ททท. มั่นใจปี 67 นทท.ต่างชาติ มาตามเป้า 36.7 ล้านคน
คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า โดยภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2567 ประเทศไทยจะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาตามเป้าที่ตั้งไว้ นั้นก็คือคือ 35-36.7 ล้านคน ซึ่งสามารถสร้างเงินสะพัดได้มากกว่า 2.7-3 ล้านล้านบาท โดยงาน Thailand Winter Festivals ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นอีกหนึ่ง Festival ที่จะเข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้
ททท. จับมือ VISA ยกระดับการการเงินเพื่อนักท่องเที่ยว
ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้มีการร่วมลงนามใน MOU หรือบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Reshaping Thailand’s Tourism with Innovation and Advanced Data Analytics” กับ VISA เพื่อยกรับการเงิน เพื่อการใช้จ่ายอย่างไร้รอยต่อให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน พร้อมเอาจุดแข็งของ VISA ที่มี Database จากผู้ใช้งานทั่วโลกมาปรับใช้กับแผนยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยวไทยให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การร่วมมือในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการเสริมศักยภาพทางการท่องเที่ยว เพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศศักยภาพ 23 ตลาด ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยและสร้างรายได้มากกว่า 80 % ของจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด”
ทางด้าน คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือในครั้งนี้ ททท.จะได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ VISA เช่น โซลูชันทางการชำระเงิน การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และเมื่อการเดินทางทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีความต้องการเพิ่มขึ้นในเรื่องของประสบการณ์การชำระเงินที่ไร้รอยต่อ ปลอดภัย และไม่ต้องพึ่งเงินสด”
เปิดความร่วมมือ 4 ด้านของ ททท.และ VISA
1.โปรแกรมการตลาดเชิงกลยุทธ์
: ร่วมกันส่งเสริมตลาดในโครงการ “5 Must Do in Thailand” ประกอบด้วย
-
Must Taste อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่น
-
Must Try สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ
-
Must Buy หัตถกรรมล้ำค้าน่าซื้อฝาก
-
Must Seek แสวงหาอันซีนถิ่นน่าเที่ยว
-
Must See ละลานตาวัฒนธรรม เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาร่วมสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำในประเทศไทย ค้นพบมุมมองใหม่ที่มีคุณค่า
2.การขยายบริการของวีซ่าและโครงการ STAR (Sustainable Tourism Acceleration Rating : STAR)
:ขยายจุดรองรับการชำระเงินของวีซ่าในจังหวัดท่องเที่ยวหลักเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ ส่งมอบประสบการณ์ทางการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น ชุมชนการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการในโครงการ STAR ของ ททท.
3.การจัดโปรโมชั่นและแคมเปญร่วมกันและแคมเปญร่วมกัน
: ทำการสื่อสารสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายร่วมกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนประเทศไทยผ่านการจัดโปรโมชั่นและแคมเปญต่าง ๆ
4.การวิเคราะห์ข้อมูลและการให้คำปรึกษา
: ดึงจุดแข็งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม ของนักท่องเที่ยวในเรื่องของการใช้จ่ายมาเป็นฐานข้อมูลในการกำหนดแคมเปญด้านการท่องเที่ยว เช่น โครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซลล์ (Amazing Thailand Grand Sale) และเทศกาลการลดราคาสินค้าและ บริการในช่วงเวลาต่าง ๆ ตลอดจนนำต่อยอดพัฒนากลยุทธ์การตลาดและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
เปิดอินไซท์ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย
คุณปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย ยังได้เปิดเผยว่า VISA มีฐานลูกค้า 70% ทั่วโลก ที่มีกว่า1,400 ล้านกว่าคน เลยสามารถนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์เชิงลึกได้ว่า พฤติกรรมกรรมนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร มีความต้องการแบบไหน ชื่นชอบอะไรและไม่ชอบอะไร และพอเห็นข้อมูลการใช้จ่าย เราก็จะสามารถนำเสนอในรูปแบบที่พวกเขาชอบ
“ไม่ใช่ว่านักท่องเที่ยวทุกคน จะมีคุณภาพเท่ากัน จากข้อมูลที่ Visa มี สามารถทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่านักท่องเที่ยวชาติใด มีการใช้จ่ายมาน้อยแค่ไหน ซื้อของกับอะไร วิเคราะห์เทรนด์ที่เกิดขึ้น”
-
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น : มักใช้จ่ายกับการดื่ม การท่องเที่ยว และการกิน
-
นักท่องเที่ยวจีน : มักใช้จ่ายกับการซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า กว่า 30% ชอปสินค้าหรู
-
นักท่องเที่ยวยุโรป : มักใช้จ่ายกับ Fine Dining , โรงแรม
-
นักท่องเที่ยวอเมริกา: มักใช้จ่ายกับ Health Care
Top 5 ชาวต่างชาติที่ใช้บัตร VISA เยอะที่สุดในประเทศไทย
1.อเมริกา
2.สิงคโปร์
3.จีน
4.อังกฤษ
5.ญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังพบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวขาเข้า (ต่างชาติเที่ยวไทย) เติบโตกว่า 90% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยอดใช้ง่ายของ นักท่องเที่ยวขาออก (คนไทยเที่ยวต่างประเทศ) เติบโตเพียง 20% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากคนไทยยังไม่ค่อยมึความมั่นใจในการเดินทางไปยังต่างประเทศ ด้วยเศรษฐกิจไทยก็ยังทรงๆ