อินไซต์เศรษฐกิจ

ทำไม "ผีน้อยไทย" ต้องไป "เกาะเชจู"

9 ส.ค. 65
ทำไม "ผีน้อยไทย" ต้องไป "เกาะเชจู"

ข่าวที่ ตม.เกาหลีใต้ปฏิเสธ 115 คนไทยไม่ให้เข้าประเทศ เพราะกลัวว่าจะแปลงร่างเป็นผีน้อยนั้น ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่แค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างอิมแพ็กสะเทือนในเกาหลีใต้ด้วย


ถึงขั้นที่รัฐบาลเกาหลีใต้ อาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงกฎการเข้าเมืองใหม่ เพื่ออุดช่องโหว่กันเลยทีเดียว

ทีม SPOTLIGHT แตกประเด็นมาให้ ดังนี้

keta(1)


เกิดอะไรขึ้น ทำไมผีน้อยไทยต้องไปที่ "เกาะเชจู"?


ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราไม่ควรเหมารวมว่าทุกคนที่ไปเกาหลี และทุกคนที่ไปเกาะเชจู จะต้องเป็นผีน้อยไปเสียทั้งหมด หลายคนเป็นนักท่องเที่ยวปกติที่อัดอั้นอยากบินไปเที่ยวเมืองนอก หลังไม่ได้ออกนอกประเทศมานานเพราะโควิด

แต่มันมีสาเหตุที่ต้องเพ่งเล็งไปที่เกาะเชจู และคนที่อยากมาเที่ยวที่นี่เป็นพิเศษ ก็เพราะว่า "เชจู เป็นสถานที่แห่งเดียวในเกาหลีใต้ที่ไม่ได้ใช้ระบบ K-ETA" หรือระบบลงทะเบียนสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศเกาหลี โดยไม่ต้องขอวีซ่า

จุดนี้เองทำให้เกาะเชจูเป็นช่องโหว่ที่บรรดาผีน้อยจากทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่ไทย ต้องการบินตรงไปไปที่นี่เลย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องตรวจระบบ K-ETA ในขณะที่บริษัททัวร์ต่างๆ ก็ทำโปรโมทการท่องเที่ยวแบบเช่าเหมาลำบินไปเที่ยวเชจู เพราะสะดวก ไม่ต้องใช้ K-ETA ขอเพียงแค่มีพาสปอร์ต ประวัติการฉีดวัคซีน และผลการตรวจ pcr/atk (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) ก็เข้าไปเที่ยวได้ง่ายๆ แล้ว


เปิดสถิติผีน้อยไทยแค่ 1 สัปดาห์ หนีทัวร์แล้ว 55 คน

รายงานข่าวจาก Korea Times ซึ่งอ้างข้อมูลจาก ตม.เกาหลีใต้ พบว่า ระหว่างวันที่ 2-5 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา มีคนไทยบินไปเกาะเชจู ถึง 697 คน

ที่น่าสนใจก็คือ ในจำนวนคนไทย 697 คนนั้น มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งถึง 52.7% หรือ 367 คน ที่ลงทะเบียน K-ETA มาก่อนและ "ไม่ผ่าน"

จึงไม่น่าแปลกใจหากกรุ๊ปทัวร์ไทยที่ไปเชจู จะถูกจับจ้องเป็นพิเศษ เพราะอาจถูกมองได้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบระบบคัดกรองตามปกติ และนั่นจึงทำให้ตัวเลขคนไทยที่ไปเกาะเชจู ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ถูกตม.เกาหลีใต้ปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง "มากกว่าครึ่ง"

จากข้อมูลในช่วงดังกล่าวพบว่า มีคนไทยเดินทางไปยังเกาะเชจู 697 คน "แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศมากถึง 417 คน" โดยในการปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองนั้นแทบจะเป็นการปฏิเสธแบบ "ยกลำ" คือในวันที่ 2 ส.ค. ปฏิเสธ 112 คน จากทั้งลำ 183 คน และในวันต่อมา ปฏิเสธ 108 คน จากทั้งลำ 182 คน

แถมในบรรดาคนไทยที่ได้เข้าไปเที่ยวเพียงแค่ 280 คนนั้น ก็มีรายงานว่า "หนีทัวร์" กลายร่างเป็นผีน้อยไปแล้วถึง 55 คน ซึ่งทางการเกาหลียังไม่สามารถตามตัวได้ ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ที่ไหน


เกาหลีเล็งปรับกฎอุดช่องโหว่ผีน้อย

ข่าวจาก Korea Times ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ กำลังพิจารณาจะใช้ระบบ K-ETA ที่เกาะเชจูด้วย เพื่อเป็นการอุดช่องโหว่บรรดาผีน้อยหลากสัญชาติ ซึ่งไม่ได้มีแค่ประเทศไทย ที่พยายามเข้ามาลักลอบทำงานในเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย

โดยในสัปดาห์เดียวกันนั้น มีรายงานชาวมองโกเลีย 23 คน หนีหายไปจากกรุ๊ปทัวร์ 156 คน ที่มาท่องเที่ยวเช่นกัน เจ้าหน้าที่สามารถตามจับได้ 1 ราย ที่ท่าเรือเชจู ระหว่างพยายามหลบหนีขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมือง Mokpo ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลี ส่วนอีก 2 คน ถูกจับได้ว่าลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมายบนเกาะเชจู

 istock-579410588

รู้จักระบบ K-ETA ต้องยื่นขอก่อนไปเกาหลี
 
K-ETA คือระบบลงทะเบียนสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศเกาหลี โดยไม่ต้องขอวีซ่า (112 ประเทศและเขตแดน) เริ่มใช้ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2564 เพื่อแก้ปัญหาการปฏิเสธนักท่องเที่ยว และการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย

นักท่องเที่ยวต้องทำ K-ETA ก่อนจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม มีค่าลงทะเบียนประมาณ 280 บาท มีอายุการใช้งาน 2 ปี

"เกาะเชจู" เป็นสถานที่แห่งเดียวในเกาหลีที่ "ไม่ได้ใช้ระบบ K-ETA" ทำให้เป็นช่องโหว่ในการลักลอบเข้าเมือง ปัจจุบัน หลังเกิดเคสปฏิเสธนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกับไทย ทำให้เกาหลีใต้กำลังพิจารณาจะใช้ระบบ K-ETA ที่เกาะเชจูแล้ว

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT