การเงิน

นักลงทุนแห่ถือครองเงินสดสูงสุดรอบ20ปี ลดความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

18 พ.ค. 65
นักลงทุนแห่ถือครองเงินสดสูงสุดรอบ20ปี   ลดความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

ผลสำรวจผู้จัดการกองทุนของแบงก์ ออฟ อเมริกา ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 บ่งชี้ว่า นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดมากกว่าที่จะนำไปลงทุน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Stagflation หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

 

ผลสำรวจ ระบุว่านักลงทุนถือครองเงินสดที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2544  โดยนักลงทุนที่มีทรัพย์สินรวมกันมูลค่า 8.72 แสนล้านดอลลาร์ มองว่า การคุมเข้มนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ถือเป็นความเสี่ยงที่สุด ส่วนความเสี่ยงที่รองลงมาคือ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย  ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Stagflation (เงินเฟ้อสูงเศรษฐกิจแย่) ได้เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551

กราฟประเมืนความเสี่ยงของเศรษฐกิจ
กราฟแสดง ปัจจัยที่นักลงทุนมองว่าเป็นความเสี่ยง เปรียบเทียบจากเดือนเมษายน 2565



สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ผลสำรวจของเดือนพฤษภาคมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งทรุดตัวลงรายสัปดาห์ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับธนาคารกลางทั่วโลกที่เริ่มหันมาคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 7.9 ครั้งในวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าผลสำรวจในเดือนเมษายน ที่คาดไว้ที่ 7.4 ครั้ง

 

นอกจากนี้นักลงทุนได้ ปรับเปลี่ยนหุ้นที่ลงทุนโดยหันไปซื้อหุ้น Defensive Stocks หรือหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี โดยให้น้ำหนักการถือครองหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเฮลท์แคร์มากที่สุด

advertisement

SPOTLIGHT