.ค.ปีก่อนหน้าที่ 132,051 ราย

แม้ว่าไวรัสโอมิครอนอาจมีความรุนแรงน้อยกว่า แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวเตือนว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาจทำให้ระบบโรงพยาบาลเกิดความตึงเครียด ซึ่งบางแห่งได้ระงับการรักษาแบบไม่เร่งด่วน เนื่องจากหลายโรงพยาบาลกำลังรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนบุคลากร 

ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดชะงัก และประสบปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ครู และคนขับรถประจำทาง ทั้งนี้ ชิคาโกยกเลิกการเรียนการสอนเป็นวันที่ 4 เนื่องจากทางเขตและคณะครูไม่เห็นด้วยกับวิธีการจัดการกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น

ด้านนครนิวยอร์กเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า นครนิวยอร์กสั่งระงับบริการรถไฟใต้ดิน 3 สาย เนื่องจากพนักงานจำนวนมากลาป่วย ตลอดจนแผนการของบริษัทต่างๆ ในการให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศก็หยุดชะงักเช่นเดียวกัน

 000_9m64ut

 

 

ญี่ปุ่นชะลอเปิดประเทศ เตรียมฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี  

ด้าน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นวางแผนที่จะขยายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปยังกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศซึ่งดำเนินงานโดยกองกำลังป้องกันตนเองอีกครั้ง เพื่อเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้กลุ่มผู้สูงอายุโดยเร็วที่สุด ส่วนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ จะได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการก่อนหน้า ซึ่งรัฐบาลจะใช้วัคซีนของโมเดอร์นาจำนวนกว่า 18 ล้านโดส ซึ่งได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเดือนที่ผ่านมา

โดยญี่ปุ่นรายงานพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่กว่า 6,400 รายเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทะลุหลัก 8,000 รายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คาดว่าจะประกาศขยายระยะเวลาคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์  โดยเริ่มมีในวันนี้ และได้เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในขั้นต้นนั้น รัฐบาลได้เริ่มดำเนินมาตรการควบคุมชายแดนเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน โดยสั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้พำนักอาศัยในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศ และกำหนดให้ชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด เมื่อเดินทางกลับมายังญี่ปุ่น

 000_9v28rm

 

ประธานาธิบดีเม็กซิโก ติดโควิดรอบ2

ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกประกาศเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ว่าเขาติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 โดยมีอาการป่วยเล็กน้อย และเขาจะทำงานในขณะกักตัวต่อไปจนกว่าจะหายดี โดยปธน.โอบราดอร์วัย 68 ปี ซึ่งเพิ่งฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มบูสเตอร์ไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม  เค้ามีอาการเสียงแหบขณะแถลงข่าวในช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจตรวจหาเชื้อในวันดังกล่าว และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ในเวลาต่อมา

 000_9vx3pd

ทั้งนี้ เม็กซิโกเป็นประเทศที่ดำเนินการตรวจหาผู้ติดเชื้อน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ  แต่มียอดติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 30,671 รายไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.)

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT