อินไซต์เศรษฐกิจ

เทียบฟอร์ม 'เศรษฐกิจ' คู่ชิงบอลโลก อาร์เจนติน่า-ฝรั่งเศส งานนี้ใครวิน

17 ธ.ค. 65
เทียบฟอร์ม 'เศรษฐกิจ' คู่ชิงบอลโลก อาร์เจนติน่า-ฝรั่งเศส งานนี้ใครวิน

วันนี้เราก็จะได้รู้แล้วว่าชาติใดจะได้ครองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 ระหว่างอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศสที่ต่างเอาชนะคู่แข่งจนเข้ามาอยู่ในรอบไฟนอลได้ในที่สุด 

แต่ก่อนที่จะได้ชมการแข่งขันนัดสุดท้าย นอกจากฟอร์มทีมนักบอลที่จะลงสนามในวันนี้แล้ว ทีมข่าว Spotlight อยากพาไปดูฟอร์มด้านเศรษฐกิจของ 2 ประเทศนี้กันบ้างว่าทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศสมีจุดเด่นทางเศรษฐกิจด้านใด และใครจะวินในแมทช์นี้

1040

 

‘อาร์เจนติน่า’ เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในหมู่ประเทศละตินอเมริกา

จากข้อมูลของธนาคารโลกและองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ‘อาร์เจนติน่า’ เป็น ‘เขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศแถบละตินอเมริกา รองจากบราซิล และเม็กซิโก’ และถือว่าเป็นประเทศในกลุ่ม upper-middle income คือรายได้ระดับกลางค่อนไปทางสูงด้วย GDP ต่อหัวที่ 10,709.2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.7 แสนบาท

อาร์เจนติน่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ทั้งในด้านการเกษตรและพลังงาน นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารอันดับต้นๆ ของโลก สินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของอาร์เจนติน่าคือ ‘ข้าวโพด’ ที่คิดมูลค่าเป็น 10.7% ของสินค้าที่อาร์เจนติน่าส่งออกทั้งหมดในปี 2021 ในปี 2020 อาร์เจนติน่าส่งออกถึง 34  ล้านตัน คิดเป็นถึง 18.6% และเป็นอันดับที่ 3  ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและบราซิล

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อาร์เจนติน่าจะมีความโดดเด่นด้านการเกษตร ภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจอาร์เจนติน่าคือ ภาคการบริการ รองลงมาเป็นภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร โดยในปี 2021 อาร์เจนติน่าได้รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้เป็นอันดับสองในหมู่ประเทศละตินอเมริการองจากเม็กซิโก

istock-610953912

ธารน้ำแข็งเปริโตโมเรโน ในปาตาโกเนีย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญขงอาร์เจนตินา

จากข้อมูลของ Britannica ภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นอย่างมากหลังเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงปี 1930s เพราะรัฐบาลได้สนับสนุนให้มีการตั้งโรงงานผลิตข้าวของเครื่องใช้ในประเทศเพื่อลดการนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังตั้งกำแพงภาษีให้สูงเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ

ปัจจุบัน บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดของอาร์เจนติน่าคือ MercadoLibre ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา

Mercado Libre มีมูลค่าตลาด 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท ปัจจุบันบริหารโดยมหาเศรษฐีที่ที่ร่ำรวยที่สุดของอาร์เจนติน่าชื่อ มาร์กอส กัลเปริน (Marcos Galperin) ที่มีทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.3 แสนล้านบาท และเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 768 ของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes

 

‘ฝรั่งเศส’ มหาอำนาจด้านแฟชั่นและการท่องเที่ยว

จากข้อมูลของ OECD ฝรั่งเศสถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก และมีความสำคัญในระดับเดียวกับสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี อิตาลี และอังกฤษ​ นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มี GDP ต่อหัวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 26 ของโลก ที่ 43,518.5 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 ล้านบาทต่อปี และจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้สูง

ภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดในเศรษฐกิจของฝรั่งเศสคือ ภาคการบริการ และการท่องเที่ยว โดยฝรั่งเศสถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลกที่มีจุดเด่นคือความรุ่มรวยทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น สถาปัตยกรรม อาหาร และแนวคิดด้านปรัชญาต่างๆ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวชมความสวยงามและสัมผัสวัฒนธรรมที่มีความเป็นมายาวนานหลายร้อยปีในฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก 

จากการจัดอันดับของของ Mastercard  ในปี 2019 ก่อนมีการระบาดของโควิด-19 กรุงปารีส เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากอันดับ 1 คือ กรุงเทพมหานคร ของไทย นอกจากนี้ยังได้รายได้จากการท่องเที่ยวไปถึง 2.1 แสนล้านยูโร หรือ 7.7 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ของประเทศไทยที่ได้ไป 3.4 ล้านล้านบาทในปีนั้น

istock-874748888

กรุงปารีส ฝรั่งเศส

นอกจากนี้ ถึงแม้ฝรั่งเศสจะมีการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลัก ฝรั่งเศสยังมีรายได้อีกส่วนมาจากการขายสินค้าทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะสินค้าด้านความงามและแฟชั่นไฮเอนด์ โดยในปัจจุบัน บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดของฝรั่งเศสก็คือ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า LVMH ซึ่งเป็นเครือแบรนด์หรูมากมายที่เรารู้จักกันดี เช่น Tiffany & Co., Christian Dior, Fendi, Givenchy, Marc Jacobs, Celine, Sephora, TAG Heuer, และ Bulgari

ปัจจุบัน LVMH บริหารโดย เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (Bernard Arnault) ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยเขาและครอบครัวมีทรัพย์สินส่วนตัวรวมทั้งหมดถึง 1.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.3 ล้านล้านบาท

 

ส่วนผลของฟุตบอลโลกในวันนี้จะเป็นอย่างไรอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้ทราบผลการแข่งขันกันแล้ว ที่แน่ๆประเทศผู้ชนะ น่าจะมีเศรษฐกิจที่คึกคักขึ้นได้ในระยะสั้นแน่นอน ด้วยบรรยากาศของการเฉลิมฉลองยินดีของประชาชน … แต่หลังจากจบฟุตบอลโลก2022 แล้วทุกประเทศก็เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2023 ที่ยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอลงแค่ไหน แต่ที่แน่ๆคือ สนามนี้หินกว่าสนามที่กาตาร์แน่นอน 





ที่มา: Britannica(1), Britannica(2), World Bank, Trading Economics, Trend Economy, Mastercard 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT