อินไซต์เศรษฐกิจ

ย้อนรอยโศกนาฎกรรม "โบอิ้ง" ที่สะเทือนแผลเก่า 737 Max

22 มี.ค. 65
ย้อนรอยโศกนาฎกรรม "โบอิ้ง" ที่สะเทือนแผลเก่า 737 Max

ทันทีที่มีข่าวว่า สายการบิน "ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส" ประสบเหตุตกในประเทศจีน ก็ทำให้เกิด 2 คำถามใหญ่ๆ ขึ้นทันที

 

แน่นอนว่าคำถามแรกย่อมมุ่งไปที่ "ความปลอดภัยและชะตากรรม" ของคนบนเครื่องเป็นหลัก ทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ 132 ชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

 

แต่อีกคำถามหนึ่งที่หลายคนสงสัยด้วยก็คือ "เครื่องบินรุ่นอะไร" และเป็น "โบอิ้ง 737 Max" หรือไม่ ?

 

เพราะบริษัทเครื่องบินจากสหรัฐรายนี้ เคยเผชิญวิกฤตการณ์ครั้งเลวร้ายที่สุด และสะเทือนวงการการบินทั่วโลกมาแล้ว จากมหากาพย์เครื่องบินเจ้าปัญหารุ่น 737 Max เมื่อปี 2019

 


ทีมข่าว SPOTLIGHT พาไปทำความรู้จักและย้อนรอยโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง พร้อมประเด็นที่ทั่วโลกกำลังสงสัยว่า เหตุใดเครื่องบินของเที่ยวบินที่ MU-5735 จึงตกแบบ "แนวดิ่ง" เช่นนี้

 128627


ทำไม 737 Max ถึงเป็นเรื่องใหญ่ ?

 

เพราะเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 Max สร้างประวัติศาสตร์ "ตก 2 ครั้งติดต่อกันภายใน 5 เดือน" ซึ่งสะท้อนถึง "ความผิดปกติ" บางอย่างของเครื่องบินรุ่นนี้

 

  • วันที่ 29 ต.ค. 2018 เที่ยวบิน JT 610 ของสายการบิน ไลออน แอร์ ตกที่อินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตยกลำ 189 คน

  • วันที่ 10 มี.ค. 2019 เที่ยวบิน ET 302 ของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลนส์ ตกที่เอธิโอเปีย หลังขึ้นบินได้เพียง 6 นาที มีผู้เสียชีวิตยกลำ 157 คน

 

โศกนาฎกรรมทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การสืบสวนสอบสวนครั้งใหญ่ซึ่งพบว่า โดยหลักแล้ว ปัญหาอยู่ที่ "การออกแบบเครื่องบิน และระบบควบคุมการบิน MCAS"

 

เพราะต้องแข่งขันกับเครื่องรุ่นใหม่ "A320 Neo" ของค่าย "แอร์บัส" จากฝั่งยุโรป ที่ขายดีกว่าและเหนือกว่าโดยเฉพาะด้านการประหยัดพลังงาน ทำให้เครื่องรุ่นใหม่ 737 Max ใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น แต่ปัญหาก็คือ มันทำให้เครื่องมีความเสี่ยงที่จะ "เชิดหัวขึ้น" ได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งอาจทำให้เครื่องบินสูญเสียการทรงตัว (Stall)

000_8wc6tj

ดังนั้น โบอิ้งจึงแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งะบบควบคุมการบินอัตโนมัติ MCAS ซึ่งหากระบบพบเครื่องเชิดหัวขึ้นอย่างผิดปกติ มันก็จะทำหน้าที่กดหัวเครื่องบินลงให้เองโดยอัตโนมัติ แต่ปัญหาที่พบก็คือ มันกดหัวลงเองกระทันหันจนทำให้นักบินเสียการควบคุม หรือกดหัวลงเองทั้งที่องศายังปกติ จึงทำให้นักบินต้องควบคุมเครื่องแข่งกับระบบ และปัญหาที่ซ้อนทับไปอีกชั้นก็คือ ในช่วงแรกโบอิ้งไม่ได้แจ้งเรื่องระบบนี้ และนักบินก็ไม่ต้องซ้อมขับเครื่องบินใหม่ เพราะนักบินที่ขับ 737 ได้อยู่แล้วไม่ต้องฝึกเพิ่ม กว่าจะมารู้เรื่องระบบ MCAS กันจริงจังก็หลังจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งแล้ว

 

ปัญหาของ 737 Max นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต บริษัทประสบปัญหาทางการเงินและอื่นๆ อย่างหนัก และยังกระทบไปยังสายการบินทั่วโลกที่เป็นลูกค้าโบอิ้ง เช่น

 

  • มีผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินตก 346 คน บริษัทตกลงยอมความกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยจะชดใช้เงินราว 2,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.4 หมื่นล้านบาท)

    000_1mz8eg

  • สายการบินทั่วโลกถูกสั่งห้ามบินเครื่องรุ่น 737 Max ตั้งแต่ปี 2019 - 2020 (บางแห่งยาวถึงปี 2021) สร้างความปั่นป่วนให้สายการบินทั่วโลกที่ต้องหาเครื่องรุ่นอื่นมาทดแทน

    000_1ha1uy

  • บริษัทเสียออเดอร์จำนวนมาก, ซีอีโอในขณะนั้น (เดนนิส เอ มุยเลนเบิร์ก) ถูกไล่ออก, บริษัทถูกสภาคองเกรสสอบสวน, บริษัทถูกฟ้องร้องในคดีทุจริต, บริษัทซัพพลายเออร์ยื่นล้มละลาย, หุ้นร่วงยับ, รวมแล้วประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.7 ล้านล้านบาท)

 

 


แสดงว่า 737-800 (รุ่นที่ตกในจีน) ปลอดภัยใช่ไหม ?

 

737-800 เป็นกลุ่มเครื่องบินรุ่นใหม่ในตระกูล Next Generation: NG เป็นเครื่องบินรุ่นที่ "ขายดีที่สุด" ของโบอิ้ง และเป็นรุ่นที่มีการใช้บินกันทั่วโลกมากที่สุดรุ่นหนึ่ง เนื่องจากเป็นเครื่องลำตัวแคบ พิสัยบินระยะปานกลาง จึงมักถูกใช้เป็นเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ หรือเดินทางระหว่างประเทศช่วงสั้นๆ

 

จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์การบิน ซีเรียม พบว่า มีการใช้งานเครื่องรุ่นนี้ประมาณ 4,502 ลำทั่วโลก เฉพาะในอเมริกา มีการใช้งานถึง 795 ลำ และในจีน 1,177 ลำ โดยนับเป็นเครื่องบินรุ่นก่อนที่จะมีการปรับโฉมสู่ยุค 737 Max

 

หากเทียบระหว่างปริมาณการบินกับความถี่ในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ข่าวต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า เครื่องรุ่นนี้ยังอยู่ในขั้นปลอดภัย คือสถิติการเกิดเหตุยังนับว่าน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่นับเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ คือมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ถึง 7 ครั้งด้วยกัน (ตาม Infographic) แม้ว่าบางเหตุการณ์จะไม่ได้มาจากปัญหาของตัวเครื่องบินก็ตาม เช่น กรณีที่กองทัพอิหร่านเข้าใจผิดและยิงเครื่องบินตก ขณะกำลังจะเดินทางไปยูเครน เมื่อปี 2020

 

อาจกล่าวได้ว่า 737-800 เป็นรุ่นยอดนิยม "รองแชมป์" โดยยังเป็นรอง "แอร์บัส A320" จากฝั่งยุโรป ที่ถือเป็นรุ่นฮอตฮิตขายดีอันดับ 1 ทั่วโลก ซึ่งการแพ้แอร์บัสจากการแข่งขันกันในรุ่นนี้ ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โบอิ้งเข็น 737 Max ออกมาสูู้ และกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ตามมา

 

 

 

ทำไมเครื่องตกแบบ "ดิ่งหัวปัก" ?

ข้อมูลจาก Flightradar24 ระบุว่า เที่ยวบินที่ MU5735 ของไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส บินที่ระดับความสูง 29,000 ฟุต (8,839.2 เมตร) และอยู่ห่างประมาณ 100 ไมล์ (160.93 กิโลเมตร) จากจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นจุดที่นักบิน "จะเริ่มลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงจอด" แต่แทนที่จะค่อยๆ ปรับลดเพดานบินลงประมาณ 1,000 ฟุตต่อนาที เครื่องบินกลับปักหัวลง และจากนั้นก็เริ่มดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 30,000 ฟุต (9,144 เมตร) ต่อนาที ภายในเวลาไม่กี่วินาที

 

จอห์น ค็อกซ์ ที่ปรึกษาความปลอดภัยด้านการบินและอดีตนักบินที่มีประสบการณ์ขับเครื่องบินโบอิง 737 กล่าวว่า "นี่เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติ และเป็นเรื่องยากที่เครื่องบินจะบินในลักษณะเช่นนั้น"

 

คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) ระบุว่า เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้มีความคล้ายกับเมื่อครั้งที่เครื่องบินโบอิง 737-300 ของสายการบิน ซิลค์แอร์ พร้อมผู้โดยสาร 104 คน ประสบอุบัติเหตุดิ่งลงสู่แม่น้ำในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด โดยเครื่องบินลำดังกล่าวดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 38,000 ฟุต (11,582 เมตร) ต่อนาที

 

ด้านเพจเฟซบุ๊ก "อยากเป็นนักบิน" ซึ่งเป็นเพจรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการบิน ได้ตั้งข้อสงสัยว่า "เครื่องบินพุ่งดิ่งลงเหมือนดินสอเป็นไปได้อย่างไร" เอาไว้ว่า “Airplane upset” คือการสูญเสียท่าทางการบิน โดยปกติแล้ว เครื่องบินเป็นอากาศยานที่มีเสถียรภาพในการบินที่ดีมาก ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะดับทั้งหมดก็จะยังสามารถร่อนต่อไปได้ จากแรงยกที่ยังคงมีอยู่จากปีก และความสูง (พลังงานศักย์) ที่เปลี่ยนเป็นความเร็ว(พลังงานจลน์)

(ลองนึกภาพเวลาปล่อยเครื่องบินกระดาษลงมาจากที่สูง ต่อให้เราปักหัวทิ่มลงแล้วปล่อย มันก็จะยังคงบินได้) ไม่ใช่ว่าพอไม่มีเครื่องยนต์แล้ว จะหล่นตุ้บเป็นก้อนหิน

277160647_5439396466072674_76

ทีนี้อยู่ที่ว่าความสูงที่มีนั้น จะเปลี่ยนเป็นความเร็วให้สามารถร่อนไปได้ไกลแค่ไหน และจะสามารถประคองไปจนถึงสนามบิน หรือบริเวณที่ปลอดภัยจะลงจอดได้หรือไม่

เครดิตรูปภาพจากสำนักข่าวจีน277221528_5439396482739339_85

 

 

การที่เครื่องบินจะดิ่งหัวทิ้งดิ่งลงมาเป็นดินสอได้นั้น น่าจะมีได้แค่เพียง 2 กรณีคือ

 

1.ปีกหลุดไปทั้งสองข้าง (อาจเกิดจากการระเบิด หรือมีแรง G ที่สูงมากๆ กระทำกับปีก ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ในเครื่องบินโดยสาร) ทำให้ไม่มีแรงยก และตกลงมาทั้งแบบนั้น

 

2.แพนบังคับทิศทาง (control surface) บังคับให้เครื่องบินอยู่ในท่าทางนั้น ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบเครื่องบิน หรือเกิดจากการบังคับของนักบิน ซึ่งโดยปกติแล้ว นักบินจะได้รับการฝึกฝนการแก้ไขทางทางการบินที่ไม่ปกติ (Airplane upset recovery) กันอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว และจะไม่มีทางปล่อยให้เครื่องบินพุ่งลงมาแบบนั่นแน่นอน ยกเว้นจะจงใจ หรือระบบควบคุมการบิน ล็อคอยู่ในท่านั้น และไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ ซึ่งหากจะเทียบกับเคส 737Max ทั้งสองเคส ที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบ MCAS ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเครื่องวิ่งขึ้น และท่าทางการตกไม่ได้พุ่งลงมาแบบนี้

 

อย่างไรก็ตาม เคสของ MU5735 วันนี้นั้น ยังต้องอาศัยข้อมูลอีกหลายด้านเพื่อวิเคราะห์และสรุปถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 



ผลกระทบเครื่องบินตก

 

เหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ของจีน เที่ยวบิน MU-5735 ตกลงบนเทือกเขาสูง ในมณฑลกว่างซี ทางใต้ของจีนครั้งนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตยกลำ 132 คน นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ของจีน โดยโศกนาฎกรรมทางเครื่องบินในจีนครั้งก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในเดือน ส.ค. ปี 2010 กับเครื่องบิน Embraer ERJ 190-100 (ประเทศบราซิล) ของสายการบิน เหอหนาน แอร์ไลน์ส โดยเครื่องกระแทกพื้นขณะพยายามลงจอด มีผู้เสียชีวิต 44 คน และรอดชีวิต 52 คน

 

เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ ทำให้จีนยกเลิกเที่ยวบินในวันถัดมาหลังเกิดเหตุ (22 มี.ค. 2565) ถึง 74% จากทั้งหมด 11,800 เที่ยวในจีน รวมถึงเที่ยวบินส่วนใหญ่ระหว่างปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ ทั้งที่โดยปกติแล้วจะเป็นเส้นทางภายในประเทศที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และนอกจากเที่ยวบินพาณิชย์แล้ว ยังกระทบไปถึงเที่ยวบินขนส่งสินค้าด้วย

 

ก่อนหน้านี้ การเดินทางด้วยเครื่องบินในจีนก็ถูกยกเลิกในระดับสูงอยู่แล้วจากมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก VariFlight บ่งชี้ว่า วันนี้มีอัตราการยกเลิกเที่ยวบินสูงที่สุดในปีนี้และสูงเป็น 2 เท่าของเมื่อต้นเดือนนี้

 

เที่ยวบินของสนามบินหงเฉียวทั้งหมด 35 เที่ยวจากเซี่ยงไฮ้ไปยังปักกิ่งสำหรับวันนี้ มี 2 เที่ยวบินที่ให้บริการไปแล้วในช่วงเช้าและอีก 3 เที่ยวบินมีกำหนดจะขึ้นบิน ส่วนเที่ยวบินอื่น ๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด ขณะเดียวกัน เที่ยวบินทั้งหมด 34 เที่ยวจากปักกิ่งไปยังเซี่ยงไฮ้ในสนามบินเดียวกันนี้ มีเพียง 5 เที่ยวเท่านั้นที่ให้บริการตามกำหนด

 

อย่างรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินในอนาคต ระหว่างโบอิ้งกับแอร์บัส ตามมาหรือไม่ โดยจีนนั้นถือเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT